สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ว่า สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ เตือนการแพร่หลายของฝิ่นสังเคราะห์ที่มีฤทธิ์รุนแรง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การผลิตฝิ่นในอัฟกานิสถานที่ลดลง อาจเป็นผลมาจากการขยายตัวของยาสังเคราะห์เหล่านี้

“ไนทาซีเนส” ฝิ่นสังเคราะห์ซึ่งมีฤทธิ์แรงกว่าเฟนทานิล เริ่มแพร่หลายในประเทศที่มีรายได้สูงหลายประเทศ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดเพิ่มขึ้น รายงานประจำปีของยูเอ็นโอดีซีระบุว่า มีการพบยาชนิดดังกล่าวในเบลเยียม, แคนาดา, เอสโตเนีย, ลัตเวีย, สโลวีเนีย, สหราชอาณาจักร และสหรัฐ ขณะเดียวกัน องค์กรอื่น ๆ รวมถึงศูนย์ติดตามยาเสพติดและการติดยาแห่งยุโรป (อีเอ็มซีดีดีเอ) ออกมาเตือนถึงการแพร่ระบาดของไนเตซีนเช่นเดียวกัน

ยูเอ็นโอดีซีระบุว่า การผลิตฝิ่นทั่วโลกลดลงร้อยละ 74 เมื่อปี 2566 หลังกลุ่มตาลีบันสั่งห้ามการผลิตฝิ่น ซึ่งเป็นสินค้าชั้นนำของอัฟกานิสถาน โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า “จำนวนเฮโรอีนในตลาดจะลดลง” เนื่องจากผู้ใช้เฮโรอีน อาจเปลี่ยนมาใช้ฝิ่นชนิดอื่น ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพมากกว่า น.ส.แองเจลา มี หัวหน้านักวิจัยของยูเอ็นโอดีซี กล่าวว่า เฮโรอีนยังไม่ขาดแคลนในขณะนี้ แต่การเสียชีวิตจากการใช้ไนตาซีนเกินขนาด ที่คาดว่าเกิดจากการใช้ร่วมกับเฮโรอีน เกิดขึ้นในจีนเป็นส่วนใหญ่

“ในขณะเดียวกัน ตลาดโคเคนยังคงเฟื่องฟู” มีกล่าว โดยความต้องการโคเคนทั่วโลก ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในจำนวนมากกว่า 2,700 ตัน เมื่อปี 2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 จากปีก่อนหน้า “โคเคนกำลังขยายออกไปนอกตลาดดั้งเดิม 2 แห่ง ซึ่งได้แก่ สหรัฐ และยุโรปตะวันตกและยุโรปกลาง ไปยังแอฟริกา ในช่วงเดียวกับที่มีรายงานการค้ามนุษย์เพิ่มขึ้น” เธอกล่าว การเพาะปลูกใบโคคาบนโลกส่วนใหญ่ มาจากภูมิภาคแอนเดียนในอเมริกาใต้ มีจำนวนการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เมื่อปี 2564-2565 เป็น 355,000 เฮกตาร์ (ราว 2.2 ล้านไร่)

รายงานยังระบุว่า เมื่อปี 2565 ผู้คนเกือบ 292 ล้านคน หรือ 1 ใน 18 ของประชากรโลกเสพยา ซึ่งมากกว่าสถิติเมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 20 เป็นผลมาจากการเติบโตของประชากร ขณะที่เมื่อปี 2565 กัญชายังถือเป็นยาที่ใช้กันมากที่สุดทั่วโลก โดยมีผู้ใช้ประมาณ 228 ล้านคน ตามมาด้วยฝิ่นที่ 60 ล้านคน, แอมเฟตามีน 30 ล้านคน, โคเคน 23 ล้านคน และยาอี 20 ล้านคน

ทั้งนี้ ยูเอ็นโอดีซีตั้งข้อสังเกตว่า นโยบายกัญชาเสรีในหลาย 10 รัฐของสหรัฐ ได้เร่งความรุนแรงในการใช้ยาเสพติด และนำไปสู่ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์กัญชา.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES