ในฐานะหัวหน้าแก๊ง “จี9” บาร์บีคิว วัย 46 ปี กลายเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน สำหรับความวุ่นวายและความรุนแรง ที่ปกคลุมเฮติ ประเทศซึ่งกำลังจมดิ่งกับปัญหาทางการเมือง และมนุษยธรรม

กลุ่มติดอาวุธในเฮติผนึกกำลังเฉพาะกิจ ร่วมกันกองต่อต้านรัฐบาล โดยมีการก่อเหตุโจมตีสนามบิน, โรงเรียนตำรวจ และเรือนจำหลายแห่ง ซึ่งทำให้นักโทษหลายพันคนสามารถหลบหนีไปได้

“มันไม่มีทางเลยที่คนรวยกลุ่มเล็ก ๆ ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านที่โอ่อ่า จะมาตัดสินชะตากรรมของคน ที่ใช้ชีวิตในชนชั้นแรงงานละแวกใกล้เคียง” บาร์บีคิวกล่าว “พวกเราทุกคนต้องรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ไม่ว่าเฮติจะกลายเป็นสวรรค์สำหรับเราทุกคน หรือกลายเป็นนรกสำหรับเราทุกคนก็ตาม”

FRANCE 24 English

ขณะเดียวกัน บาร์บีคิวเตือนว่า เฮติจะเกิดสงครามกลางเมือง หากนายอาเรียล อ็องรี นายกรัฐมนตรี ซึ่งตอนนี้ปฏิบัติหน้าที่รักษาการ ไม่ยอมลาออกจากตำแหน่ง

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บาร์บีคิว กลายเป็นจุดสนใจของสังคม ย้อนกลับไปเมื่อปี 2565 เขาเป็นคนสั่งและดำเนินการปิดกั้นทางเข้าคลังน้ำมันหลักของเฮติ เป็นเวลานานหลายสัปดาห์ ส่งผลให้การจ่ายน้ำมันเบนซินหยุดชะงัก

เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การเรียกร้องจากหลายฝ่าย ให้นานาชาติเข้าแทรกแซง เพื่อช่วยเหลือตำรวจเฮติ ฟื้นฟูความสงบในประเทศ ทว่ากองกำลังที่รัฐบาลเฮติรอคอยมานานก็ยังไม่มาถึง ท่ามกลางการถกเถียงทางกฎหมาย

อิทธิพลของบาร์บีคิว ทำให้เขาอยู่ในรายชื่อลำดับต้น ของการคว่ำบาตรรอบใหม่โดยสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เมื่อปี 2565 ซึ่งมุ่งเป้าไปยังกลุ่มติดอาวุธในเฮติ โดยมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าว มีทั้งการห้ามการเดินทาง การอายัดทรัพย์สิน และการระงับการค้าขายอาวุธ

ทั้งนี้ สมาชิกแก๊ง จี9 มากกว่า 1,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอดีตตำรวจ, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเด็กเร่ร่อน ต่างถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุฆาตกรรม, โจรกรรม, กรรโชกทรัพย์, ข่มขืน, ลอบสังหารแบบกำหนดเป้าหมาย, ค้ายาเสพติด และลักพาตัว

นอกจากนี้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการคว่ำบาตรของยูเอ็น ยังเน้นย้ำถึงความเกี่ยวข้องของบาร์บีคิว ในการสังหารหมู่ซาลีน เมื่อปี 2561 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 71 ราย ภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน โดยทางการเฮติ อาศัยอิทธิพลของแก๊งอาชญากรรม เพื่อปิดปากข้อเรียกร้องของกลุ่มชนชั้นแรงงานอีกที กระนั้น บาร์บีคิว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาที่มีต่อตัวเอง.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : AFP