การเอาชนะการประกวดประขันสักครั้งอาจไม่ใช่เรื่องยาก แต่การจะรักษามาตรฐานไว้เพื่อให้ได้รับรางวัลอย่างต่อเนื่องเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป แต่แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติอย่าง “อุทยานหลวงราชพฤกษ์” ไม่เพียงทำได้แต่ยังทำได้ดีมาเสมอด้วย
รางวัลที่ว่าคือ “รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย” (Thailand Tourism Awards) ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดขึ้นทุก 2 ปี เพื่อมอบรางวัลให้กับผู้ประกอบการเป็นการรับรองคุณภาพสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว ที่มีมาตรฐานการท่องเที่ยว
อย่างยั่งยืน รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (Responsible Tourism) ทั้งยังเป็นการยกระดับและพัฒนาการท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐาน เกิด “การท่องเที่ยวสีขาว” ที่มีทั้งความสะดวก สะอาด ปลอดภัย เป็นธรรม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าของสินค้าทางการท่องเที่ยวไทยสู่ระดับสากล ผลงานที่ได้รับรางวัล Thailand Tourism Gold Award 3 ครั้งติดต่อกัน โดยไม่จำเป็นต้องได้รับรางวัลประเภทเดียวกัน จะได้รับรางวัล “Hall of Fame”
สวนไม้ดอกไม้ประดับขนาดมหึมาพื้นที่กว่า 500 ไร่แห่งนี้ มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่บางส่วน และคงพื้นที่บางส่วนไว้อย่างโซนสวนนานาชาติที่มีสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละชาติที่เข้าร่วมงานในครั้งนั้น เช่นเดียวกับแลนด์มาร์กอย่าง “หอคำหลวง” ทั้งยังคงตั้งตระหง่านและทำหน้าที่เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงพระอัจฉริยภาพด้านการเกษตร ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรที่ทรงเป็นกษัตริย์นักการเกษตรเอกของโลก
ขณะที่พื้นที่บริเวณด้านนอกโดยรอบ เป็นห้องเรียนธรรมชาติขนาดใหญ่ที่มีการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามฤดูกาล เพื่อมอบประสบการณ์ผ่านพรรณไม้นานาชนิดและกิจกรรมต่าง ๆ อย่างในช่วงนี้ “ดอกฝ้ายคำ” หรือ ดอกสุพรรณิการ์ ที่มีถิ่นกำเนิดจากทวีปอเมริกาใต้สีเหลืองสดใสกำลังเบ่งบานเต็มที่ พิกัดอยู่ที่โซนสวนชวนชม ใกล้กับสวนบอนไซ
แต่หากต้องการหาจุดเช็กอิน ถ่ายรูปทุ่งดอกไม้สวย ๆ ห้ามพลาด “ทุ่งดอกผีเสื้อ” พรรณไม้ล้มลุกขนาดเล็กจากยุโรปตอนใต้ ที่กำลังออกดอกบานสวย สีสันสดใส พิกัดอยู่ที่สวนพรมบุปผา สำหรับแฟนคลับกุหลาบ ช่วงนี้ดอกกุหลาบกว่า 220 สายพันธุ์กำลังแข่งกันบานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมเย้ายวนใจ โดยมีจุดจัดแสดงดอกกุหลาบอยู่หลายแห่ง ทั้งที่โดมกุหลาบ สวนนานาชาติประเทศโมร็อกโก สวนข้างโรงแรมราชพฤกษ์เพลซและแปลงรวบรวมสายพันธุ์กุหลาบ แถว Sky Walk พิเศษช่วงนี้กำลังมีการจัดเทศกาลชมสวน 2566 “แอ่วสุขใจ..I wanna be(e)” จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยช่วงวันเสาร์-อาทิตย์มีตลาดนัดของเกษตรกรบนที่สูงที่ขนผลผลิตทั้งผักและผลไม้มาจำหน่ายให้ผู้บริโภคโดยตรง พิกัดอยู่ที่อาคารตลาดนัดชาวดอยติดลานจอดรถ P4 อุทยานหลวงราชพฤกษ์
สายธรรมชาติชื่นชอบดอกไม้พรรณไม้หากยังไม่สะใจ แนะนำให้ไปเช็กอินต่อที่ “สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์” แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอีกแห่งของเชียงใหม่ โดยไฮไลต์ที่ใครต้องไปเดินชมอยู่ที่ “Canopy Walkway” เส้นทางศึกษาธรรมชาติเหนือเรือนยอดไม้ ที่อาจจะได้ตื่นเต้นในบางช่วงเพราะความสูง แต่รับรองได้ว่าปลอดภัยเพราะทำจากเหล็กกล้าทั้งยังมีรั้วกั้นตลอดเส้นทาง เรียนรู้เรื่องราวของต้นไม้จากเรือนยอดที่เดินผ่านจากป้ายสื่อความหมายไปตามระยะทางยาวกว่า 500 เมตร แถมด้วยหมอกจาง ๆ ในช่วงปลายฝนต้นหนาว
