@การเมือง”ภาพใหญ่” ทั้งการ”ติดบ่วง” ความผิดตาม ม.112 ของ “ทักษิณ ชินวัตร “ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ดู”อึมครึม” มาหลายวัน แต่หลังจาก”นายใหญ่” ขึ้น”โชว์ตัว” ในงาน”บวชลูก” ของ “นักการเมืองใหญ่” ใน จ.ปทุมธานี” พร้อมประกาศบนเวทีด้วย”น้ำสียงที่หนักแน่นจริงจัง” ในการ”กลับมา” เพื่อเคียงข้าง”มวลชน” ที่ “สนับสนุน” และบอกอีกว่าความ”วุ่นวาย” ที่”สับสนอลหม่าน” ทำให้มีการ”เข้าใจผิด” มาจาก”คนในป่า” นี่เป็นการ”เปิดศึก” ที่”ชัดเจน” ของ”ทักษิณ ชินวัตร” ต่อผู้นำ”คนในป่า ที่แม้จะไม่บอก”ชื่อ แซ่” แต่คนรู้ทั้งประเทศว่า”หมายถึงใคร” และเป็นการ”การันตี” ว่า “ทักษิณ” พร้อมเข้าสู่”ขบวนการยุติธรรม”ใน”คดี” ที่ถูก กล่าวหา…..ส่วนในกรณีที่” เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ที่”ติดบ่วงแล้ว” เรื่องแต่งตั้ง”พิชิต ชื่นบาน” อยู่ใน”ศาลรัฐธรรมนูญ” วันนี้ฝ่ายที่”เชื่อมั่น” ว่า”เสี่ยนิด” จะได้”ไปต่อ” มี” น้ำหนัก” และ”เหตุผล” ที่ น่าฟังได้ ว่า ยังเป็น”ตัวเลือก” ในตำแหน่ง”นายกรัฐมนตรี” มากกว่า”ตัวเลือก” อื่น จาก”พรรคการเมือง”อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น”ป่ารอยต่อ” หรือจาก”พรรคที่เป็น”ดีเอ็นเอ”ของ”บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีต”นายกรัฐมนตรี” เมื่อ”ผู้ที่จะมาแทนที่”เสี่ยนิด” ยังไม่ใช่”แพทองธาร ชินวัตร” ผู้เป็น”ดีเอ็นเอ”ของ”นายใหญ่” ก็แสดงว่า”เสี่ยนิด”เศรษฐา ทวีสิน” ต้องได้”ไปต่อ” ในตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” และที่สำคัญ “”รัฐบาล” เพิ่งมีอายุเพียง”หนึ่งขวบ” ยังไม่เหมาะไม่ควรที่จะ”เปลี่ยนม้ากลางศึก” เพราะการให้”เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน” นำประเทศไปแบบ”ถูกลู่ถูกกัง” ก็จริง แต่ก็ยังมี”ทีม”จาก”กระทรวงการคลัง” มี”ทีม” ของ”เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย “รองนายกรัฐมนตรี”และ”เสนาบดีกระทรวงการคลัง” รวมทั้งมี”นายใหญ่” ที่คอยเป็นผู้ “กำหนดเกมการเมือง” อยู่”หลังฉาก” …..

@รอดูหลัง”งบประมาณ” ผ่านสภาผู้แทนราษฎร และโครงการ”ดิจิตัลวอลเล็ต” ผ่านความ”เห็นชอบ” มีการ”ส่งผ่าน” เงิน “ 10,000 บาท ให้ถึงมือ “ประชาชน” เพื่อ”จับจ่ายใช้สอย” ในการ”กระตุ้นเศรษฐกิจ” ให้”ตะกร้าเงิน” มีการ”หมุนเวียน”ถึง 4 รอบ ตามที่“รัฐมนตรีช่วยคลัง” เผ่าภูมิ” เคยให้ “สัมภาษณ์” กับ”สื่อมวลชน” มาแล้วหลายครั้ง วันนี้ทุกคนรอดู”ผลลัพธ์” ของการแจกเงินตามโครงการ”ดิจิตัลวอลเล็ต” ว่าจะ”เป็นจริง” ตามที่ให้”สัมภาษณ์”ไว้หรือไม่ และที่สำคัญ ถ้า”ดิจิตัลวอลเล็ต” ไม่สามารถ”ฟื้นเศรษฐกิจ”ของ”ประเทศ” และไม่สามารถทำให้”ปากท้อง”ของ”ประชาชน” ในระดับ”รากหญ้า” ให้พ้นจาก”วิกฤติ” สิ่งที่ตามมาคือ”ต้มยำกุ้ง”รอบที่สองใช่หรือไม่ หรือ”หวยเกษียณ” จะเป็นอีก”ทางเลือก”อีกหนึ่งทางของ”รัฐบาลเพื่อไทย” ที่จะมา”เขย่า” ให้เกิดความ”คึกคัก” กับ”ประชาชน” ที่จะทำได้”รวดเร็ว”กว่าโครงการ”อินเตอร์เทนเม็นท์คอมเพล็กซ์” หรือ”การเปิดบ่อนการพนัน” แบบถูกต้องตามกฎหมาย”อย่าง” มาเลเซีย, กัมพูชา” เพื่อนบ้านของประเทศไทยที่มี”บ่อนเสรี” คอย”กวาดต้อน” เศรษฐี นักการพนันไป”จับจ่ายใช้สอย” เพื่อนำเงินเข้าประเทศ  ซึ่ง”บ่อนเสรี” แม้จะมีการ”เคลื่อนไหว” อย่าง”คึกคัก” ในหมู่ของ”นักลงทุน” ในไทยที่พร้อมจะ”ร่วมดีล” กับ”กลุ่มทุนต่างประเทศ” แต่ก็ยังเป็นเรื่องของ”อนาคต” ที่ รอไม่ได้ หาก “รัฐบาล” ไม่สามารถทำให้”เศรษฐกิจ” ในประเทศ”กระเตื้องขึ้น”ก่อนผ่านปี 2567 ขึ้นปี 2568 เมื่อไหร่”สึนามิ”ทาง”เศรษฐกิจ” จะเกิดกับ”ประเทศไทย ……

@ซึ่งฟังการประชุม”ครม.เศรษฐกิจ”ที่มี”เสี่ยนิด” นั่ง”หัวโต๊ะ” ก็เห็นชัดว่ามี”ความหวัง”ที่จะ”ฟื้นเศรษฐกิจ” โดยการ”เบิกจ่าย”ของ”ภาครัฐ” ให้ได้”ตามเป้า” และต้องการ”เพิ่มยอด” ของ”นักท่องเที่ยว” ที่เป็น”ต่างประเทศ” ตามที่ต้องการ ซึ่งล้วนแต่ยังไม่มี”ความแน่นอน” ยิ่งเห็น”ตลาดหลักทรัพย์” ที่”ดิ่งลง”จุดต่ำสุดในรอบ 3 ปี 7 เดือน ยิ่ง”ว้าเหว่” กับการ”ผงกหัว”ของ”เศรษฐกิจไทย” ในปี 2567…..การเลือก”สมาชิกวุฒิสภา” ( สว.) ผ่านระดับอำเภอไปแล้ว เพราะการ”คัดค้าน” ของกลุ่ม สว.ปัจจุบัน ที่ต้องการให้มีการ”ชะลอการเลือกตั้ง” รวมทั้งการ”ขู่” จะ “เล่นงาน” กกต. ว่าเป็นการจัดให้มีการ”เลือกตั้ง สว.” ที่”ส่อ” จะ”ผิดกฎหมาย”  ไม่เป็นผล  เพราะ กกต. ไม่ เลื่อน การ เลือกตั้ง วันที่ 16 ก็จะมีการเลือกตั้ง ระดับจังหวัด ซึ่งเป็นไปตาม”ไทม์ไลน์”  ที่จะมีการ”เลือกตั้ง” ระดับประเทศ ในวันที่ 26 มิถุนายน ที่จะถึงนี้…..ส่วนหลังจาก “เสร็จสิ้น” การ”เลือกตั้ง” ในระดับประเทศไปแล้ว จะมีการ”ร้องเรียน” เกิดขึ้น อย่าง”มากมาย” ขนาดไหน ซึ่งเป็นการ”ร้องเรียน” จาก สว.กลุ่มที่อยาก”รักษาการ”ยาวๆ กับ ผู้สมัครที่”แพ้เลือกตั้ง” ต้องเกิดขึ้นแน่นอน เพราะการ”เลือก สว.” ครั้งนี้ มีความ”ผิดปกติ” เกิดขึ้นมากมายจริงๆ โดยเฉพาะการ”จัดฮั้ว”  ด้วยการ”จัดตั้ง” ผู้ที่ลงสมัครในทั้ง 20 กลุ่ม  เพื่อเลือก ผู้สมัคร ตั้งแต่ ระดับ”อำเภอ”ไปยัง”จังหวัด” และจาก”จังหวัด”ไปยัง”เมืองทองธานี” เพื่อการเป็น” สมาชิกวุฒิสภา” ซึ่งจะมี”ผู้ทรงเกียรติ”ที่เป็น”ผู้ทรงเกียรติ” จริงๆ สักกี่คน ”ร่างทรง” กี่คน…..

@ที่ จังหวัดยะลา จังหวัดเดียว ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ “ร.ต.อ.สมนึก กุลมณี” ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดยะลา พบผู้”สมัคร” ที่ถูก”ว่าจ้าง” ให้มา “สมัคร” มากถึง 30 กว่าคน นี้ถ้าทุกจังหวัด มีการ”เอาจริง” ทำการ”ตรวจสอบ” ผู้ที่มาสมัคร ที่”ไม่ตรงปก” ที่มี “พิรุษ” ที่มาแบบ”เงะๆงะๆ” น่าจะมี”มือปืนรับจ้าง” ในการลง”สมัคร สว.” หลายร้อยคน ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า”กกต. จะมีการ”ดำเนินการ” อย่างไรกับผู้ที่พบว่ามี”หลักฐาน” และมีการ”สารภาพ” ว่าเป็น”มือรับจ้าง” อย่างไร และจะมีการ”สาวไปถึงผู้ที่บงการ” อยู่เบื้องหลังหรือไม่….เรื่องการ”เลือกตั้ง สว.” ในครั้งนี้ เป็นการ”บ่งชี้” อย่าง”ชัดเจน” ว่า วิธีคิดของ”มีชัย ฤชุพันธ์” ผู้ที่เป็น”หัวหน้าคณะ” ในการ”เขียนกฎหมาย” เพื่อใช้ในการ”เลือกตั้ง สว.” ในครั้งนี้”ล้มเหลว” เพราะแม้จะ”ออกแบบ” อย่าง”รัดกุม” ที่สุด  ให้มีการ”เลือกโดยตรง” จาก”ประชาชน” เพื่อไม่ต้องการเห็นการ”ซื้อเสียง” จาก”ประชาชน” แต่สุดท้าย ด้วยความที่”คนไทย” มี”ดีเอ็นเอ” ของ”ศรีธนนชัย” ใน”ตัวตน” ก็ทำให้เห็นว่า”นักจัดตั้ง” และ”นักเลือกตั้ง” รวมทั้ง”พรรคการเมือง” มีวิธีการที่ใช้”ช่องว่าง” ของ”กฎหมาย” ให้เป็นประโยชน์ ….

