นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่ จ.นครราชสีมา ที่ผ่านมา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) และภาคีเครือข่าย ได้ร่วมบูรณาการนำเสนอศักยภาพดิจิทัลขั้นสูงของประเทศ เพื่อรองรับการพัฒนาแรงงานสมรรถนะสูง ตอบสนองอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า หรือ อีวี ระดับโลก ผ่านโครงข่าย ดีอี แพลตฟอร์ม เชื่อมโยงการถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมระหว่างประเทศอย่างไร้พรมแดน
“กระทรวงดีอี และหน่วยงานพันธมิตร มีแนวคิดการจัดตั้งศูนย์อบรม หรือเทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ ระดับชาติ เพื่อขยายสู่ภูมิภาคและสากล รองรับการขับเคลื่อนนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม โดยอาศัยความพร้อมของ มทร.อีสาน เป็นฐานการผลิตกำลังแรงงาน ร่วมกับภาคีเครือข่าย และพร้อมสนับสนุนโครงข่าย ดีอี แพลตฟอร์ม เพื่อการทำงานภายใต้ความร่วมมือด้านการพัฒนากำลังแรงงานสมรรถนะสูงทุกมิติของเทคโนโลยียนตรกรรม อีวี ระดับโลก รวมถึงระบบวีอาร์ เทรนนิ่ง ซึ่งเป็นนวัตกรรมเพื่อรองรับการพัฒนาทักษะกำลังคนด้านอีวี ด้วยเทคนิค และองค์ความรู้มาตรฐานระดับโลก”
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า โครงการนี้จะช่วยสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลให้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคต (ฟีเจอร์ โมบิลิตี้ ฮับ) โดยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และชิ้นส่วนที่สำคัญที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผลักดันให้ประเทศไทยเป็น อีวี ฮับ และ 10 อันดับแรกของโลกในการผลิตยานยนต์ที่ไม่ปล่อยมลพิษให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดของประเทศไทย ในปี 2573 หรือคิดเป็นกำลังการผลิตรถยนต์ประมาณ 725,000 คัน และรถจักรยานยนต์ประมาณ 675,000 คัน โดย มทร.อีสาน จะขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตามภารกิจของกระทรวง อว. ฟอร์ อีวี ดำเนินการใน 3 แผนงาน พัฒนากำลังคน เพิ่มสัดส่วนการใช้รถอีวี และหนุนงบวิจัยอีวี ทั้งระบบ เพื่อสร้างอุตสาหกรรมใหม่ให้กับประเทศ และสร้างอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน