นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (1 ต.ค.64) พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ และสะพานชำรุด จำนวน 17 จังหวัด (49 สายทาง 116 แห่ง) จราจรผ่านไม่ได้ 40 แห่งดังนี้ 1.จ.ชัยภูมิ (ผ่านไม่ได้ 4 แห่ง) ทล. 201 บ้านลี่-สี่แยกโรงต้ม ช่วง กม.ที่ 115+800-125+000 ระดับน้ำสูง 50 ซม., ทล. 2170 วัดปทุมชาติ-หนองจาน ช่วง กม.ที่ 0+500-3+600 ระดับน้ำสูง 30 ซม., ทล. 2179 จัตุรัส-บำเหน็จณรงค์ ช่วง กม.ที่ 0+225-0+250 น้ำกัดเซาะคอสะพาน, ทล. 225 หนองบัวระเหว-ชัยภูมิ ช่วง กม.ที่ 230+913 น้ำกัดเซาะคอสะพาน
2.จ.ขอนแก่น (ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ทล. 2065 พล-ลำชี ช่วง กม.ที่ 33+000-34+500 ระดับน้ำสูง 30 ซม. 3.จ.นครราชสีมา (ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ทล.2068 ช่วง กม.ที่ 42+221 น้ำกัดเซาะคอสะพาน 4.จ.นนทบุรี (ผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) ทล.302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 16+950 ระดับน้ำสูง 20-25 ซม. ใช้จุดกลับรถต่างระดับบางใหญ่ที่ กม.18+500 แทนแทน, ทล. 302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 17+000 ระดับน้ำสูง 20-25 ซม. ใช้จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางไผ่ที่ กม.16+600 ทดแทน
5.จ.สระบุรี (ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ทล.1 หนองแค-หินกอง ช่วง กม.ที่ 85+143 (ทางลอดใต้สะพานระพีพัฒน์ทั้ง 2 ฝั่ง) ระดับน้ำสูง 90+95 ซม. 6.จ.อ่างทอง (ผ่านไม่ได้ 4 แห่ง) ทล.33 นาคู-ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 36+000-36+200 (จุดกลับรถใต้สะพานฝั่งป่าโมก) ระดับน้ำสูง 40 ซม., ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 32+607-32+610 ระดับน้ำสูง 130 ซม., ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 43+719-43+720 ระดับน้ำสูง 80 ซม., ทล. 32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 39+843-40+000 ระดับน้ำสูง 55 ซม.
7.จ.สุโขทัย (ผ่านไม่ได้ 5 แห่ง) ทล.12 ตอน เมืองเก่า-สุโขทัย ช่วง กม.ที่ 167+548-171+002 ด้านซ้ายทาง ระดับน้ำสูง 30 ซม. เดินทางจากตากไปพิษณุโลกให้ใช้ทางเลี่ยง ทล.12 ที่ กม.163+543 แยกบ้านนา เลี้ยวทาง 1272 แทน, ทล.101 คลองโพธิ์-ท่าช้าง ช่วง กม.ที่ 79+969-82+000 ระดับน้ำสูง 30 ซม., ทล.125 แจกัน-บ้านสวน ช่วง กม.ที่ 14+450-19+400 ด้านซ้ายทาง ระดับน้ำสูง 40 ซม., ทล.1195 สุโขทัย-เตว็ดใน ช่วง กม.ที่ 0+000-0+200 ระดับน้ำสูง 15 ซม., ทล.1347 วัดโคก-สระบัว ช่วง กม.ที่ 0+000-5+284 เป็นช่วงๆ ระดับน้ำสูง 15 ซม.
8.จ.ลพบุรี (ผ่านไม่ได้ 6 แห่ง) ทล.205 คลองห้วยไผ่-เทศบาลลำนารายณ์ ช่วง กม.ที่ 68+000-71+000 ระดับน้ำสูง 40 ซม. เดินทางไปลพบุรีใช้ ทล.2 หรือ ทล.21 แทน, ทล.205 เทศบาลลำนารายณ์-ช่องสำราญ ช่วง กม.ที่ 80+700-81+200 ระดับน้ำสูง 60 ซม., ทล.2243 บัวชุม-สี่แยกบัวชุม ช่วง กม.ที่ 0+340 สะพานทรุดตัว, ทล. 2243 บัวชุม-สี่แยกบัวชุม ช่วง กม.ที่ 0+800-2+500 ระดับน้ำสูง 50 ซม., ทล.2243 บัวชุม-สี่แยกบัวชุม ช่วง กม.ที่ 1+400 ทางขาด ระดับน้ำสูง 40 ซม. ทางขาดใช้ทางเลี่ยงเข้าหมู่บ้านแทน, ทล.3024 บ้านหมี่-เขาช่องลม ช่วง กม.ที่ 5+600-กม.7+300 ระดับน้ำสูง 150 ซม.