@แต่อย่างไรก็ขอแสดงความยินดีกับใครต่อใครหลายคนที่เป็นคน”มีชื่อเสียง” อาทิ” พล.ต.อ.ธีรวุฒิ บุตรศรีภูมิ” นายตำรวจน้ำดี อดีต “ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9” พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ อดีต” แม่ทัพภาคที่ 4 “ กมล รอดคล้าย อดีตแลขาธิการ สพฐ “วิชัย โภชนกิจ “ อดีต” อธิบดีกรมการค้าภายใน”  อุดม ไชยชูลี” อดีต ผอ.หาดใหญ่วิทยาลัย เป็นต้น ท่านเหล่านี้เป็นคนที่มี”คุณภาพ” ก็ขอ”อวยพร” ล่วงหน้า ให้ทุกท่านเข้าถึง”เมืองทองธานี” ไปถึงรอบ”ตัดเชือก” เข้ารับตำแหน่ง” สมาชิกวุฒิสภาผู้ทรงเกียรติ” ส่วน”กลุ่มจัดตั้ง” ขาดทั้ง” คุณวุฒิ-วัยวุฒิ” แต่”ทะเยอทะยาน” เพื่อการเป็น”ผู้ทรงเกียรติ” ก็ให้กลับไปถามตนเองว่าจะ”เข้าไปทำอะไร” ในเรื่องที่”ตนเองไม่ความชำนาญ” การเข้าไปนั่งเป็น”ตุ๊กตาใบ้” ใน”รัฐสภา” อายเขานะ…..แต่ที่ต้องชื่นชม” คือ”สนามเลือกตั้ง สว.” ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่ง “เอก  ยังอภัยณ สงขลา” นายอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา สร้าง”บรรยากาศ”การเลือกตั้งให้มีการ”ผ่อนคลาย” เป็นกันเอง  ปล่อยให้การ”เลือกตั้ง” มีความเป็น”ธรรมชาติ”ของ”สังคมคน” ที่ต้องมีการ”โอภาปราศรัย” มีการ”แนะนำตนเอง” ก่อนที่จะ”ตัดสินใจ” ในการ”เลือก” โดยไม่ได้”เคร่งครัด” กับ”กฎระเบียบ” ซึ่ง”คนเขียนกฎหมาย” น่าจะอยู่บน”หอคอยงาช้าง” จนละเลยความเป็น”สังคมของมนุษย์”   ผู้อยู่ใน”สนามเลือกตั้ง สว.” ของ “หาดใหญ่” ฝาก “ขอบคุณ” เจ้าหน้าที่” ฝ่ายปกครอง” ทุกท่าน ที่”เหน็ดเหนื่อย” กับภารกิจในการ”เลือกตั้ง สว.”ในครั้งนี้……

@กลับจากการ”ดูงานเรื่องการจัดการขยะมูลฝอย” ที่”มณทลหางโหว” ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน แล้ว “งานที่ยังรอ”สะสาง” ของ”สมนึก พรหมเขียว” ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา คือเรื่องการใช้”กฎหมาย” จัดการกับ”โพงพาง” 13 แถว  จำนวน 159 ปาก ที่เป็นปัญหาเรื่องของการ”รุกล้ำร่องน้ำการเดินเรือ” และเป็นเครื่องมือประมงที่”ผิดกฎหมาย”  ที่สร้างปัญหาให้กับการ”จราจรทางน้ำ” ของเรือทุกประเภท แม้จะมีการ”แจ้งความ” เพื่อ”เอาผิด”กับ”เจ้าของโพงพาง” จำนวน 30 ราย ไปแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความ”คืบหน้า” จาก”ขบวนการของ”กฎหมาย” จาก”โรงพัก”ไปยัง”อัยการ” และ”ศาล” เรื่องนี้เป็นเรื่อง”ละเอียด” แต่ก็ให้เข้าใจถึงคน”สงขลา” จำนวนมาก ที่รอที่จะเห็น”ความศักดิ์สิทธิ์” ของ”ขบวนการยุติธรรม” อย่าลืมว่า”ความล่าช้า”ของ”ขบวนการยุติธรรม” คือความ”อยุติธรรม”…..ส่วน กระทรวงต่างๆ ที่”เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องการทำ”ผิดกฎหมาย” ใน”ทะเลสาบสงขลา” ทั้ง”กระทรวงคมนาคม” ที่มีหน้าที่กำกับดูแล”กรมเจ้าท่า” และ”กระทรวงเกษตรและสหกรณ์” ที่มีหน้าที่กำกับดูแล”กรมประมง” ทำไมจึงไม่”สั่งการ” ให้”ประมงจังหวัด” และ”เจ้าท่าภูมิภาคสงขลา” ดำเนินการกับผู้ที่”ทำความผิด” รวมทั้งการ”แก้ปัญหาชาวประมง” ที่มีการอ้างว่าถ้าไม่ได้ทำ”โพงพาง” แล้ว “ครอบครัวจะล่มสลาย” ปัญหาของ”ทะเลสาบสงขลา” วันนี้ถูก”ปล่อยปละ” ให้กลายเป็นเรื่อง”ใหญ่โต” เกินกว่าที่” ผู้ว่าราชการจังหวัด” เพียงหน่วยงานเดียว จะแก้ได้ การแก้ปัญหาของ”ทะเลสาบสงขลา” ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องต้องลงมา”เล่นด้วยกัน” ที่ สำคัญ” สส.ในพื้นที่ทั้ง 9 คน ต้องทำให้เป็น”นโยบาย” เพื่อให้ “รัฐบาล” เข้ามาเป็น”เจ้าภาพ”…..

@โดยเฉพาะ”ความป่วยไข้” ของ”ทะเลสาบสงขลา” ที่ กลายเป็น”แหล่งรับน้ำเสีย” จาก”โรงงานอุตสาหกรรม” สารเคมีและ”ยาปราบวัชพืช”จากการทำ”เกษตรสมัยใหม่” และสิ่ง”เน่าเสีย” จากการ”เลี้ยงปลาในกระชัง” จนทำให้”ทะเลสาบตื้นเขิน” ที่”หน้าแล้ง” คนสามารถลงไป”เดินได้” แล้ว ถ้า”รัฐบาล” ยังไม่มีแผนการ”ขุดลอก” เชื่อว่าอีกไม่นาน”ทะเลสาบสงขลา” จะกลายเป็น”อ่างน้ำเสีย”ขนาดใหญ่ ไม่ใช่ ”เพชรเม็ดงาม” อย่างที่มีการเล่าขานในอดีต…..ที่ผ่านมาในการ”หาเสียง”ของ”นายกชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง “เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ “ และ”สส.เขต 5 จ.สงขลา  ได้ทำโครงการ”คืนเอกราชสิ่งแวดล้อม” ให้ จังหวัดสงขลา  โดยการ”เอาจริง” และ”เอาเรื่อง” กับ “โรงงานอุตสาหกรรม” ที่ปล่อยสิ่ง”ปฏิกูล” ลงใน”แม่น้ำลำคลอง” และไหลลง”ทะเลสาบสงขลา” วันนี้ยังมีการ”ขับเคลื่อน” อยู่หรือไม่ รวมทั้งเรื่องการ”ขุดลอกทะเลสาบสงขลา” ที่เคย”หาเสียง”กับ”ประชาชน”เอาไว้ วันนี้มีความ”คืบหน้า” อย่างไร หรือไม่ เรื่องนี้”ชาวสงขลา” รอฟังอยู่นะ คนที่พูดอาจจะลืม แต่”ประชาชน” จำได้……

