“ดิ อีเกิลส์” แอลเบเนีย ทีมม้ามืด ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันรอบคัดเลือก

พวกเขาเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม E และถือเป็นอีกหนึ่งทีม ที่บรรดายักษ์ใหญ่จะประมาทไม่ได้ เพราะผู้เล่นหลายคนมีประสบการณ์ในเวทีระดับสูงของยุโรป

แต่ละคน ถ้าเอ่ยชื่อมา รับรองว่าแฟนบอลคุ้นหู และนี่คือเหตุผลที่เราอยากให้จับตาดู แอลเบเนีย ทีมนี้ให้ดีๆ เชื่อแน่ว่า พวกเขาจะสร้างสีสันได้ไม่น้อยแน่นอนในยูโรครั้งนี้

ผลงาน
ยูโร 2016 : รอบแบ่งกลุ่ม ตกรอบจากการเป็นอันดับที่ 3 ของกลุ่มรอบคัดเลือก

ยูโร 2024: การชนะ 4 เสมอ 3 และ แพ้ 1 ส่งผลให้ “ทัพอินทรี” ผ่านเข้ารอบอย่างไม่อยากเย็นนัก

ความน่าสนใจ คือ พวกเขาเป็นที่ 1 ของกลุ่ม ทั้งที่เพื่อนร่วมกลุ่มคือทีมมากประสบการณ์ของยุโรปอย่าง ทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก และทีมชาติโปแลนด์

Sylvinho

ผู้จัดการทีม
“ซิลวินโญ”

หลังจากที่ อดีตแบ๊กซ้ายทีมชาติบราซิล และ บาร์เซโลนา วัย 49 ปี แขวนสตั๊ดในปี 2011 เจ้าตัวเริ่มต้นความท้าทายใหม่ในการคุมทีมทันที

เขาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยโค้ชเป็นเวลา 8 ปี ก่อนจะขึ้นสู่การเป็นเฮดโค้ชเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา หลังจากที่คุมทีมอย่าง โอลิมปิก ลียง และ โครินเธียนส์

หลังจากผลงานเข้ามา ซิลวินโญ ได้รับการทาบทามจากทีมชาติแอลเบเนีย และเดบิวต์เกมแรก ในช่วงมกราคม 2023

ในเวลาแค่มา 1 ปี ซิลวินโญ พา “ดิ อีเกิลส์” ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายศึกยูโร 2024 ได้สำเร็จ และถือเป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของพวกเขา

ด้วยระบบการเล่นหลัก 4-2-3-1 มีจุดเด่นที่การสร้างสรรค์เกมแดนกลาง เพราะสามารถรีดศักยภาพของ “เนดิม บายรามี” และ “คริสต์ยาน อัสลานี” 2 มิดฟิลด์ตัวหลัก ออกมาใช้อย่างลงตัว

Kristjan Asllani

นักเตะที่น่าจับตามอง
“คริสต์ยาน อัสลานี”
ติดทีมชาติชุดใหญ่ : 18 นัด (2022-ปัจจุบัน)

กองกลางดาวรุ่งวัย 22 ปี เป็นกำลังสำคัญของทีมชาติแอลเบเนียในรอบคัดเลือก และปัจจุบันเจ้าตัวค้าแข้งกับ อินเตอร์ มิลาน แชมป์กัลโช เซเรีย อา อิตาลี

แม้ยังไม่ถึงกับเป็นตัวหลัก แต่ อัสลานี ก็ได้รับโอกาสลงสนามในกัลโช เซเรีย อา และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่น้อยในฤดูกาลนี้

อัสลานี เป็นผู้เล่นที่มีความสามารถในการส่งบอล โดยเฉพาะการใช้ทักษะวางบอลยาวที่แม่นยำา ซึ่งมาพร้อมกับความเฉลียวฉลาดในการตัดสินใจจังหวะต่างๆ ทำให้จะเป็นกำลังสำคัญอีกคนของทีม

Nedim Bajrami

“เนดิม บายรามี”
จอมสร้างสรรค์เกม วัย 25 ปี จากสโมสรซาสซูโอโล ในศึกกัลโช เซเรีย อา

เขามีความโดดเด่นจากการเล่นได้หลากหลายตำแหน่งในเกมรุก แต่ตำแหน่งที่เป็นทีเด็ดของแข้งรายนี้ คือ กองกลางตัวรุก

เนื่องจากเจ้าตัวมีทักษะการเลี้ยงตะลุยผ่านด่านคู่แข่ง ควบคู่กับความเฉลียวฉลาดในการจ่ายบอลให้เพื่อนทำประตู

ถ้าไม่เจ็บ ไม่ป่วย ตัวรุกสารพัดประโยชน์รายนี้ จะลงเป็นตัวหลักให้ทีมชาติและสโมสรอย่างสม่ำเสมอ

แอลเบเนีย ยังมีนักเตะชื่อดังคนอื่นๆ ร่วมทีมอีกหลายคน นำโดยผู้เล่นตัวเก๋าอย่าง เอลซดี ฮีซาย, เบรัต จิมซิตี และ เอเทริต เบริชา ซึ่งล้วนมีประสบการณ์จากศึกยูโร 2016

ผสมผสานกับผู้เล่นดาวรุ่งอย่าง เอรเนส มูซี, มาราช คุมบุลลา และ อาร์มานโด โบรยา กองหน้าเชลซี ทำให้ถือเป็นอีกทีมที่ตัวผู้เล่นดี และประมาทไม่ได้เลย

โอกาสเข้ารอบ
ต้องยอมรับว่าถ้าเทียบจากประสบการณ์ของทีม และตัวผู้เล่นตามหน้าเสื่อแล้ว แอลเบเนีย เป็นรองเพื่อนร่วมกลุ่มพอสมควร

แต่ถ้าพูดถึงความมั่นใจ และหัวจิตหัวใจ เชื่อว่าทีมชาติแอลเบเนียใส่เต็มสูบ พร้อมสู้ตายไม่เป็นสองรองใคร

โอกาสเข้ารอบของพวกเขาขึ้นอยู่กับเกมนัดแรกว่าจะทำได้ดีเพียงใด ในการพบกับทีมชาติอิตาลี หากพวกเขาสามารถพลิกล็อกเอาชนะได้ หนทางเข้ารอบจะสดใสขึ้นเป็นทวีคูณ

เพราะขอเพียงอีก 1 แต้ม ก็มีโอกาสสูงที่จะผ่านเข้ารอบในฐานะทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดเป็นอย่างน้อย และหลังจากนั้น บอกเลยว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้

โปรแกรมการแข่งขัน
เสาร์ที่ 15 มิถุนายน เวลา 02.00 น. : ทีมชาติอิตาลี
พุธที่ 19 มิถุนายน เวลา 20.00 น. : ทีมชาติโครเอเชีย
จันทร์ที่ 24 มิถุนายน เวลา 02.00 น. : ทีมชาติสเปน