นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. ได้เห็นชอบการปรับโครงสร้างอัตราภาษีสรรพสามิตบุหรี่ใหม่ไปแล้ว โดยจะเริ่มมีผลใช้ทันทีในวันที่ 1 ต.ค.64 นี้ ส่วนจะเพิ่มเป็นอัตราใดนั้นขอให้มีการรอประกาศแน่ชัดไม่เกิน 1 – 2 วันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงสร้างภาษีใหม่บุหรี่ใหม่จะมีการปรับขึ้นทั้งในด้านปริมาณและมูลค่า โดยภาษีด้านปริมาณจะเพิ่มจากมวนละ 1.20 บาท หรือซองละ 24 บาท เพิ่มเป็นมวนละ 1.25 บาท หรือเสียภาษีซองละ 25 บาท ส่วนภาษีด้านมูลค่า ได้ขยับทั้งอัตราภาษีและฐานราคาขายปลีกใหม่  ซึ่งเดิมบุหรี่ราคาขายปลีกไม่เกินซอง 60 บาท จะเสียภาษี  20% ปรับเพิ่มเป็นบุหรี่ขายปลีกไม่เกินซอง 72 บาท เสียภาษีเพิ่มเป็น 25% ส่วนบุหรี่ที่มีราคาขายปลีกเกินซอง 72 บาท จะเสียภาษีเพิ่มจาก 40% เป็น 42%  

ทั้งนี้ อัตราภาษีสรรพสามิตบุหรี่ใหม่จะมีผลให้ราคาบุหรี่ในท้องตลาดปรับเพิ่มขึ้นด้วย โดยจากการคำนวณเบื้องต้น หากมีการจัดเก็บภาษีอัตราใหม่จะทำให้บุหรี่ขายปลีกที่มีราคาซอง  55 บาท อาจเพิ่มขึ้นเป็น 64 บาท ส่วนบุหรี่ซอง 60 บาท จะมีโอกาสปรับขึ้นสูงสุดได้ถึง 70-72 บาท ส่วนกลุ่มบุหรี่กลุ่มราคาสูงที่ได้รับความนิยม เช่น ซอง 95 บาท อาจขึ้นเป็น 110-115 บาท โดยรายละเอียดทั้งหมดจะประกาศลงราชกิจจานุเบกษาวันที่ 30 ก.ย.64  เพื่อให้มีผลบังคับเริ่ม 1 ต.ค.64 เป็นต้นไป

“การขึ้นภาษีดังกล่าวถือเป็นการขึ้นสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และคาดว่าจะทำให้บุหรี่ขายได้ลดลงกว่าเดิม เพราะอยู่ในช่วงเศรษฐกิจและกำลังซื้อไม่ดี โดยหลังจากนี้ผู้ผลิตบุหรี่ทั้งในและต่างประเทศ จะมีการวางแผนทำตลาดและกำหนดราคาอีกครั้ง โดยอาจจะขึ้นราคาบางชนิดเพื่อรักษากำไร รวมถึงอาจยอมขายราคาเท่าเดิม และมีกำไรลดลง เพื่อรักษาส่วนแบ่งของตลาดไว้”