ศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรังโอลด์แทรฟฟอร์ด ทำศึก “แดงเดือด” ต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ทีมคู่อริตัวฉกาจ โดยเกมนี้เป็น “ผีแดง” เจ้าถิ่น ที่ออกสตาร์ตได้ดี ขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะซ้ำจ่อ ๆ ของ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ในนาทีที่ 10
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น “หงส์แดง” เร่งเครื่องบุกหนักหลังตกเป็นรอง ก่อนมาได้ 2 ประตูรวดในช่วงท้ายครึ่งแรกจาก อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ ที่ยิงแฉลบ คอบบี ไมนู เข้าไปในนาทีที่ 44 ก่อนที่โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะซ้ำลูกยิงที่ อ็องเดร โอนานา ปัดมาเข้าทางตุงตาข่าย ในนาทีที่ 45+2 ช่วยให้ทีมแซงนำ 2-1 หลัะงจบครึ่งแรก
เข้าสู่ครึ่งหลัง “หงส์แดง” ยังเป็นฝ่ายครองเกมเหนือกว่า และทำท่าจะคว้าชัยได้ไม่ยาก แต่ถึงนาทีที่ 87 อันโตนี ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง พลิกยิงในกรอบเขตโทษตุงตาข่าย ช่วยให้ทีมตีเสมอเป็น 2-2 ก่อนจะจบ 90 นาทีด้วยสกอร์นี้ ต้องดวลกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ
เข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษ ถึงนาทีที่ 105 “หงส์แดง” ได้ประตูนำอีกครั้งเป็น 3-2 จากการยิงไกลของ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ แฉลบ คริสเตียน อีริคเซน ตุงตาข่าย แต่ “ผีแดง” ก็ยังไม่ยอมง่าย ๆ มาได้ประตูตีเสมอเป็น 3-3 ในนาทีที่ 112 จากการหลุดไปยิงของ มาร์คัส แรชฟอร์ด
เกมทำท่าจะจบด้วยผลเสมอต้องไปดวลจุดโทษ แต่ถึงนาทีที่ 120+1 อาหมัด ดิอัลโลยิงชนเสาตุงตาข่าย โดยที่เจ้าตัว โดนใบเหลืองที่ 2 กลายเป็นใบแดงจากการถอดเสื้อฉลองด้วย จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเฉือนสุดมัน 4-3 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ
เครดิตภาพ : Getty Images