เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่โรงเก็บเฮลิคอปเตอร์บน ร.ล.อ่างทอง ที่จอดทอดสมออยู่ใกล้จุดที่ ร.ล.สุโขทัย อับปาง พล.ร.อ.ชาติชาย ทองสะอาด ผบ.กร.ในฐานะ ผอ.กองอำนวยการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัย, พล.ร.ต.วิชชุ บำรุง ผบ.หมวดเรือค้นหาและปลดวัตถุอันตรายฯ, เรือตรีธงบุญ เพ็ญแก้ว หัวหน้าชุดประดาน้ำ และ Lt.William Rittenhouse ผบ.เฉพาะกิจชุดประดาน้ำผสม ได้มีการแถลงข่าวปิดการปฎิบัติการกู้เรือหลวงสุโขทัย
พล.ร.อ.ชาติชาย ทองสะอาด เปิดเผยว่า การปฎิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตราย ร.ล.สุโขทัย เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง ทร. และ ทร.สหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 22 ก.พ. ถึง 11 มี.ค.2567 รวมระยะเวลา 19 วัน โดยมี 4 ภารกิจ ดังนี้
- การค้นหาผู้สูญหายทั้ง 5 คนที่่อาจติดอยู่ภายในตัวเรือและบริเวณรอบตัวเรือในทุกห้องที่สามารถเข้าไปได้รวมทั้งห้องที่มีความเป็นไปได้ที่คนจะติดอยู่ แต่เนื่องจากความลึกของน้ำและข้อจำกัดในการเข้าถึงห้องต่างๆ ภายในตัวเรือในชั้นที่ต่ำกว่าดาดฟ้าหลัก รวมทั้งความเสี่ยงในระดับสูงต่อนักดำน้ำทำให้เราไม่สามารถเข้าไปได้ทุกห้องโดยห้องที่เราเข้าไปค้นหา ได้แก่ สะพานเดินเรือ ห้องศูนย์ยุทธการ ห้องผู้บังคับการเรือ ห้องวิทยุ ห้องโถงนายทหาร ห้องเมสพันจ่า ห้องเมสจ่า ห้องเครื่องจักรใหญ่ ห้องพลาธิการ ห้องเรดาห์ 2 ห้องเก็บแผนที่ และช่องทางเดินซึ่งผลการค้นหาไม่พบผู้สูญหาย
- การตรวจสอบวัตถุพยานที่ตัวเรือเพื่อประกอบการสอบสวนข้อเท็จจริง ถึงสาเหตุอับปางของ ร.ล.สุโขทัย ซึ่งได้ทำการสำรวจจุดต่างๆ ที่สันนิษฐานว่าเป็นจุดที่น้ำเข้าเรือโดยได้บันทึกทั้งภาพถ่ายและวีดีโอได้แก่บริเวณแผ่นกันคลื่นหน้าป้อมปืน 76/62 มม. ป้อมปืน 76/62 มม. ฝา Hatch ลงห้องกระชับหัวเรือ ฝา Hatch ทางลงห้อง Gun Bay ประตูผนึกน้ำรอบตัวเรือ รอยทะลุทางกราบซ้าย 2 รอย สำรวจรอบตัวเรือเพื่อหารอยทะลุอื่นๆ การปิด/เปิดประตูผนึกน้ำภายในตัวเรือ สภาพแท่นแพชูชีพ ป้อมปืน 40/70 มม. นอกจากนั้นยังได้เก็บวัตถุพยานอื่นได้แก่ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เครื่อง DVR เสื้อชูชีพ 1 ตัว คอมพิวเตอร์ Laptop 1 เครื่อง และสมุดจดคำสั่งการนำเรือ 1 เล่ม ซึ่งได้หลักฐานครบถ้วนตามที่ คกก.สอบสวนฯ ข้อเท็จจริงต้องการโดยไม่ต้องนำเรือขึ้นมาทั้งลำ
