วันที่ 9 พ.ค. 67 ร.ต.ท.มนตรี  คงสม รอง สวป.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา นำกำลังเข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โกดังสินค้าขนาดใหญ่ ในพื้นที่ หมู่ 14 ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเพลิงกำลังจะลุกลามไหม้โกดังคลังส่งพัสดุสินค้าเอกชน จึงประสานทีมบรรเทาสาธารณภัยหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา รถน้ำจาก อบต.คลองหลวงแพ่ง คลองอุดรชลจร คลองเปรง วังตะเคียน และอบต.คลองนครเนื่องเขต เข้าระงับเหตุ

พบเป็นโกดังขนาดใหญ่ ปลูกติดๆ กัน 4 โกดังในพื้นโล่ง โดยโกดังสุดท้ายเป็นโกดังของบริษัท แฟมิลี่ฟาร์ม 37 จำกัด ความยาวของโกดังประมาณ 80 เมตร ด้านในปลูกต้นกัญชา และเก็บกัญชาไว้บางส่วน เพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง มีกลุ่มควันลอยคละคลุ้งเต็มพื้นที่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ฉีดน้ำเพื่อดับไฟที่กำลังโหมลุกไหม้อยู่ด้านใน ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่อีกส่วน ได้กระจายโดยรอบโกดังเพื่อฉีดน้ำสกัดกั้นเพลิงเอาไว้ ไม่ให้ประกายไฟลุกลามมายังโกดังข้างเคียงที่เป็นคลังสินค้าของบริษัทขนส่งเอกชนอีก 3 โกดัง เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 50 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้

ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า ขณะที่นั่งอยู่ที่บ้านเห็นกลุ่มควันขนาดใหญ่ลอยออกมาจากท้องนาข้างบ้าน จึงรีบขี่รถ จยย.มาดูก็พบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้โกดังที่ปลูกและเก็บกัญชา มีคนงานด้านในปีนกำแพงหนีตาย และบางส่วนก็รีบยกข้าวของด้านในออกมา แต่ก็ได้ไม่กี่ชิ้น เพราะเพลิงโหมลุกไหม้เร็วและแรงมาก 

นายพัสธร สิทธิการ นายก อบต.คลองหลวงแพ่ง เปิดเผยว่า เบื้องต้นคาดว่า สาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งขณะนี้ยังหาจุดต้นเพลิงด้านในไม่ได้  แต่ทราบจากทีมนักดับเพลิงว่าด้านในเป็นเยื่อโฟมที่กรุล้อมเอาไว้ติดๆ กัน จึงเป็นเชื้อเพลิงได้อย่างดี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เบื้องต้นตำรวจต้องรอเพลิงสงบลง ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ พฐ.เข้าเก็บหลักฐานถึงสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ โดยไม่ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งทิ้ง ทั้งเหตุไฟฟ้าลัดวงจร หรือเป็นเจตนาอื่นใด ขณะที่มูลค่าความเสียหายต้องรอประเมินและตรวจสอบประกันภัยอีกครั้ง