เมื่อวันที่ 5 ก.ค. พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เมื่อเย็นวานนี้ (4 ก.ค.) ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.บุญเชิญ ลิ้มประจวบพงษ์ ผกก.สภ.สิชล ว่า มีเหตุพบศพเสียชีวิตปริศนาไม่ทราบสาเหตุในสวนปาล์มน้ำมัน ซอยนาหัน 2 หมู่ 3 ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช หลังรับแจ้งเหตุจึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ปรุฬชัย เหมกัง รอง ผกก.(สอบสวน) ร.ต.อ.วีรศักดิ์ มะลิทอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.สิชล แพทย์เวร รพ.สิชล เจ้าหน้าที่มูลนิธิเพชรเกษมนครศรีธรรมราช (สิชล) ร่วมเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณร่องดินในสวนปาล์มน้ำมัน พบศพผู้ตายเป็นชายชาวเมียนมา ถูกฝังดินครึ่งท่อน สภาพศพพองอืด ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ไม่สวมเสื้อ โดยมีกองดินเทกลบทับปิดร่างท่อนบนตั้งแต่เอวจนถึงลำคอ ก่อนใช้เศษทางมะพร้าว ทางปาล์มและหญ้าปิดทับศพไว้อีกชั้น ทราบชื่อ นายโจวเซเว่น อายุประมาณ 35-40 ปี เป็นแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ได้มาทำงานก่อสร้างในพื้นที่ อ.สิชล และพื้นที่ใกล้เคียงมานานหลายเดือนแล้ว โดยเช่าบ้านอยู่กับเพื่อนคนงานชาวเมียนมาด้วยกัน 2 คน

โดยจากการตรวจสอบชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถตรวจหาร่องรอยบาดแผลของศพได้ชัดเจน เนื่องจากศพพองอืดเสียชีวิตมาหลายวันแล้ว จึงนำศพนายโจวเซเว่น ไปยัง รพ.สิชล เพื่อให้แพทย์ รพ.สิชล ทำการผ่าชันสูตรศพ พบบาดแผลโดนตีด้วยของแข็งที่ศีรษะจนแตกร้าว ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร พบบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ ซึ่งเป็นบ้านเช่าที่ผู้ตายมาเช่าอยู่กับเพื่อนๆ ชาวเมียนมารวม 2 คน แต่เพื่อนชาวเมียนมาอีกคนได้หายตัวไป และจากการตรวจที่บริเวณบ้านเช่าของผู้เสียชีวิต บริเวณใต้ถุนบ้าน พบร่องรอยการลากศพ ร่องรอยการต่อสู้ และยังพบเคสโทรศัพท์มือถือของผู้ตายตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน อยู่ระหว่างการติดตามตัวเพื่อนชาวเมียนมาของผู้ตายมาสอบสวนปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป

นายสวัสดิ์ ณ นคร ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า ผู้ตายพร้อมเพื่อนชาวเมียนมา ที่ทำงานก่อสร้างด้วยกัน ได้เบิกเงินค่าจ้างจากนายจ้าง ช่วงวันเสาร์ที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา และในวันวันอาทิตย์ที่ 30 มิ.ย. ได้พบเห็นคนตายปั่นรถจักรยานไปซื้อเหล้าขาวที่ร้านค้าในหมู่บ้านมานั่งกินที่บ้านเช่ากับเพื่อนคนงานชาวเมียนมา จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเมาและทะเลาะกันเอง และฆ่ากันตายในช่วงตอนค่ำวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา ก่อนเพื่อนชาวเมียนมา จะลากศพมาทิ้งร่องดินในสวนปาล์มน้ำมันใกล้บ้านเช่าประมาณ 100 เมตร โดยใช้ดินกลบร่างครึ่งท่อนตัว แล้วเอาทางปาล์มและทางมะพร้าวปิดทับร่าง ก่อนมีชาวบ้านมาพบศพดังกล่าว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนายมิว เพื่อนที่พักอยู่ด้วยกันกับผู้ตาย ซึ่งหายตัวไปหลังเกิดเหตุ โดยไปอยู่กับเพื่อนชาวเมียนมาอีกคน ที่อยู่ห่างกันประมาณ 5 กิโลเมตร สอบสวนนายมิว ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าไม่รู้เรื่องการตายของเพื่อน ตั้งแต่เพื่อนได้หายตัวไปจากบ้าน ตนไม่กล้าอยู่คนเดียว จึงให้เพื่อนชาวเมียนมาอีกคนมารับ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่มั่นใจว่านายมิว คือ ฆาตกรที่ก่อเหตุ แต่ยังขาดประจักษ์พยานมัดตัว จึงได้ตามตัวเพื่อนชายที่นายมิว ไปพักมาสอบสวนเพิ่ม จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานเสนอขอหมายจับนายมิว หลังจากเจ้าหน้าที่นำหมายศาลมาโชว์ ปรากฏว่านายมิว ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ลงมือฆ่าเพื่อน เนื่องจากทะเลาะกันในวงเหล้า จึงได้นำผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ ก่อนนำตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.