สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 5 ต.ค.ว่านายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ แถลงเมื่อคืนวันจันทร์ หลังเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ที่พระราชวังอิมพีเรียล เพื่อกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้นำรัฐบาลญี่ปุ่นคนที่ 100 ว่าการยุบสภาจะเกิดขึ้นในวันที่ 14 ต.ค. และกำหนดการเลือกตั้งทั่วไปคือวันที่ 31 ต.ค.นี้ ซึ่งจะยังคงเป็นการเลือกตั้งก่อนกำหนด
คิชิดะ วัย 64 ปี ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ ทั้งในกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงกลาโหม ในสมัยรัฐบาลของนายชินโซ อาเบะ กล่าวว่า เขาต้องการเดินหน้ามาตรการเชิงรุกทั้งในทุกด้าน โดยเฉพาะการตอบสนองต่อโรคโควิด-19 และการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อให้แผนการนั้นขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่น ประชาชนต้องเป็นผู้ตัดสินใจก่อน ว่าต้องการให้เขาเป็นผู้นำหรือไม่ 
นายกรัฐมนตรีฟุมุิโอะ คิชิดะ ถ่ายภาพหมู่ร่วมกับคณะรัฐมนตรี หลังเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระจักรพรรดิ
ทั้งนี้ คิชิดะขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดทางการเมืองครั้งนี้ ด้วยการลงมติของสภาผู้แทนราษฎร ที่พรรคเสรีประชาธิปไตย ( แอลดีพี ) ครองเสียงข้างมากอย่างเด็ดขาด โดยการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่เป็นผลจากการลาออกของนายโยชิฮิเดะ ซึงะ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เพียงปีเดียว 
แม้ญี่ปุ่นต้องจัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ภายในช่วงปลายเดือน พ.ย.นี้อยู่แล้ว แต่การที่คิชิดะตัดสินใจเลื่อนกำหนดการลงคะแนนให้เร็วขึ้นอีก สร้างความประหลาดใจให้กับทุกฝ่ายต่อความเร่งรีบของผู้นำญี่ปุ่นคนใหม่ อย่างไรก็ตาม มีการวิเคราะห์เช่นกันว่า คิชิดะต้องการใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด เนื่องจากภัยคุกคามจากโรคระบาดยังคงอยู่ และพรรคแอลดีพีมีแนวโน้มสูงที่จะยังคงชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้นำญี่ปุ่นอาจมองว่า ยิ่งจัดการเลือกตั้งเร็วเท่าไหร่ จะยิ่งเป็นการเพิ่มเสถียรภาพให้กับรัฐบาล ที่รัฐมนตรีว่าการ 13 จาก 20 ตำแหน่ง ไม่เคยดำรงตำแหน่งระดับนี้มาก่อน แต่ส่วนใหญ่เป็นเครือข่ายทางการเมืองของอาเบะ.

เครดิตภาพ : AP