หลังจากเกมฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 กลุ่ม C นัด 5 ทีมไทยบุกเสมอจีน ที่เสิ่นหยาง 1-1 โดยไทยนำก่อนจาก สุภโชค สารชาติ ในครึ่งแรก โดยมาจากการประสานงานสุดสวย ตัวเขาแปะให้ วีระเทพ ป้อมพันธ์ุ เปิดไป ศุภชัย ใจเด็ด ที่ถ่างมารับบอล ก่อนเปิดให้ สุภโชค โขกเข้าไป

แต่มาไทยโดนตีเสมอในครึ่งหลัง จาก ไบเดลลามู อับดุลไวลี ในเกมเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 67 โดยเกมดังกล่าว มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือไทย จัดทัพแบบเซอร์ไพร้ส์ ไม่ได้ส่ง 2 นักเตะเก๋า “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กับ “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ลงสนาม

อีกคู่ เกาหลีใต้ บุกถล่ม สิงคโปร์ 7-0 ทำให้คะแนนกลุ่มนี้ เกาหลีใต้ 13 แต้ม เข้ารอบแน่นอนในฐานะแชมป์กลุ่ม, จีน 8 แต้ม กับไทย 5 แต้ม โดยจีนผลต่างประตูได้เสียดีกว่าไทย 3 ลูก (จีน ยิง 9 เสีย 8/ไทย ยิง 6 เสีย 8)

นัดสุดท้าย วันที่ 11 มิ.ย. ทีมชาติไทย พบ สิงคโปร์ ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดช่อง 32, ยูทูบ-เฟซบุ๊ก ช้างศึก ส่วนอีกคู่ จีน เยือน เกาหลีใต้ เวลาไทย 18.00 น. โดยทีมไทยต้องแช่งให้จีนแพ้เกาหลีใต้ ส่วนไทยมาถล่มสิงคโปร์ เพื่อถมช่องว่างผลต่างประตูได้เสีย ที่เป็นรองอยู่ 3 ลูก

โดยทีมชาติไทย เดินทางกลับมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 7 มิ.ย. 67 มีแฟนบอลไปรอต้อนรับ ก่อนเดินทางกลับโรงแรมโนโวเทล ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต

สุภโชค สารชาติ กล่าวว่า ประตูที่ได้ ดีใจมากที่ยิงได้ ทำให้ค่อนข้างมีความหวัง เป็นการเล่นที่เหมือนเล่นด้วยกันมานาน ทุกคนก็รู้หน้าที่ตัวเองว่าต้องทำอย่างไร วิ่งตามสัญชาตญาณ ส่วนการเจอสิงคโปร์ เกมนี้จะต่างจากนัดแรก เพราะตอนนี้สิงคโปร์ตกรอบแล้ว ส่วนไทยก็กดดัน แต่น่าจะรับมือได้ นัดกับจีน เชื่อว่าทุกคนทำผลงานได้ดี รู้ดีว่าสำคัญแค่ไหน ทุกคนเลยอยากชนะให้ได้ ทุกคนเชื่อมั่นอยู่แล้ว แต่เสียดายที่ทำไม่ได้ แต่ก็ยังมีโอกาสเชื่อว่าจะเข้ารอบได้