คุณจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. (TCEB) เผยถึงความร่วมมือในการจัดงาน Thailand MICE X-Change 2024 ภายใต้กลยุทธ์ Partnership for Business Success ของ TCEB ว่า งาน Thailand MICE X-Change 2024 เกิดจากแนวคิดที่ต้องการให้อุตสาหกรรมไมซ์ เป็นจุดเด่นด้านการค้าของไทย โดยร่วมกับสมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) หรือ TEA จัดงาน Showcase ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไมซ์เพื่อกระตุ้นให้หน่วยงานและองค์กรต่างๆ ได้มีโอกาสเลือกหาผลิตภัณฑ์ บริการและเทคโนโลยีที่มีคุณภาพ สำหรับการจัดงานแสดงสินค้า งานประชุมและงานสัมมนา เพื่อนำเครื่องมือไปใช้ในการเพิ่มมิติความน่าสนใจให้กับหน่วยงานตัวเอง ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนภาคธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศ

งานในครั้งนี้นับเป็น Showcase ระบบนิเวศน์ของอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE Ecosystem) ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เป็นการรวมตัวของผู้ขายหรือซัพพลายเออร์ที่ครอบคลุมทุก Sector ของอุตสาหกรรมไมซ์ ทั้งงานแสดงสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่อง การประชุม การสัมมนา การอบรม การศึกษาดูงาน ทั้งนี้ ไม่ได้มีแค่ผู้ประกอบการในกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ยังมาจากทุกภูมิภาค อาทิ ภูเก็ต สงขลา หัวหิน พัทยา นครปฐม เชียงราย ขอนแก่น เป็นต้น สะท้อนให้เห็นว่าอุตสาหกรรมไมซ์ได้ขยายตัวไปยังหลายเมืองและมีความพร้อมในการประกอบการเชิงธุรกิจ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีของอุตสาหกรรมไมซ์ไทย

น.ส.ปนิษฐา บุรี นายกสมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) หรือ TEAและประธานการจัดงาน Thailand MICE X-Change 2024 เผยนับจากนี้ Thailand MICE X-Change จะเป็นงานประจำปีของสมาคมฯ เพื่อให้สมาชิกได้มีโอกาสแสดงศักยภาพของตนเองในด้านการจัดงานให้ลูกค้าได้เห็น ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีแรกและงานนี้ถือเป็นงานแรกของประเทศไทย ที่มีเป้าหมายส่งเสริมธุรกิจของสมาชิกและผู้ประกอบการ ตลอดองคาพยพของการจัดงานแสดงสินค้าและการประชุม ให้มีโอกาสได้เชื่อมต่อ เชื่อมโยง หรือ รีคอนเน็ค กับลูกค้าดั้งเดิม และเปิดช่องทางให้ได้พบกับลูกค้ารายใหม่ๆ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์องค์กรและ แบรนด์ดิ้งให้กับลูกค้า

ภายในงานจะเป็นการรวมครบจบที่เดียวของซัพพลายเออร์เกี่ยวกับการจัดงานแสดงสินค้าและการประชุม ได้แก่ สถานที่จัดงานแสดงสินค้า การจัดประชุมและโรงแรม/ ผู้จัดงานแสดงสินค้า ผู้บริหารการจัดงาน/ ผู้รับเหมาด้านการขนย้ายสินค้า/ ผู้รับเหมาด้านโครงสร้างและส่วนตกแต่ง/ ผู้รับเหมาด้านอุปกรณ์ภาพ แสง เสียง/ ผู้ให้บริการการออกแบบและจัดการกิจกรรมพิเศษ/ ผู้ให้บริการด้านโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และสื่อโฆษณา เป็นต้น ใช้พื้นที่สำหรับการจัดงาน 1,300 ตารางเมตร ผู้ประกอบการร่วมงาน 81 ราย โดยรูปแบบการจัดงานจะเป็นไปในแนวทาง Sustainable ดังนั้น วัสดุ การดีไซน์บูธ จะไม่ใช่แค่คงตามคอนเซ็ปท์ธีมงานเท่านั้น แต่ยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้

นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังได้จัดให้มีการสัมมนาและการเสวนาในหัวข้อที่เกี่ยวกับการจัดการธุรกิจ การบริหารบุคลากร การตลาดและการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยวิทยากรมืออาชีพและกูรูในด้านดังกล่าว ภายในงานจะมีพื้นที่สำหรับ Winnovation ผู้เข้าชมงานจะได้พบกับ Showcase นวัตกรรมใหม่ๆ อาทิ Generative AI และระบบการจัดการสำหรับงานแสดงสินค้าต่างๆ

