นายดิเรก คชารักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ตามที่กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ได้ทำการสำรวจของค้างบัญชีเรือที่อยู่ในอารักขาของศุลกากรเกินกำหนดเวลา 30 วันโดยไม่มีใบขนสินค้าอันรับรองและไม่ได้เสียอากรหรือวางเงินประกันค่าอากรที่พึงเรียกเรียกเก็บแก่ของนั้น รวมถึงไม่มีผู้ใดมาแสดงความเป็นเจ้าของ จึงได้ทำการเปิดสำรวจและพบว่าเป็นสินค้าประเภทซากสัตว์ เช่น เนื้อโค เครื่องในโค เนื้อกระบือ เครื่องในกระบือ ชิ้นส่วนไก่ เนื้อสุกร เครื่องในสุกร ซึ่งเป็นสินค้าควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยโรคระบาดสัตว์ จำนวน 235 ตู้ ซึ่งเป็นของตกค้างตามกฎหมายศุลกากร นั้น
สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังได้ดำเนินการตามกฎหมายศุลกากร ระเบียบเกี่ยวกับพิธีการศุลกากรว่าด้วยของตกค้าง และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยตู้สินค้าประเภทเนื้อสุกร เครื่องในสุกร จำนวน 161 ตู้ กรมศุลกากรได้ส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดโดยไม่ยินยอมให้ทำความตกลงระงับคดีในชั้นศุลกากร และได้ดำเนินการทำลายเนื้อสุกรและเครื่องในสุกร ดังกล่าว ร่วมกับกรมปศุสัตว์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สมาคม ผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และสภาเกษตรกร จนแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 คงเหลือตู้สินค้าประเภทเนื้อโค เครื่องในโค เนื้อกระบือ เครื่องในกระบือ ชิ้นส่วนไก่ จำนวน 74 ตู้
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/06/S__37585007_0.jpg)
ต่อมาจากการสำรวจของตกค้างเพิ่มเติม พบสินค้าประเภทเนื้อสุกร เครื่องในสุกร อีกจำนวน 17 ตู้ รวมเป็น 91 ตู้ โดยสินค้าประเภทเนื้อโค เครื่องในโค เนื้อกระบือ เครื่องในกระบือ ชิ้นส่วนไก่ จำนวน 74 ตู้ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังได้ส่งมอบให้กรมปศุสัตว์ดำเนินการทำลายตามระเบียบของกรมปศุสัตว์ ซึ่งเป็นไปตามบันทึกข้อตกลงระหว่างกรมปศุสัตว์และกรมศุลกากรเรื่องการปฏิบัติเกี่ยวกับกรณีที่มีการจับกุมดำเนินคดีลักลอบนำสัตว์หรือซากสัตว์เข้าในราชอาณาจักร
ดังนั้น ตามที่ได้มีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวว่า กรมศุลกากรได้ส่งมอบตู้สินค้าประเภทสุกร จำนวน 74 ตู้ ให้ กรมปศุสัตว์นำไปทำลายโดยไม่ได้มีการตรวจสอบข้อมูลหรือค้นหาผู้กระทำความผิดนั้น กรมศุลกากรขอยืนยันว่า สินค้าจำนวน 74 ตู้ ดังกล่าว ไม่ใช่ตู้สินค้าประเภทสุกรแต่อย่างใด
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/06/S__37585011_0.jpg)
สำหรับสินค้าประเภทเนื้อสุกร เครื่องในสุกร จำนวน 17 ตู้ กรมศุลกากรได้ส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 และกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มาตรวจสอบของกลางดังกล่าวแล้ว ณ ท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กรมศุลกากรตระหนักถึง ความกังวลและความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรภายในประเทศจากราคาสุกรภายในประเทศที่ตกต่ำจึงได้สั่งการและกำชับให้ทุกหน่วยงานในสังกัดตรวจสอบการนำเข้าสินค้าประเภทสุกรรวมถึงสินค้าเกษตรอย่างเข้มงวด ในขณะเดียวกันได้บูรณาการและประสานงานกับหลายหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนมาโดยตลอดเพื่อแก้ไขปัญหา ตลอดจนสนับสนุนการดำเนินการทางคดีอาญา และเพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามการนำเข้าสินค้าประเภทของที่ผิดกฎหมายอย่างเข้มงวดตามนโยบายของกรมศุลกากร
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/06/S__37585009_0.jpg)