นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ช่วงวันที่ 5-7 ต.ค.64 มีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ และมีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออกและภาคใต้ ประกอบกับในช่วงวันที่ 7-10 ต.ค.64 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทยจะทำให้คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง มีคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตรนั้น 

ตนได้สั่งการให้กรมเจ้าท่าติดตามข้อมูลสภาพอากาศและเตรียมความพร้อม เพื่อสนับสนุนให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่มีฝนตกหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ที่เคยหรือกำลังประสบอุทกภัย ให้หน่วยงานในพื้นที่ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ รถ เรือ และอุปกรณ์ ให้เจ้าท่าภูมิภาคแต่ละพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จัดเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุประจำ ณ ที่ตั้งสำนักงานตลอดเวลา พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชม.

นายอธิรัฐ กล่าวต่อว่า หากมีสถานการณ์รุนแรงให้เร่งประสานความร่วมมือจากจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที ทั้งนี้ให้หน่วยงานในพื้นที่ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชน ผู้ประกอบการเรือหรือชาวเรือที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวทราบถึงสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงภัย     

ทั้งนี้กรมเจ้าท่าได้ออกประกาศ เมื่อวันที่ 4 ต.ค.64 แจ้งให้นายเรือและผู้ควบคุมเรือระมัดระวังการเดินเรือ หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีคลื่นสูงติดตามข่าวอากาศอย่างต่อเนื่อง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว สำหรับผู้ควบคุมผู้ควบคุมเรือกลลำน้ำให้ระมัดระวังการเดินเรือจากกระแสน้ำที่ไหลแรงในระยะนี้ ความพร้อมศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยกรมเจ้าท่าจากพายุดีเปรสชั่น ประจำพื้นที่เจ้าท่าภูมิภาคที่ 1-7 และสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 1-8 ดังนี้ 

1.ตั้งศูนย์อำนวยการฯ พร้อมศูนย์อำนวยความสะดวก จำนวนรวมทั้งสิ้น 55 จุด 2.เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ช่วยเหลือฯ รวมทั้งสิ้น 317 นาย 3.เตรียมความพร้อมทางรถรวม 74 คัน/ทางเรือรวม 64 ลำ และ 4.จัดชุดถุงยังชีพ 620 ชุด อาหาร 1,250 กล่อง น้ำดื่ม 5,640 ขวด แจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอยู่ในขณะนี้ รวมถึงจุดอำนวยความสะดวกที่ส่วนราชการจัดไว้