เมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 2 ก.ค. นายอุดม สุวรรณฆะนะ ผู้ใหญ่บ้านนาจอมเทียนหมู่ 1 พร้อมผู้ช่วยฯ ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบบริเวณชายหาดนาจอมเทียน ช่วงหน้าร้านข้าวต้มเศรษฐี หมู่ 1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังชาวบ้านแจ้งว่า ได้พบพระภิกษุสงฆ์ ขับรถตู้ อีซูซุ สีเหลือง สภาพเก่า ทะเบียน ฒว 9319 กรุงเทพมหานคร มาจอดเที่ยวชมวิวบริเวณชายหาด ขอให้ช่วยตรวจสอบว่า เป็นพระสงฆ์จริงหรือไม่ และการกระทำดังกล่าวเหมาะสมหรือไม่
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/07/1719880857170-1280x721.jpg)
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยังคณะสงฆ์ ประกอบด้วย พระครูปิยะกิจวิบูล หรือ อาจารย์แก้ว เจ้าคณะตำบลนาจอมเทียน พระครูสมศักดิ์ ตาณโร เจ้าอาวาสวัดนาจอมเทียน พระครูปลัดวินัย ธีรปปัญโญ เลขานุการรองเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี ร่วมลงพื้นที่เข้าตรวจสอบพบว่า พระรูปดังกล่าว คือ หลวงตาหนูที ทินราช อายุ 76 ปี กำลังนั่งอยู่ที่เบาะคนขับในชุดพระสงฆ์ ไม่มีหนังสือสุทธิปัจจุบันมาแสดง มีแต่เล่มเก่าที่ออกในปี 2534 ครั้งบวช ณ วัดจอมศรี จ.อุดรธานี ตรวจสอบภายในรถ พบอาหารที่ได้จากการรับบิณฑบาตจากญาติโยม วางกองกระจัดกระจายเกลื่อนรถ ถูกทิ้งให้บูดเน่าเหม็น นอกจากนี้ ยังพบกองอุจจาระถ่ายทิ้งไว้ และพบเสื้อผ้าชุดฆราวาสหลายชุด โดยอ้างว่า เป็นของลูกชายที่ป่วยพิการ
ด้าน หลวงตาหนูที เผยว่า ได้ขับรถตู้มาพร้อมกับลูกชายพิการ (ไม่พบในที่เกิดเหตุ) ออกเดินทางจากบ้านพักใน จ.นครราชสีมา มุ่งหน้าสู่ชายฝั่งตะวันออก อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งมีโปรแกรมจะพาลูกมาเที่ยวพักผ่อนทะเล ระหว่างทางเจอด่าน ก็ไม่มีตำรวจคนใดว่า เพราะรู้จักตนเป็นอย่างดี ส่วนสาเหตุที่บวชเพราะชรามากแล้ว ไม่รู้จะไปทำอะไร ตอนนี้ถูกจับสึกแล้ว ก็ไม่รู้จะไปทำอาชีพอะไรต่อได้ คงต้องขับรถเดินทางกลับไปอยู่บ้านเกิด
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/07/1719880868135-1280x721.jpg)
เบื้องต้น คณะสงฆ์ได้ทำการตรวจสอบพิจารณาแล้วเห็นว่า การขับรถ แม้เป็นความผิดไม่ถึงขั้น “ปาราชิก” แต่ทางมหาเถรสมาคม ได้มีมติห้ามภิกษุสามเณรขับรถยนต์ การอ้างว่า ขับรถมาเที่ยวพักผ่อนทะเล โดยเฉพาะยามค่ำคืน ได้ทำลายภาพลักษณ์ต่อผู้พบเห็น จึงถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง รวมถึงไม่มีสังกัดวัดที่แน่ชัด และไม่มีหนังสือสุทธิปัจจุบันมายืนยันตัวตน จึงได้ทำการสึกให้ลาสิกขาเป็นฆราวาส และอนุญาตให้ขับรถเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนา
นอกจากนี้ ยังตรวจประวัติพบว่า พระหนูที ตกเป็นข่าวมีชื่อเสียงโด่งดังกับการใช้สัตว์ อาทิ สุนัข แพะ ลา เดินลากรถเข็นใส่อาหาร ขอเรี่ยไรรับบิณฑบาต จนถูกแจ้งจับดำเนินคดีในความผิดฐานทารุณกรรมสัตว์ และถูกจับสึกมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่ช่วงปี 59-66 จนมาพบว่ากลับมาบวชเป็นภิกษุอีกครั้ง ด้วยบทบาทขับรถตู้ตระเวนท่องเที่ยวพื้นที่ชายหาด ตามแนวชายฝั่งภาคตะวันออก.