นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้กรมทางหลวง (ทล.) เตรียมเปิดทดสอบระบบให้บริการเสมือนจริงแบบครบวงจร (Soft Opening) โครงการการจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติพิเศษแบบไม่มีไม้กั้น (Multi-lane Free Flow) หรือ ระบบ M-Flow บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 9 หรือวงแหวนกาญจนาภิเษก (บางปะอิน-บางพลี) ช่วง ต.ค.64 จำนวน 4 ด่าน ประกอบด้วย ด่านทับช้าง 1, 2 และด่านธัญบุรี 1, 2 นอกจากนี้ยังมอบนโยบายให้ ทล. พิจารณาจัดโปรโมชั่นที่เหมาะสม เช่น ลดราคาค่าผ่านทาง เพื่อจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้ระบบ M-Flow มากขึ้น ทั้งยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายของประชาชนด้วย
ด้านนายธนศักดิ์ วงศ์ธนากิจเจริญ ผู้อำนวยการกองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ทล. กล่าวว่า ช่วงกลาง ต.ค.นี้ ทล. เตรียมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.), การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อบูรณาการบังคับใช้กฎหมายเชื่อมโยงข้อมูลผู้ใช้บริการระบบ M-Flow ก่อนที่ ทล. จะทดสอบระบบให้บริการเสมือนจริงด้วยการให้ประชาชนทดลองใช้บริการช่วงปลาย ต.ค.นี้ โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนระบบ M-Flow ก่อน ตามช่องทางต่างๆ ของ ทล. เช่น เว็บไซต์ www.mflowthai.com, โมบายแอพพลิเคชั่น M Flow และจุดบริการที่ ทล.กำหนด โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์แต่อย่างใด
สำหรับการให้บริการช่วงทดสอบระบบประชาชนที่ใช้บริการในช่อง M-Flow ยังคงต้องชำระค่าผ่านทางที่ด่านเก็บเงินปลายทางรูปแบบเดิมก่อน จากนั้นจึงจะปรับเปลี่ยนรูปแบบ และช่องทางการชำระเงิน เมื่อเปิดให้บริการเต็มรูปแบบต่อไป ส่วนการจัดโปรโมชั่นเพื่อจูงใจประชาชน ทล. ได้เตรียมสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนใช้บริการระบบ M-Flow ไว้หลากหลายรูปแบบ เช่น ลดราคาค่าผ่านทาง 25-50% หรือโปรโมชั่นแบบแพ็กเกจจ่าย 1 ครั้ง ฟรี 1 ครั้ง คาดว่าจะได้ข้อสรุป เพื่อนำเสนอนายศักดิ์สยามพิจารณาเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ยังเตรียมประเมินผลการทดสอบระบบให้บริการเสมือนจริงเป็นระยะเวลา 2 เดือน หากผลการทดสอบ พบว่าระบบมีความเสถียรและได้รับผลตอบรับดีจากประชาชน จะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ช่วงเทศกาลปีใหม่ 65 ขณะเดียวกันยังมีแผนขยายผลดำเนินงานไปใช้กับมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 กรุงเทพฯ–บ้านฉาง ภายในปี 65 รวมถึงโครงการมอเตอร์เวย์หมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา และมอเตอร์เวย์หมายเลข 81 บางใหญ่-กาญจนบุรี ในอนาคต
อย่างไรก็ตามการจัดเก็บค่าผ่านทางระบบ M-Flow จะช่วยระบายรถบริเวณหน้าด่านได้เร็วกว่าเดิมถึง 5 เท่าหรือประมาณ 2,000 คัน/ช่อง/ชม. ช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านและช่วยให้ผู้ใช้ทางสามารถใช้ความเร็วต่อเนื่อง 120 กม./ชม.ได้ เมื่อเทียบกับระบบชำระด้วยเงินสด หรือระบบชำระค่าผ่านทางอัตโนมัติ ที่สำคัญยังช่วยลดการสัมผัส ป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และเข้ากับการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ด้วย
นอกจากนี้ ทล.ยังบูรณาการเทคโนโลยีและการให้บริการอย่างเป็นระบบ และพัฒนาระบบให้รองรับความต้องการใช้งาน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของประชาชนในยุคดิจิทัลที่เป็นสังคมไร้เงินสดอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ชำระค่าผ่านทางผ่านโทรศัพท์มือถือ การชำระค่าผ่านทางแบบอัตโนมัติด้วยบัตรเครดิต/บัตรเดบิต การหักบัญชีธนาคารแบบอัตโนมัติ การตัดชำระผ่านระบบ Pre-Paid เช่น M-Pass Easy-Pass และ Wallet อื่นๆ ในอนาคต รวมถึงมีบริการรับชำระเงินผ่านช่องของทางธนาคาร และ Counter Service ในรูปแบบต่างๆ และผ่าน QR Code ด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน และสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยตลอดการเดินทางบนมอเตอร์เวย์