สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ว่านายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน แถลงเมื่อวันศุกร์ ว่ามาตรการควบคุมพรมแดนอย่างเข้มงวดขั้นสูงสุด ที่มีผลบังคับใช้ตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา หรือนับตั้งแต่เดือน มี.ค.ปีที่แล้ว เพื่อเฝ้าระวังและคัดกรองโรคโควิด-19 จะยุติตั้งแต่เดือน พ.ย.นี้ เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวและนักศึกษาต่างชาติให้กลับเข้าสู่ออสเตรเลียได้อีกครั้ง
ทั้งนี้ทั้งนั้น มอร์ริสันย้ำว่า ชาวต่างชาติทุกคนที่เดินทางเข้ามาในประเทศแล้ว ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการคัดกรองและกักตัวของแต่ละรัฐอย่างเคร่งครัด ซึ่งจะมีความเข้มงวดมากน้อยแตกต่างกันออกไปตามระดับการระบาดของโรคในแต่ละพื้นที่
ขณะเดียวกัน ผู้นำออสเตรเลียกล่าวถึงการที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศ "ยอมรับ" วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 "โคโรนาแวค" ของบริษัทซิโนแวค ไบโอเทค จากจีน "คือก้าวย่างสำคัญ" แม้ยังไม่ได้หมายความว่า วัคซีนดังกล่าวสามารถใช้งานในออสเตรเลียได้ แต่มีการวิเคราะห์ว่า คือหนึ่งในความพยายามของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งยังคงต้องพึ่งพิงนักท่องเที่ยวและนักศึกษาจากจีน โดยเฉพาะนักศึกษาชาวจีน ซึ่งมีสัดส่วนมากถึง 1 ใน 3 ของนักศึกษาต่างชาติทั้งหมดในออสเตรเลีย
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลแคนเบอร์รายังไม่มีท่าทีชัดเจนเกี่ยวกับการยอมรับวัคซีนของจีนอีกตัวหนึ่ง นั่นคือ ซิโนฟาร์ม แต่มอร์ริสันกล่าวว่า วัคซีนของแอสตราเซเนกา/ออกซฟอร์ด ที่ผลิตในอินเดียโดยมีชื่อทางการค้าว่า "โควิชิลด์" ได้รับการยอมรับเช่นกัน 

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES