สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ว่า นายคอมโมดอร์ เจย์ ทาร์ริเอลา โฆษกหน่วยยามชายฝั่งฟิลิปปินส์ กล่าวว่า เรือยักษ์ของหน่วยยามฝั่งจีน ความยาว 165 เมตร แล่นเข้าสู่อีอีแซดของรัฐบาลมะนิลา เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งหน่วยยามชายฝั่งของฟิลิปปินส์ได้แจ้งเตือนการรุกล้ำของจีน และสอบถามเจตนาของอีกฝ่าย
“มันเป็นการข่มขู่จากหน่วยยามชายฝั่งของจีน ซึ่งพวกเราจะไม่ถอนตัว และเราจะไม่ยอมถูกข่มขู่” ทาร์ริเอลา กล่าวเพิ่มเติมว่า เรือขนาดใหญ่ของจีน จอดอยู่ห่างจากเรือของหน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ประมาณ 800 หลา
ด้านสถานเอกอัครราชทูตจีนในกรุงมะนิลา, กระทรวงการต่างประเทศของจีน และหน่วยยามชายฝั่งของจีน ยังไม่แสดงความเห็นตอบกลับต่อเหตุการณ์ดังกล่าว หรือรายงานของทางการฟิลิปปินส์แต่อย่างใด
เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา หน่วยยามฝั่งของฟิลิปปินส์ ส่งเรือลำหนึ่งไปยังแนวสันดอนซาบีนา เพื่อขัดขวางการถมทะเลขนาดเล็กของจีน ซึ่งฝ่ายจีนปฏิเสธคำกล่าวหาข้างต้น
อนึ่ง จีนดำเนินการถมทะเลเพื่อสร้างเกาะเทียมเป็นบริเวณกว้าง บนหมู่เกาะบางแห่งในทะเลจีนใต้ รวมถึงสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกทางทหาร ส่งผลให้เกิดความกังวลในรัฐบาลวอชิงตัน และภูมิภาคโดยรอบ
ทั้งนี้ จีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำแทบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ และปฏิเสธคำวินิจฉัยของคณะอนุญาโตตุลาการถาวร เมื่อปี 2559 ซึ่งระบุว่า การอ้างสิทธิของจีน ไม่มีพื้นฐานทางกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการเจรจาระดับสูง ฟิลิปปินส์และจีน ก็เห็นชอบร่วมกันในวันอังคารที่ผ่านมา ถึงความจำเป็นในการ “ฟื้นฟูความไว้วางใจ” และ “การสร้างความเชื่อมั่นใหม่” เพื่อจัดการกับข้อพิพาททางทะเลให้ดียิ่งขึ้น.
เครดิตภาพ : AFP