@เรื่องของ”ไฟใต้” ที่น่าสนใจ ก่อนคณะของ”โอไอซี” หรือ”องค์การมุสลิมโลก” จะเดินทางมาเยือน “จังหวัดชายแดนภาคใต้” เพียง 2 วัน” ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น” ก็”ฉวยจังหวะ” และ”โอกาส” สั่งการให้” แนวร่วม” ระดับ”เปอร์มูดอ” ในพื้นที่ 3 จังหวัด และ 4 อำเภอ ของ จ.สงขลา”เคลื่อนไหวทาง”การเมือง” ในเชิง”สัญญาลักษณ์” ด้วยการ”แขวนป้ายผ้า” และ”พ่นสีบนถนน-สะพาน” กล่าวหาหรือ”โจมตี” “ประเทศสยาม” ก็หมายถึง”ประเทศไทย” และ”รัฐบาลไทย” ที่ไม่”จริงใจ” ในเรื่องของ”สันติภาพ” อย่างข้อความ”หยุดอ้างคำว่าสันติภาพเพื่อหลอกลวงประชาชน” ย่อมหมายถึงการ”พูดคุยสันติสุข” ของ”ประธานฝ่ายเทคนิค” ที่มีการประชุมกัน 2 ครั้ง แต่ไม่มีความ”ก้าวหน้า” ยังคง”พายเรือในอ่าง” เหมือนกับ 9 ปี ที่ผ่านมาส่วน”ป้ายผ้า”สันติภาพไม่ใช่ข้ออ้างเบิกทางให้นายทุนปล้นทรัพยากรฯ” เป็นการแสดงให้เห็นว่า” บีอาร์เอ็น” ยืนเคียงข้างกับ” เอ็นจีโอ” และ”กลุ่มประชาชน” ที่ทำการ”คัดค้าน” การ”พัฒนาอุตสาหกรรม” เช่นการ”ทำเหมืองแร่” ทำ”เหมืองหิน” ในพื้นที่ของ”จังหวัดชายแดนภาคใต้”…..การออกมา”ขับเคลื่อน” ของ”บีอาร์เอ็น” ในพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อให้”ฑูตานุทูต”ของ”โอไอซี” ได้”รับรู้” ว่า ในพื้นที่มีความ”ขัดแย้ง” และมีการ”เคลื่อนไหว” ของ”ประชาชน” ที่”เห็นต่าง” ไม่ยอมรับ”นโยบาย” และ”อำนาจรัฐ” ในพื้นที่ของ”จังหวัดชายแดนภาคใต้” เป็นการ”ลดทอน”ความชอบธรรม” และความ”น่าเชื่อถือ” ของ”กระทรวงต่างประเทศ” และ”ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้” ที่เป็น”เจ้าภาพ” ในการ”ต้อนรับขับสู้” บรรดา”ฑูตานุทูต”ของ”โอไอซี” ที่เดินทางมา”ติดตาม” สถานการณ์ของ”จังหวัดชายแดนภาคใต้ในวันที่ 11-13 มิถุนายน ที่ผ่านมา นี่คือ”กลยุทธ” ของ”บีอาร์เอ็น” ที่มีการ”ฉกฉวย” โอกาส และสร้าง”เงื่อนไข” เพื่อการ”โจมตี” รัฐบาลที่ยัง”เหนือชั้น” กว่า” หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่…..

@และสิ่งที่ตามมาที่เป็นเหมือน”ปลายหอก” ที่มีการ”พุ่งเป้า” ไปยัง”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ด้วยการตั้งคำถามว่าในคืนวันที่  8  ที่”แนวร่วม” ระดับ”เปอร์มูดอ” ออกมา”แขวนป้ายผ้า” และ”พ่นสี” ในหลายพื้นที่ ของ 3 จังหวัด 4 อำเภอ ของ จ.สงขลา ทั้งบนถนน”สายหลัก” และใน”ตัวเมือง” ในเขต”เทศบาล” เจ้าหน้าที่”ตำรวจ,ทหาร” และ”กองกำลังท้องถิ่น” อาสารักษาดินแดน,ชรบ. กว่า 50,000 ในคืนนั้นไปอยู่ที่ไหน ไม่มีใครเห็น”คนร้าย” หรือ”แนวร่วม” แม้แต่”คนเดียว” หรือ”กำลังทั้งหมด” เป็นเพียง”สัดใส่ข้าว” ที่ไม่มี”ความหมาย” อะไรเลยอย่างนั้นหรือ จะเห็นว่า”ป้ายผ้า” ของ”บีอาร์เอ็น” เป็นการ”ลงทุน”ที่”น้อยนิด” แต่เป็นเครื่องมือในการ”ทำลาย” ความ”เชื่อมั่น” และความ”เชื่อถือ” ของฝ่าย”ความมั่นคง” ให้”พังทลาย” ในความ”รู้สึก” ของ”คนในพื้นที่ ประเด็นนี้” พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์” ผบ.ทบ. จะ “คิดอย่างไร” และจะ”สั่งการ” ให้”กอ.รมน.ภาค 4 “แก้อย่างไร…..

