เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. นายศิริศักดิ์ อ่อนละมัย อดีต สส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตนได้รับแจ้งจากประชาชนใน จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่าสถานีวิทยุกรมอุตุนิยมวิทยา (ส.อต.) จ.ชุมพร ไม่มีการออกอากาศ ตนจึงรีบเดินทางกลับ จ.ชุมพร และสอบถามผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดชุมพร ซึ่งทำหน้าที่หัวหน้าสถานี ส.อต.ชุมพร ทำให้ได้รับทราบว่าอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยามีคำสั่งให้สถานีวิทยุในสังกัดของกรมฯ ทั่วประเทศซึ่งมี 6 สถานี ยุติการออกอากาศอย่างไม่มีกำหนด ตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย. 2567 ทั้งที่ในช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ตนจึงโทรศัพท์สอบถามอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาเพื่อขอทราบเหตุผล แต่มีเลขานุการของอธิบดีเป็นผู้รับสาย ตนจึงฝากเรื่องให้นำไปเรียนอธิบดีเพื่อขอให้รีบหาทางแก้ปัญหาโดยด่วนด้วย

“ส.อต.ชุมพรเปิดขึ้นมาโดยมีพันธกิจคือการแจ้งเตือนภัยธรรมชาติแก่ประชาชน สมัยที่ผมเป็น สส.ชุมพรได้พยายามผลักดันให้เปิดสถานีวิทยุ ส.อต.ควบคู่กับสถานีอุตุนิยมวิทยามาตั้งแต่ปี 2531 เวลามีพายุต่างๆ สถานีวิทยุ ส.อต.ชุมพรได้ทำหน้าที่แจ้งเตือนภัยประชาชนจนลดความสูญเสียได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน ชาวบ้านจะติดตามข่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยาทาง ส.อต. แม้ปัจจุบันกระแสสื่อออนไลน์จะเข้ามามีบทบาทมาก แต่ชาวบ้านในหลายพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต จะฟังการแจ้งเตือนภัยจากสถานีวิทยุ ส.อต. ดังนั้น เมื่ออธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยามีคำสั่งแบบฟ้าผ่าให้สถานีวิทยุในสังกัดยุติการออกอากาศเช่นนี้ ผลเสียย่อมตกอยู่กับประชาชน” นายศิริศักดิ์ กล่าว

นายศิริศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตนทราบว่าบริษัทเอกชนที่ประมูลเวลากับกรมอุตุนิยมวิทยาประสบปัญหาขาดทุนมาตั้งแต่วิกฤติการณ์โควิด-19 แต่เขาก็ทนจ่ายค่าสัมปทานครบมาตลอด และเมื่อเดือน พ.ค. 2567 ซึ่งจะต้องต่อสัมปทาน แต่กรมอุตุนิยมวิทยากับบริษัทเอกชนรายนี้ไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ กรมอุตุนิยมวิทยาจึงสั่งสถานีวิทยุในสังกัดยุติการออกอากาศโดยไม่มีแผนรองรับ ทำให้สถานีในสังกัดต้องงดออกอากาศกันหมด ทั้งที่ที่ผ่านมากรมอุตุนิยมวิทยาได้เงินจากสัมปทานสถานีปีละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท และส่วน ส.อต.ชุมพรเปิดมาตั้งแต่ปี 2531 ตนขอถามว่ากรมอุตุนิยมวิทยาได้เงินค่าสัมปทานไปแล้วเท่าไหร่ และเงินเหล่านั้นไปอยู่ที่ไหน

“ขณะนี้ผมทำหนังสือไว้ 3 ฉบับ เพื่อเตรียมไปยื่นต่ออธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลฯ และนายกรัฐมนตรี ขอให้รีบหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว ส่วนบางคนในกรมอุตุนิยมวิทยาที่บอกว่าควรปิดสถานีในสังกัดกรมอุตุนิยมวิทยาให้หมด เพราะประชาชนสามารถติดตามข่าวลมฟ้าอากาศจากสื่อออนไลน์ได้แล้วนั้น ผมคิดว่าถ้าเป็นเช่นนั้น ควรยุบกรมอุตุนิยมวิทยา เพราะประชาชนสามารถติดตามสื่อออนไลน์ของต่างประเทศได้” นายศิริศักดิ์ กล่าว