เมื่อเวลา 11.25 น. วันที่ 25 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการที่นายมาร์คัส วอลเลนเบิร์ก ประธานกรรมการธนาคาร Skandinaviska Enskilda Banken (SEB) ประเทศสวีเดน เข้าพบเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีการพูดคุยเรื่องการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่กริพเพน และพูดคุยเรื่องรูปแบบการจัดซื้อจัดจ้างแบบชดเชย หรือนโยบายออฟเซต (Offset Policy) หรือไม่ ว่า ตนเคยเจอกัยนายมาร์คัส ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้มีการพูดคุยกันหลายเรื่อง รวมถึงเรื่องเครื่องบินกริพเพนด้วย ว่าถ้าหากเราจะซื้อ ก็อยากให้มีการมาพัฒนาเรื่องของเทคโนโลยีและอากาศยานที่ประเทศไทย เช่น การสร้างโรงงานผลิต โรงงานซ่อม โรงงานผลิตชิ้นส่วน เพื่อเป็นการตอบแทนที่เราไปซื้อของเขา ตนทราบดีว่าธุรกิจในเครือข่ายของนายมาร์คัสมีเยอะ และปีหน้าตนจะเดินทางไปเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์อีก จึงอยากจะจัดเป็นเวทีเล็กๆ ระหว่างไทยกับสวีเดน เพื่อพูดคุยกับบริษัทที่เกี่ยวข้องในกรพัฒนาเรื่องเทคโนโลยีอย่างไรต่างๆ ร่วมกัน
เมื่อถามว่า หากกองทัพอากาศจะเลือกซื้อเครื่องบินกริพเพน ต้องดูรูปแบบการจัดซื้อจัดจ้างแบบชดเชยหรือนโยบายออฟเซต (Offset Policy) อย่างที่นายกฯ บอกใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้ลงรายละเอียดขนาดนั้น แต่นั่นก็คือไกด์ไลน์ที่ตนได้บอกไว้ ว่าถ้าจะซื้ออะไรจากใคร เรื่องนี้ถือว่าสำคัญ อย่างที่ทราบดีว่า สหรัฐอเมริกาถ้าจะซื้อเครื่องบินขับไล่ F-16 เขาต้องพัฒนาด้านต่างๆ ที่ประเทศไทยด้วย เหมือนเป็นการต่างตอบแทน
เมื่อถามต่อว่า ได้พูดคุยกับทางสหรัฐอเมริกาบ้างหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้พูดคุย เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง ที่จะต้องไปพูดคุยกันเอง ซึ่งตนก็พูดคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) และ ผบ.เหล่าทัพ ทุกคนที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว ว่าถ้าจะซื้อต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
เมื่อถามอีกว่านายกฯ ชอบเครื่องบินกริพเพน หรือ F-16 เป็นการส่วนตัวหรือไม่ นายกฯ อมยิ้มพร้อมกล่าว “ไม่มี ผมไม่มีความรู้เรื่องนี้ ก็เหมือนกันกับเรื่องป่า” ก่อนที่นายกฯ จะยิ้มและหัวเราะ และกล่าวอีกว่า “วันนี้ผมเป็นผู้บริหาร ผมไม่ได้มีความสนใจเรื่องเครื่องบินอะไร และผมไม่มาหมกมุ่นเรื่องพวกนี้หรอก”