@อย่านะ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า อย่างบอกว่า เป็นเรื่อง”ปกติ ธรรมดา” ของ”บีอาร์เอ็น” ที่  ออกมา”เคลื่อนไหว” เพื่อ”สร้างข่าว” และ”แสดง”ตัวตน” ที่ไม่ได้มี”สาระ” กับ “สถานการณ์”ของ”จังหวัดชายแดนภาคใต้” เพราะการมอง”สถานการณ์” และการ”พูดอย่างนี้” เป็นเรื่องของการ “แก้ตัว”แบบ”น้ำขุ่นๆ” เพื่อการ”กลบเกลื่อน” ความ”ล้มเหลว” และไร้”ประสิทธิภาพ” ในการทำหน้าที่ของ”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า รวมทั้งการ”จับกุม” กลุ่ม”แนวร่วม” ในขณะที่”ครอบครองป้ายผ้า” และ”อุปกรณ์”ในการ”ก่อเหตุครบครัน ในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จำนวน 2 คน  อย่าบอกนะว่าเป็น”แนวร่วมหน้าขาว” ที่ไม่เคยก่อเหตุ เพราะทั้งสองคนเป็น” แนวร่วมซ้ำซาก” ที่ วนเวียน”ก่อเหตุ” ในพื้นที่ อ.สายบุรี และ ใกล้เคียง มาโดยตลอด  และ หวังว่าจากการ”ซักถาม” ทั้งสองคน จะมี”ความคืบหน้า” ให้ติดตามถึงผู้ที่”สั่งการ” ในพื้นที่….ล่าสุด มีการ”ซุ่มยิง” อาสาสมัครทหารพราน ของ ร้อย ทพ.4106  ที่ตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ที่ บ้านบือซู หมู่ 6 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา  ขณะที่เดินออกจากฐานปฏิบัติการมา”ซื้อของ” ในร้านค้าที่อยู่หน้าฐานปฏิบัติการ ประเด็น ที่ต้อง”ถกแถลง”คือ แม้แต่”หน้าฐานปฏิบัติการ” ก็ไม่มีความ”ปลอดภัย” มี”แนวร่วม” ติดตามความ”เคลื่อนไหว” และมารอเพื่อ”ซุ่มยิง” เจ้าหน้าที่   ถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นหมายถึงความ”ล้มเหลว” ของงาน”มวลชน” และงาน”ยุทธวิธี” ใช่หรือไม่…..

@เรื่องของ”แป้ง นาโหนด” หรือ นักโทษหนีเรือนจำ” เชาวลิตร ทองด้วง” จบลงแล้ว ด้วยการเข้าไป”รับโทษ” ที่ก่อไว้ในเรือนจำบางขวาง แต่ คดีความของ”แป้ง นาโหนด” ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม”นักการเมืองท้องถิ่น” กลุ่ม”เจ้าหน้าที่” ที่”มีเอี่ยว” ในการ ช่วยเหลือให้”แป้ง นาโหนด” หลบหนีไปถึง ประเทศอินโดนีเซีย  และ”เครือข่าย” ขบวนการ”ค้ายาเสพติดข้ามชาติ” ของ”แป้ง นาโหนด” ในพื้นที่ของภาคใต้ โดยเฉพาะ”พัทลุง” และ”สงขลา” ยังอยู่กัน”พร้อมหน้า” เรื่องนี้” พล.ต.ท. ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี”  ผบช.ภ.9 ต้องเร่ง”สะสาง” อย่าให้คนในพื้นที่”เข้าใจผิด” ว่า ขบวนการของ”แป้ง นาโหนด” ได้รับการ”ส่งเสริม” จาก”เจ้าหน้าที่” โดยเฉพาะ นายตำรวจใหญ่( บางคน ) ที่คน”วงใน” รู้ดีว่าเป็น”ลูกพี่” ที่ให้การดูแล “แป้ง นาโหนด” มาโดยตลอด…… ก็ต้องติดตามดูว่า คดีของ”แป้ง นาโหนด” ที่เกี่ยวกับ “เครือข่าย” การค้ายาเสพติด  จะเดินหน้าอย่างไร เพราะ”พ.ต.อ.ทวี สองส่อง” เสนาบดี กระทรวงยุติธรรม ที่เป็น”แม่งาน” ในการ “ติดตาม” นำตัว”แป้ง นาโหนด” กลับประเทศไทยไทยได้ จะ”สั่งการ” ให้” ดีเอสไอ” และ” ปปส.” ดำเนินการต่ออย่างไร โดยเฉพาะความ”ร่วมมือ” กับ” รัฐบาลอินโดนีเซีย” ที่ “ร้องขอ” ให้ไทย ติดตามจับกุม”บุคคลสำคัญ” ใน ขบวนการค้ายาเสพติดของอินโดนีเซีย ที่หลบเข้ามา”ซ่อนตัว” ในประเทศไทย เรื่องของ”แป้ง นาโหนด” ยังไม่จบ แต่ยังเป็น”หนังยาว” ที่เป็น”หนังชีวิต” ซึ่งหาก”แป้ง นาโหนด” เกิด”เปิดปาก” บอกความจริงทั้งหมด จะมี”ผู้คน” หลายกลุ่ม หลายก๊วน” ที่ต้องเดินทางไปสู้คดีที่”ศาลสถิตยุติธรรม”……

@อีกเรื่องที่สำคัญ มีข่าวว่า”มอดไม้” ที่มี”นายทุน” ให้การ”หนุนหลัง” มีแผนในการ “ตัดไม้ทำลายป่า” ในพื้นที่ของ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ที่เกี่ยวพันกับนโยบายการ”ป้องกันทรัพยากรธรรมชาติ”  ของ “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ซึ่งถูก”คนในพื้นที่” มองว่าไม่”ประสบความสำเร็จ” ในการ”ป้องกันการบุกรุกป่า” ทั้งที่ในพื้นที่มีกำลัง”ทหาร,ตำรวจ”และ”กองกำลังท้องถิ่น” ถึง 50,000 แต่ปล่อยให้”ป่าไม้” ถูก”ทำลาย” โดย”มอดไม้” ตาม”ใบสั่ง”ของ”นายทุน” ไปอย่างมากมาย  ก็ได้แต่หวังว่า” พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค” แม่ทัพภาคที่ 4 และ “ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 “ จะ “สั่งการ” ให้มีการ”ป้องกัน” และที่”สำคัญ” คือการ”ทำลาย” กลุ่ม”นายทุน” และ”มอดไม้” ในพื้นที่ จึงจะสามารถ”รักษาผืนป่า” เอาไว้ได้  เช่นเดียวกับการ”เอาผิด “กับผู้”บุกรุก” ที่ดิน ป่าไม้” เพื่อการสร้าง”รีสอร์ต” สร้าง”โรงแรม” บนเกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี ที่ เริ่มต้น เป็น”มะลิซ้อน” แต่วันนี้”ชักแผ่วปลาย” ที่ ”สุดท้าย” “กฎหมาย ก็ไม่สามารถ เอาชนะ “นายทุน” เหมือกับที่เคยดำเนินการกับ”นายทุนต่างชาติ” และ”นายทุนไทย” ที่ทำผิดกฎหมาย ใน “เกาะสมุย” มาแล้ว และก็”ล้มเหลว” โดยไม่มีการ”เดินต่อ” อย่างมี”เงื่อนงำ” ครั้งนี้” แม่ทัพต้น” อย่าให้เขา”สบประมาท”ว่า”บ่มิไก๊” เหมือนกับ หลายคน ที่เคยเข้าไป”จัดการ” กับกลุ่ม”ทุนจีน” และ”หงายเงิบ” ออกมา…..

@ปัญหาของ”ยาเสพติด” ยัง”ระบาดหนัก” ในพื้นที่ของ”จังหวัดชายแดนภาคใต้” ทั้ง”ยาบ้า,ยาไอซ์,น้ำกระท่อม,กัญชา” ยังไม่มี”แผ่วปลาย” ให้เห็น ขบวนการที่ประกาศจะ”เอาจริง” กับการ”แก้ปัญหายาเสพติด” ของ”ประเทศไทย และที่”แผ่นดินปลายด้ามขวาน” ที่เป็น”ประตู” ในการ”ส่งออก” ยาเสพติดไป”ประเทศที่สาม” วันนี้กำลัง”แผ่วปลาย” ทุกหน่วยงาน”เงียบๆเหงาๆ” เพราะไม่มีการ”กระตุ้น” ทั้งจาก”ภาครัฐ” และ”ประชาชน” สุดท้าย”การแก้ปัญหา”ยาเสพติด” ก็กลับไปสู่”อีหรอบเดิม” คือ” กลุ่มทุนเริงร่า” กลุ่ม”พ่อค้าร่ำรวย” และ”เจ้าหน้าที่ รับทรัพย์” ส่วน”ประชาชน” กลายเป็น”คนติดยา” ที่ไม่มี”คุณภาพ” และ ไร้ซึ่ง”อนาคต” นี่คือ”ประเทศไทย” ที่ทุกอย่างขึ้นต้น”สวยหรู” และลงท้าย”รุ่งริ่ง”…..

@เพื่อเป็นการ”กระตุ้น” เศรษฐกิจในเมือง”ชายแดน” ที่จะ”รุ่งเรือง”หรือ”ซบเซา” อยู่ที่”การท่องเที่ยว” ของ เมืองชายแดนไทย-มาเลเซีย” ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา “พ.ต.อ.สุรจิตร เพชรจอม” ผกก.สภ.สะเดา จ.สงขลา จึงได้ร่วมกับ”ทุกภาคส่วน” ทั้ง”ภาครัฐ “และ”เอกชน” จัด”เทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่ กับวงร็อคแอนด์โรลในตำนานอย่าง “IOSO” ที่มากันครบทีม  พร้อมกับทายาทมากความสามารถอย่าง” TIGER อย่าง  เสือ เสฎกานต์ “  และวง “ LUSTER BAND “ เพื่อสร้าง”สีสัน”และความ”บันเทิง” ให้กับ  นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และ พี่น้องชาว “ด่านนอก” และ”ใกล้เคียง” ในวันที่ 29 มิถุนายน 2567 เวลา 18 .00  น เป็นต้นไป….. 

@วัวเถื่อน จาก ภาคกลาง ภาคเหนือ ถูกส่งลงพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ในเดือนมิถุนายน เป็นจำนวนมาก เพื่อ”ข้ามฝั่ง”ไปยังประเทศมาเลเซีย เพื่อใช้ในการประกอบพิธีศาสนา”เชือดเนื้อกุรบาน” ใน วัน”อีดิ้นอัฎฮา” ขบวนการ”ค้าวัวเถื่อน” ใน จ.นราธิวาส เป็นของใคร นักการเมืองคนไหน สังกัดพรรคไหน เป็นที่รู้ดีทั้ง “ประชาชน” และ”เจ้าหน้าที่”  ถ้าแม้แต่”ทหาร” ที่ รับผิดชอบใน”แนวชายแดน” ยังไม่กล้าที่จะ”จัดการ” ก็อย่าได้หวังว่า”ฝ่ายปกครอง” และ”ตำรวจ” หรือ”ปศุสัตว์” จะกล้าเข้าไป”ยุ่งเกี่ยว” ยิ่ง”เจ้าหน้าที่”ของ”มาเลเซีย” เปิด”ไฟเขียว” ให้ด้วย ก็ต้องยอมให้”เขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่” อยู่เหนือ”กฎหมาย” บ้านเมืองไปก็แล้วกัน…..

