วันที่ 19 มิ.ย. รัฐสภาได้เปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ในวาระแรก ตั้งแต่วันที่ 19-21 มิถุนายน 2567 โดย งบประมาณปี 2568 มีวงเงินรวม 3.752 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2567 จำนวน 272,700 ล้านบาท
หน่วยงาน และกระทรวงที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ 2568 มากที่สุด 10 อันดับ (เทียบกับงบประมาณ 2567) ได้แก่
อันดับ 1 งบกลาง จำนวน 805,745 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 190,801.6 ล้านบาท
อันดับ 2 กระทรวงการคลัง จำนวน 390,314.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63,294.3 ล้านบาท
อันดับ 3 กระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 340,584.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12,413.8 ล้านบาท
อันดับ 4 กระทรวงมหาดไทย จำนวน 294.863.3 ล้านบาท ลดลง 56,732.9 ล้านบาท
อันดับ 5 กระทรวงกลาโหม จำนวน 200,923 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,179.9 ล้านบาท
อันดับ 6 กระทรวงคมนาคม จำนวน 193,618.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,338.4 ล้านบาท
อันดับ 7 กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 172,285.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,909.2 ล้านบาท
อันดับ 8 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จำนวน 132,294.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,955.7 ล้านบาท
อันดับ 9 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 123,150 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,726.2 ล้านบาท
อันดับ 10 กระทรวงแรงงาน จำนวน 67,772.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,623.7 ล้านบาท
สิ่งที่น่าจับตาของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568 ในครั้งนี้ อยู่ที่งบกลาง 152,700 ล้านบาท ถูกนำมาใช้ในโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ตให้กับประชาชน
ซึ่งการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ถูกจัดอยู่ในส่วนงบกลาง หมวดแผนงานบริหารเพื่อรองรับกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในรายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ วงเงิน 152,700 ล้านบาท
มีวัตถุประสงค์ระบุว่า เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และกระจายเม็ดเงินในพื้นที่ต่างๆ และเพื่อรักษาระดับการบริโภคและการลงทุนในประเทศ เพิ่มสภาพคล่องแก่ประชาชนในการดำรงชีพและประกอบอาชีพ อีกทั้งยังเป็นการรักษาความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
ที่มา : สำนักงบประมาณ