- การปลดวัตถุอันตรายและการทำให้ยุทโธปกรณ์หมดขีดความสามารถ จำนวน 3 รายการ ได้แก่ อาวุธปล่อยนำวิถีฮาร์พูน ตอร์ปิโดMK309 และเครื่องมือสื่อสาร นอกจากนี้ยังได้นำอาวุธของ ทร. ขึ้นจากเรือได้แก่ ปืนกล 20 มม. ปลย.เอ็ม16 และ ปฃย.แบบ88
- การนำสิ่งของมีคุณค่าทางจิตใจของ รล.สุโขทัยขึ้นมาเพื่อเตรียมจัดทำอนุสรณ์สถาน ได้แก่ ป้ายชื่อเรือสุโขทัย พญาครุฑประจำเรือ พระพุทธรูปประจำเรือ พระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ แผ่นนูนรูปเสด็จเตี่ย ระฆังเรือ ธงราชนาวีผืนใหญ่ เสากระโดงเรือ สมอเรือ ป้ายขึ้นระวางประจำการเรือ และป้ายทำเนียบผู้บังคับการเรือหลวงสุโขทัย
ในห้วง 19 วันมีการดำน้ำทั้งสิ้น 83 เที่ยว รวมระยะเวลาดำน้ำ 65 ชั่วโมง 15 นาที กำลังพลทุกนายปลอดภัยดี สำหรับ ร.ล.สุโขทัย อยู่ในสภาพไม่มีผลกระทบต่อการเดินเรือหลังจากที่ได้ทำการตัดเสากระโดงเรือความสูง 4.5 เมตรออกอีกส่งผลให้มีความปลอดภัยในการเดินเรือเพิ่มขึ้น จากเดิมส่วนที่สูงที่สุดของเรือถึงผิวน้ำ ระยะ 27 เมตร เพิ่มระยะเป็น 31.5 เมตร ไม่มีวัตถุและสิ่งที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีวัตถุอันตรายที่มีผลกระทบต่อและสิ่งมีชีวิตในทะเล
หลังจากนี้จะนำสิ่งของที่เก็บกู้ได้ส่งหน่วยงานที่รับผิดชอบทำการตรวจสอบและดำเนินการตามขั้นตอนระเบียบต่อไป ซึ่งทางเรือ Ocean Valor จะนำสิ่งของทั้งหมดไปส่งที่ท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบในวันพรุ่งนี้ (12 มี.ค.) และในส่วนของ คกก.สอบสวนข้อเท็จจริงจะสรุปผลการสอบฯ จากข้อมูล พยาน และวัตถุที่เก็บกู้ได้ในครั้งนี้และจะทำการแถลงข่าวต่อไป นอกจากนี้จะได้มีการจัดสร้างอนุสรณ์สถาน ร.ล.สุโขทัย โดยใช้ชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ถอดถอนจากเรือในครั้งนี้เพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญและความเสียสละของกำลังพลที่เสียชีวิตและสูญหายต่อไป พล.ร.อ.ชาติชาย กล่าว
ด้าน Lt.William Rittenhouse ผบ.ภารกิจปฎิบัติการร่วม เปิดเผยว่า ทีมนักดำน้ำไทย-สหรัฐได้ดำเนินการทั้ง 4 ส่วนของภารกิจ ซึ่งอุปกรณ์ต่างๆ ขนมาจากรัฐฮาวายเพื่อมาร่วมภารกิจนี้ โดยมีการฝึกร่วมกับทีมดำน้ำไทย 2 วันก่อนเริ่มปฎิบัติการ ซึ่งทีมนักดำน้ำได้ปฎิบัติงานร่วมงานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทางทีมดำน้ำผสมได้มีการค้นหาผู้สูญหายร่วมกันอย่างสุดความสามารถ ซึ่ง ณ ปัจจุบันสภาพเรือหลวงสุโขทัย อยู่ในสภาพที่ไม่เป็นอันตรายใดๆ คิดว่าหลังจากนี้คงจะไม่มีการทำอะไรกับ ร.ล.สุโขทัยอีก