จากกรณี น.ส.เอ (นามสมมุติ) นายบี (นามสมมุติ) และ นายซี (นามสมมุติ) ผู้เสียหายที่ถูกพระเกจิชื่อดังในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ หลอกให้มีเพศสัมพันธ์ลักษณะเซ็กซ์หมู่ชาย-หญิง อ้างว่าเป็นการถ่ายทอดพลัง ภายหลังผู้เสียหายทนไม่ไหว ไปร้องเรียนเพจสายไหมต้องรอดให้ช่วยเหลือ ทำให้ฝ่ายพระดังกล่าวยอมสึกจากความเป็นพระ โดยทั้งหมดได้เข้ามาพูดคุยในรายการ “โหนกระแส” โดยพิธีกร “หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” พร้อมด้วย นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และ ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา รองประธานมูลนิธกองทัพธรรม หรือ “มหาหมี” ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
‘หนุ่ม กรรชัย’ วอนชาวเน็ตอย่าตำหนิเหยื่อ ถูกอดีตพระฉาวหลอกเสพเมถุน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. น.ส.เอ เล่าให้ฟังว่า หลังจากรู้จักกัน 6-7 ปี มีการส่งภาพการทำพิธีถอนของ ซึ่งตนโดนระบุว่า โดนทำของ ต้องใส่ผ้าถุงทำพิธี และเริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ อย่าสงสัยหรือมีข้อกังขา อย่างเช่น ให้นอนหลับตาเอาผ้ามาคลุม แล้วเอาตัวมานอนทับ อ้างว่า พ่อเลี้ยงทำเดรัจฉานวิชา อีกทั้งฝ่ายพระเอารูปที่เคยทำพิธีมาให้ดูจึงเชื่อมั่นให้ทำพิธีต่อไป ภายหลังฝ่ายพระอ้างส่งไลน์ลักษณะตัดพ้อชีวิต อ้างว่า “….การทำพิธีดังกล่าวทำให้พระป่วย กำลังจะตาย และพยายามจะกลับมาเหมือนเดิมในทุก ๆ ทาง สมองไม่คล่องตัวเหมือนเดิม มันคงถึงเวลาแล้วจริง ๆ เพราะไม่สามารถทำให้เข้าใจได้…… คนที่อาจารย์พูดตลอดกลับไม่เชื่อในสิ่งที่อาจารย์พูดเลย…”
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/06/545485.jpg)
น.ส.บี กล่าวอีกว่า หนักสุดคือ การใส่ออกซิเจนนอนอยู่ในสำนักสงฆ์ แกล้งล้มต่อหน้า ชักต่อหน้า ทำให้ตนรู้สึกเสียใจ ฝ่ายพระพยายามกล่อมจนเชื่อว่า ฝ่ายพระกำลังจะตาย ถามว่ารักและศรัทธาพระอาจารย์หรือไม่ มีการจุดธูป 3 ดอกสาบาน ก่อนจะบอกว่า อย่าสงสัย อย่ามีคำถามและมีข้อกังขา มันเป็นการตอบแทนที่ยิ่งใหญ่มาก เริ่มจากให้มีเพศสัมพันธ์กับสามีต่อหน้าต่อตาพระอาจารย์ เพื่อดึงพลังกลับมาหาตัวเอง ตอนนั้นแม้จะมีคำถาม แต่การอยู่กับเขามา 7-8 ปี เขาต้องมีเหตุผลของเขา ซึ่งสามีไม่พร้อม ปรากฏว่าพิธีไม่สำเร็จ อ้างว่า “องค์คุรุ” หรือ “คุรุปัทมสมภพ” จะพิโรธ จะโกรธจะถูกลงโทษ จึงให้ฝ่ายพระทำแทน
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/06/0127-1.jpg)
ด้าน นายบี กล่าวว่า ตนไม่สามารถปฏิเสธได้ เพราะตอนนั้น ถูกปลูกฝังความเชื่อและรู้สึกนับถือว่าพระอาจารย์เป็นเสมือนพ่อแม่ เคยถูกสอนว่า การเสพกามเป็นเรื่องปกติ อย่าไปยึดติด ทางพระยังอ้างว่า พระพุทธเจ้าสอนให้ฟังธรรม วิปัสสนา และเสพกาม ซึ่งวิธีสุดท้ายนั้นจะไม่แพร่งพรายต่อบุคคลภายนอก ธรรมข้อนี้เป็นธรรมละเอียด ห้ามบอกสาวก เพราะอินทรีย์ไม่พร้อม หากโดนปรามาส ก็จะมีบาปติดตัว
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/06/55645887-1.jpg)
นายบี เล่าอีกว่า ฝ่ายพระได้เปิดกลุ่มไลน์ลับขึ้นมาใหม่ เพื่อพูดคุยเรื่องเพศโดยเฉพาะ มีการโชว์อวัยวะเพศ แสดงความหมกมุ่น ตั้งแต่ปลายปี 64- 65 ส่วนพิธีกรรมฝ่ายพระอ้างว่า เขาได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง อ้างว่าเป็นเพศสภาพ เรื่องนี้ทำให้ตนโดนพระล่วงละเมิดทางเพศไปด้วย ส่วนนายซี เผยว่า กรณีของตนหลังจากโดนถอนของแล้ว จากเหล้ากับไข่ ก็กลายเป็นสำเร็จความใคร่ต่อหน้าพระ อ้างว่าเป็นการลงเสน่ห์-ถอนของ มีการกล่าวสาบาน ห้ามเอาเรื่องพวกนี้ไปบอกใคร มิเช่นนั้นจะมีอันเป็นไป
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/06/55465486878.jpg)
ทั้งนี้ ในรายการได้นำหลักฐานการแชตไลน์กลุ่มของพระและลูกศิษย์มาเปิดเผย โดยจะมีรูปของพระที่ทำมงกุฎมาสวมหัวตัวเองและเอาพระมาแปะหน้าผากอ้างว่าเป็นการชาร์จพลัง ส่วนในไลน์กลุ่มใหม่ที่พูดคุยเรื่องเพศแบบดุเดือด มีการโชว์ของลับให้คนในกลุ่มดูตลอด โดยเรื่องที่น่าตกใจก็คือมีคนในกลุ่มซึ่งทาง 3 ผู้เสียหายยืนยันว่าเป็น นายตำรวจ ร่วมอยู่ในกลุ่ม ทั้งยังถ่ายภาพโชว์อวัยวะเพศให้ดูด้วย ขณะที่ “หนุ่ม กรรชัย” ถึงกับตะลึง เมื่อพบแชตของพระที่ระบุว่า “…แดดร่มลมตก สักทุ่มนึง XXXกันที่ห้องพิศวง แล้วค่อยหาไรกินมื้อดึก ที่โรงครัว คาดว่าน่าจะจี่ข้าวจีทาไข่…” เนื่องจากเป็นพระเสพเมถุน แล้วยังมาชวนกินข้าวมื้อดึกได้ด้วย
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/06/54455687.jpg)
เมื่อ “หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า แล้วกลับตัวได้ตอนไหน นายบี ตอบว่า หลังจากยอมอดทนทำพิธีกรรมดังกล่าวไปแล้ว จนกระทั่ง ฝ่ายพระโชว์ผลฟิลม์เอกซเรย์ ยืนยันว่าเขาปกติดีแล้ว แต่กลับพบว่าฝ่ายพระไม่เลิกพิธีกรรม อ้างว่าต้องถ่ายพลังไปเรื่อยๆ จนเวลาผ่านไป 4-5 เดือน ได้ตัดสินใจบอกกับ น.ส.เอ ว่าจะเลิกทำพิธี ตอนนั้นชั่งใจอยู่กลัวว่า น.ส.เอ จะไม่เลิกเพราะเห็นว่าเคารพและนับถือพระเหมือนพ่อ ซึ่งพอคุยกันแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องไม่ควรและไม่ใช่ จึงนำเรื่องมาร้องกับทางสายไหมต้องรอด
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/06/5654654867.jpg)
ทั้งนี้ผู้เสียหายทั้งหมดยืนยันว่า ที่นำเรื่องมาเล่าให้กับผู้ชมในรายการโหนกระแสได้ฟังนี้ เพราะต้องการเตือนไปยังผู้ที่หลงเชื่อและศรัทธาไปกับความเชื่อที่ผิด อย่าหลงเฉพาะคนที่ใส่เครื่องแบบ หากเราไม่มั่นใจในความเชื่อดังกล่าว ต้องคิดทบทวนตัวเองทันที ไม่อยากให้ใครต้องมาเป็นเหยื่อแบบพวกเราอีก มิเช่นนั้นก็จะเป็นแผลในใจไปตลอด.
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/06/5456487.jpg)
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก รายการโหนกระแส