วันที่ 2 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากวงการธุรกิจรถมือสองว่า ในปีนี้ตลาดรถมือสองได้รับผลพวงมาจากปีก่อนที่มีจำนวนรถยึดเพิ่มมากขึ้นเกือบเท่าตัว จากที่เคยมีรถหมุนเข้ามาปีละ 150,000-180,000 คัน แต่ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 250,000-300,000 คัน เนื่องจากได้รับผลกระทบต่อเนื่อง จากสถานการณ์โควิด ยึดง่าย ขายออกยาก มีรถถูกยึดจำนวนมาก ล้นลานประมูลอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ยอดขายรถใหม่ยังไม่ดีเท่าที่ควร เพราะผู้บริโภคยืดอายุการใช้รถนานขึ้น

ปัจจัยลบหลักๆ มาจากสถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ทั้งการปล่อยกู้รถใหม่ และรถมือสองรวมไปถึงผู้ประกอบการรถมือสอง ที่ยังขอกู้ต่อทุนยาก ปัญหาเชื่อมโยงต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ นอกจากนี้ยังมีรถยนต์ไฟฟ้าออกมาหลายแบรนด์ หลายรุ่น ราคาย่อมเยา ใกล้เคียงกับรถอีโคคาร์ จึงทำให้ตัดสินใจเลือกได้ง่ายกว่า

อย่างไรก็ตาม หากจะเลือกซื้อรถมือสองในเวลานี้ถือว่าผู้บริโภคที่มีเงินพร้อมจ่ายจะได้เปรียบอย่างมาก เพราะมีตัวเลือกในตลาดจำนวนมาก อีกทั้งราคาถูกลง 20-30% จะถูกมากหรือถูกน้อยก็ขึ้นอยู่กับปริมาณรถแต่ละรุ่นว่าจะล้นตลาดขนาดไหน

ทางด้านสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว ระบุว่า ปัจจุบันนี้มีสมาชิกผู้ประกอบการประมาณ 700 ราย หากนับผู้ประกอบการรายย่อยอื่นๆ มีมากกว่า 1,000 ราย ในจำนวนนี้ยังไม่นับแบบซื้อมาขายไปที่เป็นรายย่อยแบบขายจอดริมทาง ครั้งละ 1-2 คัน เป็นต้น ที่ผ่านมาได้มีการปิดตัวและเปิดใหม่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจำนวนเฉลี่ยบวกลบจะอยู่ที่ประมาณ 900-1,000 ราย ปัจจุบันนี้มีผู้ประกอบการหันไปขายรถบนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้นเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าเพิ่มขึ้น