@เหมือนกับเรื่อง “ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน” ที่”จังหวัดชายแดนภาคใต้” ที่”ปราบปราม”ไม่ได้ผลเพราะ”เจ้าหน้าที่” ที่เป็น”หน่วยงานหลัก” ต่าง”มองไม่เห็น” การนำเข้ามาของ”น้ำมันเถื่อน” แต่ หลังจากนี้ การนำเข้า”น้ำมันเถื่อน” จากประเทศมาเลเซียในกลุ่มของ”ดีเซล” อาจจะน้อยลง เพราะ”เศรษฐกิจ” ที่”ย่ำแย่” ของ”มาเลเซีย” ทำให้ “รัฐบาลมาเลเซีย” ที่มี” อันวาร์ อิบราฮิม” เป็น”นายกรัฐมนตรี” มีนโยบาย”เลิกอุ้ม” ชาวมาเลเซียให้ใช้น้ำมันใน”ราคาถูก” มีการ “ปรับขึ้น” ราคา”น้ำมันดีเซล” จาก” ลิตรละ 16 บาท เป็น 26 บาท กลายเป็น”สวรรค์ล่ม” ของ”ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน” จาก”ประเทศไทย” เพราะถ้าราคา”น้ำมันมาเลเซีย”ไม่มี”ส่วนต่าง” กับราคาน้ำมันในประเทศไทยที่ลิตรละ 10 บาทขึ้นไป ก็จะไม่”จูงใจ” ให้มีการ”ลักลอบ” เพราะไหนต้องจ่าย”ส่วย” เป็น”ทางผ่าน”แล้ว ยังต้องขายให้กับ”ผู้ซื้อ” ในราคาที่ต่ำกว่า”หน้าปั๊ม” ในประเทศไทยถึงลิตรละ 3 บาท เหลือ”กำไร” ที่ “น้อยนิด” ไม่เพียงพอในการ” เลี้ยงดูปูเสื่อ” เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ” และ”นักบิน” ที่”ตีกิน”ไม่หยุดหย่อน  แต่”น้ำมันเถื่อน” ก็ไม่หมดไปทีเดียว เพราะจะมีการ”ลักลอบ” นำมา ขาย ในพื้นที่ อำเภอชายแดนเป็นหลัก ดังนั้น จ.สงขลา ยังเป็น”ดินแดน”แห่ง”น้ำมันเถื่อน” เหมือนเดิม “กำไรน้อย” แต่ก็ยัง”อยู่ได้” และ”ส่วย” ที่ต้อง”จ่าย” ให้” เจ้าหน้าที่” ก็อาจจะ”น้อยลง”แต่ก็ดีกว่า”ไม่มี” ไม่ใช่หรือ……

@และหลังจากนี้ไป “น้ำมันเถื่อน” จะเดินทางมา”ทางเรือ” จาก”ประเทศสิงคโปร์ มากขึ้น เพื่อ”แทนที่น้ำมันเถื่อน” ที่มา”ทางบก” จากประเทศมาเลเซีย” น่านน้ำ” ใน”อ่าวไทย” ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช,สุราษฎร์ธานี,ชุมพร,ประจวบ, สมุทรปราการ, จนถึง” ชลบุรี,ระยอง” จะเป็น”เส้นทาง” การนำเข้า”น้ำมันเถื่อน” มากขึ้น เป็นหน้าที่ของ” ตำรวจน้ำ” และ”ศรชล” ของ”กองทัพเรือ” ที่ต้อง “สกัดกั้น”   แต่ถ้า “น้ำมัน”ที่”ถูกต้อง” ที่ออกมาจาก”โรงกลั่น” ทั้ง 5  แห่ง ในประเทศไทย ราคายัง”แพงเวอร์” ก็ยากยิ่งที่จะ”สกัดกั้น” การค้า”น้ำมันเถื่อน” ของกลุ่ม”นายทุน” เพราะในวงการ”อุตสาหกรรม” และ”ขนส่ง” คือ กลุ่มที่มีความต้องการ”น้ำมันราคาถูก” คือ” น้ำมันเถื่อน” เพื่อใช้ในการ”ลดต้นทุน” ของกิจการให้มี”กำไร”…..ถ้า” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” เสนาบดีกระทรวงพลังงาน ยังทำตัว”โอ้เอ้วิหารราย” ไม่สามารถใช้”มาตรการ” ที่เป็น”กฎหมาย” ของ”พลังงาน” เพื่อ “กำหนด”ราคาขายปลีกที่”เป็นจริง” และ”เป็นธรรม” การที่จะ”จัดการ”กับ”น้ำมันเถื่อน” ไม่มีทางสำเร็จ ถ้าไม่เชื่อ ก็ดูกันต่อไป…… แล้วพบกันใหม่วันศุกร์หน้า สวัสดีครับ

—————————————————————

ไชยยงค์ มณีพิลึก

ฟุตบอลรวมพลัง   พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นประธานเปิดการแข่งขันฟุตบอล รวมพลังตำบลอาสา แก้ปัญหาชายแดนใต้ ณ สนามกีฬามหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา โดยมี หน่วยงานราชการ ประชาชน ร่วมชมการแข่งขันจำนวน 3,000 คน

แขกบ้านแขกเมือง.   อนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี/รมว.มหาดไทย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ให้การต้อนรับ ฑูตานุฑูต จากประเทศมุสลิม 12 ประเทศ ที่เดินทางมาเยือนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมือง จ.ยะลา

เยือน จชต.   ฑูต จาก 12 ประเทศ เดินทางมาเยือนจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อติดตามสถานการณ์ และความเป็นอยู่ของชาวมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พบปะผู้นำศาสนาอิสลาม จ.ปัตตานี ที่ มัสยิดกลางปัตตานี มี พาตีเมาะ สะดียามู ผวจ. ปัตตานี ร่วมให้การต้อนรับ ณ มัสยิดกลาง อ.เมือง จ.ปัตตานี

เยี่ยมศาลเจ้า.   ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ สักการะศาลเจ้าเล่งจูเกียง (ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว) ต.อาเนาะรู อ.เมือง จ.ปัตตานี มี พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. พิทักษ์ ก่อเกียรติพิทักษ์ อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปัตตานี และ คณะกรรมการศาลเจ้าให้การต้อนรับ

ปชส.ท่องเที่ยว.   ณ นบลำบอน  ต.นาชุมเห็ด อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง  ทรงกลด สว่างวงศ์ ผวจ.ตรัง เป็นประธานเปิดโครงการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของตำบลนาชุมเห็ด อ.ย่านตาขาว  โดยมี สมนึก ธูปหอม นายอำเภอย่านตาขาว  ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ กลุ่มสตรีตำบลนาชุมเห็ด เจ้าหน้าที่ อสม. และพี่น้องประชาชน เข้าร่วมกิจกรรม                                 

คัดกรอง.   ณ โรงเรียนตรังรังสฤษฏ์ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง บุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ นายก อบจ.ตรัง เป็นประธาน เปิดโครงการคัดกรองมะเร็งเต้านม โดยเครื่องเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ (Mammogram) ในสตรีกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาส อ.ย่านตาขาว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ โดยมีผู้แทนประธานมูลนิธิกาญจนบารมี คณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ อบจ.ตรัง ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ บุคลากรทางการแพทย์ เข้าร่วมโครงการ