“คาดจะมีผู้เข้าร่วมชมงานและเจรจาธุรกิจกว่า 3,000 คน จาก 2,000 องค์กร เกิดการจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) กว่า 300 คู่เจรจา สร้างรายได้ 400 ล้านบาท งานนี้ยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่สนใจงานด้านไมซ์ได้เข้าฝึกงาน โดยเปิดรับ 50 คน เราต้องการสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพให้กับอุตสาหกรรมไมซ์ ”

ด้านกูรูอุตสาหกรรมไมซ์ยังได้ร่วมแชร์วิสัยทัศน์ หัวข้อ “ปลดล็อคศักยภาพธุรกิจยุคใหม่! สู่การแสดงสินค้าและการประชุมอย่างยั่งยืน” นำโดย ดร.ดวงเด็ด ย้วยความดี ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) เผยนักธุรกิจไมซ์ จะมีค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปมากกว่านักท่องเที่ยว 3 เท่า นอกจากนี้ งานแสดงสินค้าถือเป็น Below-the-line media ที่ผู้เข้าชมงานมีโอกาสได้พบปะ พูดคุย จับต้องสินค้า ซึ่งประเทศไทย มีงานแสดงสินค้าปีละ 200 งาน มีผู้ประกอบการแสดงสินค้า 40,000 ราย ปัจจุบันไทยถือเป็นอันดับหนึ่งในอาเซียนด้านอุตสาหกรรมไมซ์

สำหรับองค์กรต่างๆ การจัดงานแสดงสินค้าและการประชุมองค์กรเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญในการสร้างแบรนด์และส่งเสริมการขายสินค้าและบริการขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นองค์กรธุรกิจหรือภาครัฐ งานนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแสดงสินค้าให้เข้าถึงลูกค้าด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น Interactive Booth Design, แนวคิดการดีไซน์บูธแบบยั่งยืน, รวมถึง Event Campaign ที่ดึงดูดใจลูกค้า งานนี้ยังเป็นโอกาสที่ดีสำหรับองค์กรที่ไม่เคยออกงานแสดงสินค้า ให้มีเครื่องมือทางการตลาดใหม่ ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าแบบ Face to Face อีกด้วย

นายสุธีร์ สธนสถาพร ผู้อำนวยการ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าว “งานแสดงสินค้าสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้มาก ประเทศไทยถือว่ามีความพร้อมในการจัดงานไมซ์อย่างมาก เด่นในเรื่องของ Hospitality อาหารอร่อย แต่มีปัญหาในเรื่องของภาษา การจะเป็นผู้จัดงานที่ดีจะต้องจัดงานแบบมีมาตรฐานที่ทำให้ต่างชาติไว้วางใจ”

นางสาวชลธิชา แสงพันธุ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและ ซีอีโอ บริษัท แอนะลิติสต์ จำกัด กล่าวการเก็บ Data Analytics จะสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์และต่อยอดในปีต่อไปได้ เพื่อให้สินค้าและบริการได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่ง Marketing 5.0 จะมีอีเวนต์เป็นองค์ประกอบสำคัญ

นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) มองว่า “งานนี้เป็นงานที่น่าสนใจ จะได้เห็นศักยภาพของหลายบริษัท ศักยภาพของไมซ์ประเทศไทย ความเป็นไทยมีความ Unique ต่างชาติให้ความสนใจ ใครที่มองหาซัพพลายเออร์ต้องไม่พลาดงานนี้ จะมีโอกาสได้เห็นไอเดียและเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย”

ด้านนายสานิท การุณยวนิช ที่ปรึกษาบริษัท ดีเอ็มจี อีเว้นท์ จำกัด ผู้ดำเนินรายการ กล่าวเสริมตลาดอุตสาหกรรมไมซ์ระดับโลกมีมูลค่า 14,000 ล้านเหรียญฯ หรือราว 500,000 กว่าล้านบาท เทียบเท่ากับ GDP ของประเทศไทย โดยตลาดอุตสาหกรรมไมซ์ระดับโลกโต 5% ต่อปี แต่ของประเทศไทยน่าจะมากกว่านั้น

Thailand MICE X-Change 2024 งานแสดงผลิตภัณฑ์ บริการ และนวัตกรรม สำหรับอุตสาหกรรมการแสดงสินค้า อีเวนต์ และการประชุม จัดระหว่างวันที่ 17 – 18 กรกฎาคมนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค