“ความสุขในชีวิตอีกเรื่องที่ชอบที่สุดก็คือ…การขี่ม้า เป็นที่มาของการทำฟาร์มเลี้ยงม้า” …เสียงจาก “คุณหมอปอ-รศ.นพ.นพดล สโรบล” แพทย์ผู้ชำนาญการด้านสูติศาสตร์นรีเวชวิทยา เวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ หัวหน้าศูนย์สูติ-นรีเวช โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ พูดถึง “สิ่งที่ทำให้มีความสุข” ที่เรื่องหนึ่งคือการ “ขี่ม้า” นอกเหนือจาก “ทำหน้าที่แพทย์-ให้ความรู้ทางการแพทย์” อย่างเรื่องการมีบุตร-คลอดบุตร และล่าสุดยังรวมถึงการ “ให้ความรู้เรื่องเพศ-เรื่องเซ็กซ์” โดยคุณหมอให้เกียรติเป็น “พิธีกรร่วม” กับพิธีกรตัวมัม-ตัวแม่ “ซานิ-นิภาภรณ์ ฐิติธนการ” เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ผ่าน รายการ “เสพสม บ่มิสม Stories by เดลินิวส์” ทางออนไลน์ ที่นำคอลัมน์ดังจาก “หนังสือพิมพ์เดลินิวส์” สู่แพลตฟอร์ม “เดลินิวส์ออนไลน์” คือ… Youtube : DailynewsOnline และวันนี้ ณ ที่นี้เราจะพาไปพูดคุยกับคุณหมอท่านนี้…

“คุณหมอปอ-รศ.นพ.นพดล สโรบล” เล่าย้อนชีวิตให้ฟังว่า… เกิดและโตที่ประเทศไทย จนหลังจากเรียนจบชั้น ป.7 อายุได้สักประมาณ 11 ปี ก็ถูกส่งไปเรียนต่อที่อังกฤษ จนเรียนจบแพทยศาสตร์ หลังจากนั้นก็สอบวุฒิบัตรเป็น “สูตินรีแพทย์” และใช้ชีวิตทำงานเป็นหมอสูติ-นรีเวช 2 ปีที่ต่างประเทศได้ แล้วก็กลับมาที่ประเทศไทย โดยคุณหมอพูดถึง “จุดเปลี่ยนชีวิต” เรื่องนี้ว่า ที่ต้องกลับมาใช้ชีวิตและทำงานที่ไทยตอนนั้นเป็นเพราะว่าช่วงที่แต่งงานและมีลูก คุณแม่ของคุณหมอซึ่งอยู่ประเทศไทยอยากเห็นหลาน แต่ท่านไม่อยากบินไปหาหลานที่ต่างประเทศ ก็เลยสั่งให้คุณหมอกับครอบครัวกลับมาอยู่เมืองไทย

หลังกลับมาเมืองไทย ก็ทำงานเป็นแพทย์สูติ-นรีเวช เพราะคุณหมอมีความชำนาญการด้านการทำคลอดบุตร ไม่ว่าจะเป็นการผ่าคลอด หรือการคลอดแบบธรรมชาติ โดยเรื่องการคลอดบุตรนั้นคุณหมอบอกว่า… ปัจจุบันคุณแม่ส่วนใหญ่มักจะถือฤกษ์ถือดวงในการคลอดบุตรมากขึ้น ทำให้ส่วนใหญ่จึงชอบเลือกวิธีการผ่าคลอด แต่กระนั้น…ถึงแม้การผ่าคลอดจะสะดวกทั้งกับคนไข้และตัวหมอ แต่คุกับคุณหมอเองก็ยังคงยึดอุดมการณ์ตามหลักวิชาการ ด้วยการ พยายามรณรงค์และแนะนำให้คุณแม่คลอดเองตามธรรมชาติ มากกว่า ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้มีคนไข้ที่เข้ามาปรึกษา และขอให้คุณหมอปอช่วยดูแลการทำคลอดเยอะมาก โดยเฉพาะกลุ่มคุณแม่ที่ต้องการคลอดบุตรตามธรรมชาติ ซึ่งคุณหมอบอกว่า คนไข้ต่างชาติจะนิยมการคลอดบุตรแบบธรรมชาติมากกว่าผ่าคลอด เพราะการคลอดตามธรรมชาติเป็นประโยชน์ทั้งกับแม่และลูกมากกว่าการผ่าคลอดนั่นเอง

ส่วน “ความสุข” เรื่องหนึ่งของคุณหมอ อย่างการ “ขี่ม้า-เลี้ยงม้า” นั้น เรื่องนี้คุณหมอเล่าให้ฟังว่า… รักและชื่นชอบการขี่ม้ามาตั้งแต่เด็ก ๆ พอมีโอกาสจึงทำฟาร์มม้าของตัวเองขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า “ฟาร์มหมอปอ” ตั้งอยู่ที่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยคุณหมอบอกว่า… “ฟาร์มม้านี้เกิดจากความฝันอยากจะมีพื้นที่ไว้ขี่ม้ากับคุณพ่อ เพราะครอบครัวเราชื่นชอบการขี่ม้า โดยเฉพาะคุณพ่อนั้นชอบขี่ม้ามาก และตัวหมอเองก็ชอบมาตั้งแต่เด็ก จนหลังจากคุณพ่อเริ่มอายุมากขึ้น เราก็เลยมีความคิดว่าจะสร้างบ้านพักตากอากาศ และซื้อม้ามาเลี้ยงสัก 1-2 ตัว ก็เลยไปหาซื้อที่ดินที่เขาใหญ่ แต่หลังสร้างยังไม่ทันเสร็จ คุณพ่อก็ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ ทำให้ความฝันจะได้ขี่ม้ากับคุณพ่อต้องหายไป”

“ขี่ม้า” คืออีกสิ่งที่ทำให้มีความสุข

อย่างไรก็ตาม แม้โปรเจคท์บ้านพักตากอากาศเพื่อขี่ม้าเล่นกับคุณพ่อล้มไป คุณหมอก็ทำเป็นฟาร์มเลี้ยงม้าแทน โดยเล่าว่า… ช่วงที่กำลังสร้างบ้านพักตากอากาศ ก็ซื้อม้ามาเลี้ยง 2-3 ตัวแล้ว จากนั้นก็เป็นเหมือนเสพติด โดยคุณหมอเปรียบเทียบความชอบเรื่องม้าว่า… ไม่ต่างจากผู้หญิงที่ชอบซื้อกระเป๋า โดยตัวคุณหมอนั้นเวลาได้ดูรูปม้าจากอินเทอร์เน็ต แล้วเวลาที่เห็นม้าสวย ๆ คุณหมอก็อดไม่ได้ที่จะสั่งซื้อม้าเข้ามาเลี้ยง จนกว่าจะรู้ตัวอีกทีคุณหมอก็มีม้าที่ซื้อมาเลี้ยงไว้ 70 ตัวเข้าไปแล้ว

สบาย ๆ สไตล์ “คนรักม้า”

ทั้งนี้ “คุณหมอปอ” ที่ปัจจุบันเป็น พิธีกรให้ความรู้ผ่านรายการ “เสพสม บ่มิสม Stories by เดลินิวส์” ทางออนไลน์ ด้วย ยังได้บอกเล่าถึงเรื่อง “ม้า” ที่ชื่นชอบต่อไปว่า… ช่วงแรก ๆ ก็ทำเป็นบ้านพักตากอากาศไว้พักผ่อน และมักจะชักชวนเพื่อน ๆ ให้มาเที่ยว มาขี่ม้าด้วยกัน จนมีเพื่อน ๆ แนะนำว่าการเลี้ยงม้าแบบนี้มีค่าใช้จ่ายสูง ทำไมไม่ลองทำเป็นฟาร์มเปิดและให้คนเข้ามาเที่ยวเพื่อเก็บเงินดูล่ะ ซึ่งต่อมาคุณหมอก็เห็นด้วยกับไอเดียนี้ จึงเปิดฟาร์มม้าของตัวเองเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่นอกจากจะมีม้าไว้ให้เด็ก ๆ ขี่แล้ว ก็ยังมีสัตว์อื่น ๆ ทั้งแกะ แพะ หมู เป็ด ไก่ ไว้ให้เด็ก ๆ ได้ดูได้เล่นอีกด้วย

ลูกม้าที่ “ฟาร์มหมอปอ” เพาะพันธุ์

“จริง ๆ ตอนแรกก็ไม่ได้เห็นด้วยกับคำแนะนำของเพื่อน ๆ นะ แต่มาคิดอีกทีก็อยากเปิดพื้นที่ให้เด็ก ๆ ได้มาเล่น มาขี่ม้า และได้สัมผัสกับธรรมชาติ ซึ่งที่เมืองนอกที่หมอเคยอยู่นั้นจะมีพื้นที่สวนป่าให้เด็ก ๆ ไปเดินไปเล่น ซึ่งหมอก็มองว่า…เด็กไทยส่วนใหญ่มักจะอยู่แต่ในห้างสรรพสินค้า หรือไม่ก็อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ หน้าโทรศัพท์ ก็เลยอยากให้เด็กไทยได้สัมผัสกับธรรมชาติ จึงทำฟาร์มเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว” …คุณหมอเล่าที่มาเรื่องนี้

เปิดให้เด็ก ๆ มาขี่ม้า-สัมผัสธรรมชาติ

นอกจากคุณหมอจะเปิดฟาร์มเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวแล้ว “ฟาร์มหมอปอ” ก็ยังมีการเพาะพันธุ์ม้าอีกด้วย โดยคุณหมอบอกว่า… ตอนนี้กำลังเพาะขยายพันธุ์ ม้าสายพันธุ์สเปนชื่อ “แอนดาลูเซียน” ที่เป็น สายเลือดคาธูเซี่ยน (carthusian) สายเลือดบริสุทธิ์แท้ 100% อีกทั้งยังเป็นสายพันธุ์ที่สเปนได้ทำการอนุรักษ์ไว้ โดยทางคุณหมอได้ติดต่อขอซื้อพ่อแม่พันธุ์เข้ามาเพื่อนำมาเพาะพันธุ์ ซึ่งจะมีการจำหน่ายให้กับคนรักม้าด้วยกันด้วย และนอกจากเปิดฟาร์มเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้เด็กไทยได้มาสัมผัสม้าและธรรมชาติแล้ว ด้วยความที่ฟาร์มม้า มีแต่สัตว์เลี้ยง และมีพื้นที่สนามเด็กเล่นแบบธรรมชาติไม่มาก คุณหมอจึงตัดสินใจต่อยอดด้วยการทำ “สนามเด็กเล่นแบบธรรมชาติ” ที่ ต.บางกระเจ้า อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ด้วย

“สนามเด็กเล่นแบบธรรมชาติที่ ต.บางกระเจ้า เป็นการต่อยอดจากที่ฟาร์ม หมอมองว่าที่ฟาร์มมีแต่คอกม้า ไม่มีสนามเด็กเล่นธรรมชาติ จึงมาทำที่นี่ โดยมีการออกแบบเครื่องเล่นต่าง ๆ ให้เด็กได้ปีนป่าย ได้เล่นเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการของเด็ก ๆ อีกทั้งด้วยความที่พื้นที่บางกระเจ้ายังมีธรรมชาติที่สมบูรณ์อยู่มาก สนามเด็กเล่นแห่งนี้จึงช่วยให้เด็ก ๆ ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ได้สัมผัส และได้เรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งส่งผลดีต่อเด็กทั้งด้านร่างกายและจิตใจ” …คุณหมอระบุถึง “ความสำคัญ” ของ “สนามเด็กเล่นแบบธรรมชาติ” นี้

ในช่วงท้ายของการสนทนากัน ทาง “คุณหมอปอ-รศ.นพ.นพดล สโรบล” ที่หลายคนให้ฉายา “หมอรักม้า” และปัจจุบันยังให้เกียรติเป็น “หมอกูรูเรื่องเพศ-เรื่องเซ็กซ์” ให้ความรู้ใน รายการ “เสพสม บ่มิสม Stories by เดลินิวส์” ทาง Youtube : DailynewsOnline ด้วย ยังได้ทิ้งท้ายถึงเรื่อง “ม้า” ไว้ว่า… “ฟาร์มม้า เป็นพื้นที่ซึ่งหมอชอบ หมอรัก ดังนั้นเวลาที่ได้ไปอยู่ในฟาร์มจึงมีความสุขทุกครั้ง และจากเดิมที่หมอนั้นมีความสุขที่ได้ขี่ม้า ได้เลี้ยงม้า ตอนนี้ยังมีความสุขเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งอย่างด้วย คือการที่ได้เห็นเด็ก ๆ มาเรียนขี่ม้ากันเยอะขึ้นที่ฟาร์มม้าของหมอ จนทำให้เกิดความฝันที่ตั้งใจจะทำให้เป็นจริงอีกอย่าง ก็คือ…อยากเห็นคนไทยขี่ม้ากันมากขึ้น”.

‘เติมความรู้ใหม่ ๆ’ เรื่อง ‘เซ็กซ์’

“เรื่องเซ็กซ์…การให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนก็เป็นสิ่งที่สำคัญ” …ทาง “คุณหมอปอ-รศ.นพ.นพดล สโรบล” ระบุไว้ ซึ่งนี่ก็เป็นที่มาของการที่คุณหมอตัดสินใจ “ให้ความรู้เรื่องเซ็กซ์ที่ถูกต้องเหมาะสม” ผ่าน รายการ “เสพสม บ่มิสม Stories by เดลินิวส์” ทาง Youtube : DailynewsOnline ที่นำเสนอคืนวันอังคาร เวลา 21.30 น. เป็นการ “สร้างมิติใหม่” นำคอลัมน์ “เสพสม บ่มิสม” ที่โด่งดังใน “หนังสือพิมพ์เดลินิวส์” สู่แพลตฟอร์ม “เดลินิวส์ออนไลน์” รองรับสังคมไทยยุคปัจจุบัน และรองรับยุคหลากหลายทางเพศด้วย ซึ่งนอกจากพิธีกรร่วมคือ “ซานิ” ก็จะมี แขกรับเชิญแซ่บ ๆ มาแชร์ประสบการณ์สุดจึ้ง อาทิ… ตอน 1 ที่นำเสนอไปแล้วคือ “ตอนยอน-รัชชานนท์ วิลวัฒน์”, ตอน 2 อังคารที่ 9 ก.ค. 2567 คือ “แน๊ต-จุติณัฏฐ์ ชัยเฉลิมพล” หรือ “แน๊ต-เกศริน”, ตอน 3 อังคารที่ 16 ก.ค. 2567 คือ “โดม-วรนาถ รัตธนภาส” และ “คุณหมอเบียร์-นพ.สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน” ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์ชาย, ตอน 4 อังคารที่ 23 ก.ค. 2567 คือ “ครูแพรว-แพรวไพลิน กสิวัฒนา” เป็นต้น


“คุณหมอปอ” ระบุว่า… เรื่องเซ็กซ์เรื่องเพศมีการพัฒนาตลอด บางครั้งก็ไปในทางที่ถูกต้อง แต่บางครั้งก็ไปในทางลบ ยิ่งปัจจุบันเรื่องเซ็กซ์เปิดกว้างมากขึ้น มีมุมมองใหม่ ๆ มีรูปแบบใหม่ ๆ ต่างจากในอดีต ดังนั้นจึงต้องเติมความรู้ใหม่ ๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องนี้ ซึ่งพอดีกับที่ “เดลินิวส์” ได้ทำ รายการ “เสพสม บ่มิสม Stories by เดลินิวส์” ทางออนไลน์ ซึ่งรายการนี้จะเป็นประโยชน์จากการเปิดทัศนคติใหม่ ๆ เปิดมุมมองใหม่ ๆ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้ หรือทำให้ได้ข้อคิด รวมถึงข้อควรระวังเกี่ยวกับเรื่องเซ็กซ์เรื่องเพศ ทั้งนี้ “คุณหมอปอ” ระบุด้วยว่า… “เพราะปัญหาเรื่องเพศคือเรื่องที่คนอยากรู้ แต่มักไม่กล้าแชร์กับคนอื่น ซึ่งเชื่อว่ารายการนี้จะช่วยคนได้เยอะ จะมีประโยชน์มากกับคนดู”.

ทีมสกู๊ปเดลินิวส์ : รายงาน