วนมาเจอกันอีกสัปดาห์แล้ว สำหรับแฟนๆ ของอิชั้น “เสี่ยวเฟย” คนสวย คนงาม คนดีแห่งบ้านสีบานเย็น ที่บอกเลยว่าจะไม่ทำให้คุณๆ ผิดหวัง เพราะอิชั้นพกพาข่าวสารและคำวิจารณ์แบบตรงไปตรงมาและแซ่บๆ มาฝากคุณๆ แล้ว อยากให้อ่านกันค่ะ เพราะบอกเลยว่าจะได้สารแห่งความคิดไป และต่อยอดได้จากเรื่องราวที่อิชั้นเอามานำเสนอกันแน่นอน ฟันธงค่ะ
เข้าเรื่องเลยนะคะ กลัวช้า ฮ่าๆ จริงๆ ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ต้องบอกเลยว่าเซอร์ไพร้ส์หนักมากกับเรื่องราวของละครเรื่อง “มาตาลดา” ทางช่อง 3 ที่วนกลับมาให้ได้สนใจและกลับไปอ่านเรื่องราวและความเป็นไปของเรื่องนี้ตอนออนแอร์ใหม่ๆ อีกสักรอบ ต้องบอกเลยว่าละครเรื่องนี้ ตอนแรกใช้คำว่า “นอกกระแส” ได้เลยไม่มีผิด เพราะคนจะไม่คิดว่าละครน้ำดี หรือละครที่มีบทที่ทันสมัยทั้งในเรื่องการพูดถึง LGBTQ+ และเรื่องการมองโลกในแง่ต่างๆ ทั้งของคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่จะได้รับการตอบรับที่ดีขนาดนี้ เพราะอย่างที่ทราบกัน ละครที่จะได้รับความนิยมสำหรับจริตคนไทยเรานั้นก็มีอยู่ 2 แนว คือตลกและผี ซึ่งเรื่องราวของมาตาลดา ได้ฉีกกฎแนวเดิมๆของละครไทย ให้คนเห็นในภาพรวมของศูนย์รวมเล็กๆของ “ทัศนคติ” ที่ดี ที่ทำให้สังคมเราน่าอยู่มากขึ้น
ตอนแรกอย่างที่บอกไป เรตติ้งของมาตาลดาไม่ได้พุ่งปรี๊ดเป็นม้ามืดหรือตัวเก็งอะไรตั้งแต่อีพีแรก แต่ด้วยเนื้อหาที่น่าสนใจ ตัวละครที่เหมาะสม และการแสดงของนักแสดงที่ลงตัวทำให้มาตาลดา ได้รับการพูดถึงในโลกออนไลน์อย่าง X มากขึ้นเรื่อยๆ และนำไปสู่ความฟีเวอร์เบาๆ ที่เริ่มติดเทรนด์และมีแฮชแท็กการพูดถึงเรื่องราวที่เปิดกว้าง และไม่ทำให้คนที่เป็นเพศทางเลือกหรือ LGBTQ+ เขารู้สึกแปลกแยกหรือด้อยค่าเขาลงไป แต่กลับนำเสนอให้เรื่องราวมีความสมูทและกลายเป็นบทบาทที่คนรักและเข้าใจกลุ่มคนเพศทางเลือกมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่เซอร์ไพร้ส์มากๆ และน่าชื่นชมจริงๆ
ยิ่งล่าสุดหลังจากละครจบไป กระแสซาลง แต่ที่กระแสถูกกลับมาพูดอีกครั้งก็ตอนที่มาตาลดา ม้ามืดนี้ได้เข้าวินคว้ารางวัลนาฏราช ครั้งที่ 15 นี้ได้อย่างสมศักดิ์ศรี และพาให้หนึ่งในนักแสดงนำของเรื่องอย่าง ชาย ชาตโยดม คว้ารางวัลนาฏราชมาครองด้วย ไม่รวมงานประกาศรางวัลล่าสุดของคมชัดลึก ที่มาตาลดาก็คว้ารางวัลมาครองได้อย่างมากมาย
ทำเอาผู้จัดอย่าง “จ๋า ยศสินี” ถึงกับดีใจและขอบคุณความรักและการสนับสนุนจากแฟนๆหนักมาก แถมเธอยังพูดได้น่าสนใจอีกด้วยว่า “ขอบคุณที่ทำให้ละครน้ำดีมีที่ยืน” ประโยคนี้ดูเหมือนจะธรรมดา แต่บอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะในแง่ของธุรกิจหรือเรตติ้งนั้นการทำละครน้ำดีหรือละครที่ไม่ได้มีการตบตีแย่งชิงหรือด่าทอกันในยุคปัจจุบัน จะได้รับการอนุมัติยากมากๆ เพราะด้วยความนิยม ถ้าเสนอเรื่องราวแล้ว คนลงทุนมองว่าไม่ได้กำไร ตลาดไม่เอา มันก็จบ เท่ากับไม่ได้ผลิต แต่พี่จ๋าได้พูดถึงแง่มุมของละครน้ำดี ที่จะทำให้เมล็ดพันธุ์ดีๆ อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต
และก็อย่างที่บอกไป “ละครมาตาลดา” ได้ทำหน้าที่ของมันอย่างสมบูรณ์แล้ว แม้จะเป็นแค่ละครเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้แฟนๆ ได้รับรู้คือ ละครแนวนี้ยังมีที่ยืน ถ้าคุณทำได้ดี ต้องเน้นว่าทำได้ดี ไม่ใช่ว่าเห็นกระแสละครมาตาลดาดีแล้วทำตาม พร้อมบอกว่าละครเรามีการพูดถึง LGBTQ+ ในเรื่องนะ มันดีมาก ต้องได้รางวัลแบบมาตาลดาแล้ว อันนี้ไม่ใช่ อยากให้แยกแยะด้วย เพราะอย่างที่บอกไป ละครดี มันก็คือละครดี มันไม่ต้องโฆษณามาก
จริงๆ ที่พูดมาทั้งหมดทั้งมวลนี้ ก็อย่างที่บอกไป ขอบคุณละครมาตาลดานะ ที่ทำให้เห็นแสงที่ปลายอุโมงค์ ที่เราไม่ต้องเสพแต่ละครแย่งผัวแย่งเมียอย่างเดียว ละครดีๆ ก็ควรมีให้ได้ชมทางหน้าจอเช่นกัน ฝากไว้ให้คิด
“เสี่ยวเฟย” บัยบายค่า