นายกฤษณ์ เถี่ยนมิตรภาพ รองนายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ว่าที่ ร.ต.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา ได้สั่งการให้ คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา เขต 4 นำคนงานจากกองช่างเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา กว่า 10 คน ลงพื้นที่สร้างสะพานไม้เดินทางเท้าสูง 1.50 เมตร ระยะทางยาวกว่า 50 เมตร ภายในชุมชนหัวแหลม หมู่ 4 ต.ท่าวาสุกรี หลังจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาได้ไหลเข้าท่วมบริเวณชุมชน 117 ครัวเรือน พื้นที่บ้านเรือนที่ปลูกสร้างติดริมแม่น้ำและคลองเมืองน้ำได้ไหลเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือน โดยระดับน้ำมีความสูงถึงเอว ชาวบ้านต้องใช้เรือพายเป็นพาหนะในการเดินทางเข้า-ออกชุมชน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนดังกล่าวทางเทศบาลจึงได้เร่งสร้างสะพานให้แล้วเสร็จ พร้อมให้การช่วยเหลือในด้านต่างๆ

ด้าน นายธนากร ตันติกุล ผอ.โครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 27-28 ก.ย.นี้ ร่องมรสุมจะเลื่อนลงพาดผ่านภาคกลางตอนล่างและภาคใต้ตอนบน ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อาจส่งผลให้มีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบัน บริเวณ ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ ต.บ้านกระทุ่ม ต.หัวเวียง ต.บ้านแพน อ.เสนา ต.บ้านคลัง ต.บางชะนี ต.วัดยม ต.มหาพราหมณ์ ต.ไทรน้อย ต.กบเจา ต.สะพานไทย ต.บางหัก ต.บางหลวงโดด ต.บางหลวง ต.ท่าช้าง ต.วัดตะกู ต.น้ำเต้า ต.บางบาล ต.บ้านแป้ง ต.กระแชง ต.บางไทร ทำให้ระดับเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมอีก 0.90 เมตร ในช่วง 2-3 วันนี้ดังนั้นเพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำจึงแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น งานก่อสร้าง เขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาให้ยกของขึ้นบนที่สูงนอกจากนี้ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ดูแลพระตำหนักสิริยาลัยและอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา หากมีการปรับการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา มากกว่า 2,400 ลบ.ม.ต่อวินาที โครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยาจะแจ้งให้ทราบต่อไป