9.จ.กำแพงเพชร (ผ่านไม่ได้ 4 แห่ง) ทล.1 โนนปอแดง-ปากดง ช่วง กม.ที่ 419+036 (จุดกลับรถคลองพะยอม) ระดับน้ำสูง 200 ซม., ทล.1 โนนปอแดง-ปากดง ช่วง กม.ที่ 432+030 (จุดกลับรถคลองสุวรรณ) ระดับน้ำสูง 150 ซม., ทล.1 ตอน โนนปอแดง-ปากดง ช่วง กม.ที่ 431+701 (จุดกลับรถคลองสุวรรณ) ระดับน้ำสูง 150 ซม., ทล.1117 ตอน คลองแม่ลาย-อุ้มผาง ช่วง กม.ที่ 66+850-93+000 ดินสไลด์
10.จ.พระนครศรีอยุธยา (ผ่านไม่ได้ 4 แห่ง) ทล 3263 หน้าโคก-เสนา ช่วง กม.ที่ 11+100 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 150 ซม., ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 32+607 (จุดกลับรถใต้สะพานคลองกะท่อ) ระดับน้ำสูง 120 ซม., ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 39+843 (จุดกลับรถใต้สะพานวัดดอกไม้) ระดับน้ำสูง 55 ซม., ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 43+719 (จุดกลับรถใต้สะพานหลวงปู่ทวด) ระดับน้ำสูง 85 ซม. 11.จ.สุพรรณบุรี (ผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) ทล.33 สุพรรณบุรี-นาคู ช่วง กม.ที่ 9+886 สะพานคลองทับน้ำ ระดับน้ำสูง 55 ซม., ทล.340 สาลี-สุพรรณบุรี กม.ที่ 59+674 สะพานศาลเจ้าแม่ทับทิม ระดับน้ำสูง 100 ซม.
12.จ.นครสวรรค์ (ผ่านไม่ได้ 3 แห่ง) ทล.1 บ้านหว้า-วังไผ่ ช่วง กม.ที่ 339+600 ใต้สะพานเดชาติวงศ์ ระดับน้ำสูง 120 ซม., ทล.1072 ลาดยาว-เขาขนกัน ช่วง กม.ที่ 44+665 คอสะพานทรุดตัว ใช้ทางเลี่ยงเดินทางจาก อ.ลาดยาว, ทล.1072 กม.22+300 เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 3013 กม.42+900 เลี้ยวขวาเข้าสู่ ทล.11 ตากฟ้า-ไดตาล ช่วง กม.ที่ 68+725 น้ำกัดเซาะคอสะพาน เดินทางไป จ.พิจิตร ใช้ ทล.1145 แทน 13.จ.อุทัยธานี (ผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) ทล.3319 บันไดสามขั้น-ทัพทัน กม.ที่ 17+675-19+100 ระดับน้ำสูง 60 ซม., ทล. 3456 หนองกระดี่-คลองข่อย ช่วง กม.ที่ 3+604 สะพานโคกหม้อ ระดับน้ำสูง 70 ซม. ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่น และ 14. จ.ตาก (ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ทล.1175 ห้วยส้มป๋อย-เจดีย์ยุทธหัตถี ช่วง กม.ที่ 55+300 คันทางทรุดตัวใช้ทางเลี่ยง ทล.12 แทนเดินทางไป อ.บ้านตาก
ทั้งนี้สั่งหน่วยงานในสังกัดเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างทันท่วงที พร้อมติดตามข้อมูลปริมาณและทิศทางน้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชม. เพื่อตรวจสอบเส้นทางการสัญจรที่จะได้รับผลกระทบ รวมทั้งวางแผนการดำเนินงานและการบริหารจัดการ รวมทั้งการจัดหาเส้นทางเลี่ยง และประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนทราบล่วงหน้า เพื่อผู้ใช้เส้นทางสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัย รวมทั้งช่วยขนย้ายประชาชนและสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัย แจกจ่ายอาหารเครื่องอุปโภคบริโภค และช่วยล้างทำความสะอาดเก็บกวาดบ้านเรือนเพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ให้ประชาชนในพื้นที่น้ำลดตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม
นอกจากนี้ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางหลวงเดินทางด้วยความระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงเส้นทางที่คาดว่าจะเกิดความสุ่มเสี่ยง พร้อมขอให้ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด และหากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฯ ฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1