สิ่งที่ผู้ชายควรรู้ ในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ท่านได้สูญเสียการมีเพศสัมพันธ์ในห้องนอนเมื่อเร็ว ๆ นี้หรือไม่? น่าจะมีสาเหตุจากสิ่งใดสิ่งหนึ่งแทนที่จะเป็นไวรัสที่ต้องโทษ : ใช่ไวรัสโควิด-19 หรือไม่

ในขณะที่ผู้ป่วยโควิดมีอาการสูญเสียการรับกลิ่นและรับรสชาติ มีความเหนื่อยล้าและการหายใจลำบาก เป็นผลข้างเคียงของไวรัสโควิด-19 ต่อระบบทางเดินหายใจ ในขณะที่โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เป็นสาเหตุหนึ่งที่กระทบกับผู้ชาย

นักวิจัย แพทย์ทั่วไป และศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะที่สถาบันการแพทย์แห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา (Banner Health, Mesa, AZ, USA) ได้เขียนบทความนี้ และรายงานว่ามีความเชื่อมโยงระหว่างไวรัสโควิดกับโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ในความเป็นจริง ทางเวชปฏิบัติของแพทย์พบว่ามีผู้ป่วยรายใหม่ซึ่งมีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ชายอายุระหว่าง 40 และ 50 ปี พบว่ามีความผิดปกติทางเพศสัมพันธ์

ไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดการตอบสนองต่อการอักเสบที่รุนแรงมากทั่วร่างกายของเรา ตั้งแต่หัวใจไปจนถึงสมอง จึงไม่น่าแปลกใจที่ความผิดปกติทางเพศจะเชื่อมโยงกันได้ นักวิจัยยังคงเรียนรู้เพิ่มเติมต่อผลกระทบทางเพศระยะยาวของโควิด -19 คืออะไร แต่ในฐานะศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะค่อนข้างรู้สึกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการเพิ่มสูงขึ้นมากของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศหลังการหายจากโรคโควิด-19

ความเชื่อมโยงระหว่างโควิด-19 กับภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หากท่านเพิ่งติดเชื้อโควิด-19 และกำลังประสบปัญหาสมรรถภาพทางเพศ แพทย์ระบุว่าโควิด-19 อาจส่งผลต่อความต้องการทางเพศของท่านได้จากกลไกต่อไปนี้

1. หลอดเลือดในองคชาตถูกทำลายเสียหาย หลอดเลือดซึ่งส่งเลือดไปยังอวัยวะสืบพันธุ์และช่วยในการแข็งตัวขององคชาตซึ่งเป็นหลอดเลือดที่เล็กที่สุดและเปราะบางที่สุด ไวรัสโควิด-19 สามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรงมากในร่างกายของผู้ชายบางคน ซึ่งอาจทำให้ลิ่มเลือดเล็ก ๆ ก่อตัวขึ้นได้เช่นเดียวกับการอักเสบในเยื่อบุของหลอดเลือด ปริมาณเลือดไปเลี้ยงองคชาตอาจอุดตันหรือแคบลง ทำให้องคชาตของผู้ป่วยโควิด-19 แข็งตัวได้ยากขึ้น

2. เซลล์ในลูกอัณฑะถูกทำลายเสียหาย ไวรัสโควิด-19 อาจส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรนซึ่งมีความสำคัญต่อ
การแข็งตัวของอวัยวะเพศ ผลการศึกษาล่าสุดชี้ว่าไวรัสโควิด-19 อาจทำให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนและภาวะเจริญพันธุ์ในเพศชายลดลง.

————————————
ศ.น.ท.ดร.นพ.สมพล เพิ่มพงศ์โกศล