ปฏิญาณตน.  ณ ห้องประชุมโรงเรียนห้วยยอด กลึงวิทยาคาร อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ตรัง เขต 2 โดยมีผู้บริหารสถานศึกษา และข้าราชการครู เจ้าหน้าที่โรงเรียนในสังกัด จำนวน 45 โรงเรียนๆ ละ 2 คน จำนวน 90 คน โดนมี พัทธนันท์ นิลพัฒน์  ผอ.สพป.ตรัง เขต 2 เป็นประธาน ในที่ประชุม กล่าวคำปฏิญาณเขตสุจริต ประกาศเขตสุจริตแสดงเจตจำนงต่อต้านการทุจริต ทุกรูปแบบด้วยการขับเคลื่อนโครงการเสริมสร้าง คุณธรรม จริยธรรม   และธรรมาภิบาลในเขตพื้นที่การศึกษา สพป.ตรัง เขต 2

พัฒนาศักยภาพ.  กิตติธัช ณ วาโย ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรรัตภูมิ จำกัด จ.สงขลา พร้อมด้วยคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ฝ่ายโรงงานแปรรูป เข้าร่วมโครงการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อพัฒนาศักยภาพการแข่งขันด้านยางพารา ร่วมกับผู้ประกอบกิจการยางเพื่อเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ณ โรงแรม คริสตัล หาดใหญ่ จ.สงขลา

ตราสัญลักษณ์.  สมนึก พรหมเขียว ผวจ. สงขลา นำขบวนตราสัญลักษณ์ฯ ออกจากศาลากลางจังหวัดสงขลา สู่จังหวัดพัทลุง ท่ามกลางพลังมวลชนร่วมใจเดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีในโอกาสมหามงคลของคนทั้งชาติ

กีฬาตาดีกา.    นิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย เป็นประธาน เปิดมหกรรมกีฬาตาดีกา ระดับอำเภอครั้งที่ 10 ประจำปี 2567  ของ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ณ สนามโรงเรียนบ้านท่า ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย มี ผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ร่วมงานอย่างคับคั่ง

ร่วมงานบุญ.   พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมงานทำบุญให้กับบิดาของ ดร.ซาการียา สะอิ สส. จ.นราธิวาส พรรคภูมิใจไทย ทีาเสียชีวิต ณ บ้านพัก ต.กาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส

แข่งขันกีฬา.    นัจมุดดีน อูมา ประธานคณะทำงาน รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็นประธานเปิด มหกรรมตาดีกา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส โดยมีโรงเรียนตาดีกา ใน อ.ระแงะ เข้าร่วมแข่งขันกีฬาตาดีกาในครั้งนี้

สามเณร.   พ.ต.อ.สุรจิตร เพชรจอม ผกก.สภ.สะเดา จ.สงขลา เป็นเจ้าภาพในการบวชสามเณร และพิธีฉลองสามเณรปาติโมกข์ ณ วัดป่าสุคันธาวาส เกาะค่าง อ.สะเดา จ.สงขลา มีผู้ปกครองนำบุตร หลาน ร่วมพิธี จำนวนมาก

ส่งเสริมท่องเที่ยว.   ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.เขต 4 สงขลา พรรคพลังประชารัฐพร้อมด้วย  ไพเจน มากสุวรรณ์   และ โดมเดช ขุนกลับและ   ปรีชาพงค์ วงค์พระจันทร์ ส. อบจ..เขต  อ.สทิงพระได้ร่วมเปิดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวหาดแสนสุขของ ต.บ่อแดง อ. สทิงพระ จ. สงขลา

ประชุมเครือข่าย.  สือนะ ดีสะเอะ อุปนายกสมาคมคนพิการภาคใต้/ประธานสภาคนพิการทุกประเภทจ.ยะลา ประชุมเครือข่ายคนพิการ จากพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง – อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส อ.ยะหา – อ.กรงปินัง – อ.บันนังสตา – อ.รามัน จ.ยะลา และ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเช่นการขึ้นทะเบียนคนพิการ การจ้างงาน การเข้าถึงการศึกษา การเข้าถึงบริการสาธารณะ การถูกละเมิดทางเพศ รวมทั้งกระบวนการทำงาน ณ ร้านอาหารไทยมาเลย์ ตลาดเก่า อ.เมือง จ.ยะลา

ลดเหลื่อมล้ำ.   พงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา พร้อมคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล เปิดโครงการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ประจำปี 2567 เพื่อช่วยเหลือ นักเรียน เด็ก และเยาวชน ได้เรียนต่อและช่วยเหลือเพิ่มทักษะด้านอาชีพให้แก่เด็ก และเยาวชน สามารถพึ่งพาตนเองได้ และลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา สำหรับผู้ด้อยโอกาส  ณ อาคารศูนย์เยาวชน เทศบาลนครยะลา

ชุมชนยั่งยืน.   อัมรันท์ บากา นายอำเภอกาบัง จ.ยะลา เปิดโครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ บ้านคชศิลา หมู่ที่ 4 ตำบลบาละ ของสถานีตำรวจภูธรกาบัง และร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลง MOU ตามโครงการชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร โดยมี พ.ต.อ.สายูตี กาเต๊ะ ผกก.สภ.กาบัง พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ผอ.รพ.กาบัง ณ สนามกีฬาคชศิลา อ.กาบัง จ.ยะลา

แสดงความยินดี.  อะหมัด รามันห์สิริวงศ์ กรรมการบริหารสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย / ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ประจำจังหวัดยะลา พร้อมด้วย อามีร ซาริคาน รอง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลรือเสาะ และทีมงาน ร่วมแสดงความยินดีและต้อนรับ จีรวรรณ อักโขสุวรรณ์ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงรับตำแหน่งเป็น พัฒนาการ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส

รปภ.เลือก สว.  พ.ต.อ.อภิชาติ วรรณโก ผกก.สภ.สทิงพระ มอบหมายให้ ร.ต.อ.เอกชัย พวงมณี รอง สวป.สภ.สทิงพระ พร้อมกำลังพล 12 นาย ปฏิบัติหน้าที่เป็น จนท.รปภ.และ จนท.รักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง สว. ระดับอำเภอ ณ ศาลาประชาคมอำเภอสทิงพระ