ต่อด้วย “กลุ่มอาคารเรือนกระจกเฉลิมพระเกียรติ” (Glasshouse Complex) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวบรวมและจัดแสดงพรรณไม้ที่มีความโดดเด่น พรรณไม้หายากและใกล้สูญพันธุ์ จากหลากหลายระบบนิเวศ จัดแสดงไว้ในโรงเรือนให้คล้ายคลึงกับลักษณะที่พืชขึ้นอยู่ตามธรรมชาติทั้งเรือนป่าดิบชื้น เรือนไม้นํ้า เรือนกล้วยไม้และเฟิน เรือนพืชทนแล้ง เรือนพืชกินแมลง เรือนพืชสมุนไพร เรือนสับปะรดสี แล้วอย่าลืมวนออกมาด้านนอกชมนาฬิกาดอกไม้เรืองแสงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เส้นผ่านศูนย์กลาง 8 เมตร มีการปลูกไม้ดอกไม้ประดับสีสันสดใสตามฤดูกาลไว้ภายในหน้าปัดของนาฬิกา ถัดขึ้นไปอีกนิดคือ “Rose Garden” สวนแห่งรัก สัมผัสกับกลิ่นหอมและเสน่ห์ของกุหลาบ 50 สายพันธุ์
มาเส้นทางแม่ริมแล้วแนะนำให้แวะเที่ยวต่อที่ “อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร” ที่อยู่ทางเดียวกัน ซึ่งเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 14 ประจำปี 2566 ชมนิทรรศการดาราศาสตร์ผ่านอุปกรณ์และวิดีโอแนะนำวิธีการ และไฮไลต์ “อาคารท้องฟ้าจําลอง” เปิดประสบการณ์ดูดาวกับความละเอียด 8K ผ่านจอทรงกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 17 เมตร ฟังบรรยายเกี่ยวกับการดูดาวเบื้องต้นจากกลุ่มดาวบนท้องฟ้า และการฉาย ภาพยนตร์ดาราศาสตร์ในรูปแบบฟูลโดม โดยจะต้องลงทะเบียนเพื่อเลือกรอบที่จะเข้าชมล่วงหน้าที่ https://ebooking.narit.or.th/ ระบบจะปิดก่อนรอบฉาย 1 ชั่วโมง
และทุกคืนวันเสาร์มีกิจกรรม NARIT Public Night พาชมดาวยามคํ่าคืน ไปช่วงนี้นอกจากจะได้ชมผ่านกล้องโทรทรรศน์วิทยุแห่งชาติ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 เมตร ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นกล้องโทรทรรศน์วิทยุแห่งแรกในโลกที่ตั้งอยู่บริเวณแถบเส้นศูนย์สูตรแล้ว ยังจะได้สัมผัสกับกล้องโทรทรรศน์วิทยุแบบวีกอส (VGOS) ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 13 เมตร ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหอดูดาวเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Astronomical Observatory: SHAO) สาธารณรัฐประชาชนจีนที่เพิ่งติดตั้งเสร็จเรียบร้อยด้วย อุทยานดาราศาสตร์สิรินธรเปิดให้เข้าชมทุกวันอังคาร-อาทิตย์
เปลี่ยนบรรยากาศจากดูดาวมาเป็นแนวศิลปวัฒนธรรมกับ “พิพิธภัณฑ์เรือนโบราณล้านนา” สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและล้านนาสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ได้รับรางวัล Thailand Tourism Awards 2023 เช่นกัน ชมพิพิธภัณฑ์เรือนโบราณล้านนารวมเรือนโบราณล้านนา 10 หลัง และหลองข้าว 4 หลัง มาอนุรักษ์และจัดแสดงไว้เพื่อการศึกษาด้านวัฒนธรรมสถาปัตยกรรมล้านนา การแสดงวิถีชีวิตล้านนา และเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมศิลปวัฒนธรรม
มีตั้งแต่ เรือนเครื่องผูก ที่สร้างขึ้นด้วยไม้ไผ่ เรือนชาวเวียงเชียงใหม่ (พญาปงลังกา) ตั้งตามชื่อของผู้เป็นต้นตระกูล สร้างจากไม้เนื้อแข็งทั้งหลัง มุงหลังคาด้วยดินขอ มีขนาดใหญ่ปานกลาง ถือเป็นเรือนของผู้มีฐานะ เรือนกาแล (พญาวงศ์) เรือนไม้ใต้ถุนสูง มุงด้วยดินขอ หลังคาทรงจั่วแฝด หรือสองหลังร่วมพื้น ยอดจั่วมีกาแล เรือนกาแล (อุ๊ยผัด) เรือนกาแลขนาดเล็กยกพื้นสูง ทำด้วยไม้ทั้งหลัง หลังคามุงด้วยแป้นเกล็ดหรือกระเบื้องไม้ เป็นต้น
ก่อนกลับจากเชียงใหม่ไปผ่อนคลายกับ “ศิรา สปา” แหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ได้รับรางวัล Hall of Fame จาก Thailand Tourism Awards 2023 ทั้งยังได้รับรางวัลระดับประเทศและต่างประเทศอีกมากมาย สัมผัสประสบการณ์สปา อันหรูหราสไตล์ล้านนาโคโลเนียล เดย์สปาใหญ่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ถ่ายทอดเรื่องราวของความรุ่งเรืองของยุคสมัยล้านนาตอนปลาย สู่บรรยากาศสปาอันแสนสงบ ปรนนิบัติด้วยวิถีการนวดไทยล้านนาที่ถูกถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น มีบริการแช่นํ้าแร่ อาบแช่สมุนไพร ที่ยกมาไว้กลางใจเมือง และมีบริการสปาที่ไม่เหมือนที่ใด ๆ เช่น “นวดฟ้อนเล็บ” ที่มีแรงบันดาลใจมาจากยุคสมัย พระราชชายาเจ้าดารารัศมี มาสู่ท่านวดด้วย
“งูกินนิ้ว” ใช้การดัด ยืด ดึง เพื่อช่วยแก้ปัญหาอาการนิ้วล็อก และท่าทางการร่ายรำที่ถูกนำมาประยุกต์ใช้เป็นท่าตรวจสอบความสมดุลร่างกายของผู้ถูกนวด
มาเชียงใหม่ช่วงนี้นอกจากเส้นทาง “รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย” แล้ว ระหว่างวันที่ 10-11 กุมภาพันธ์ 2567 ททท. สำนักงานเชียงใหม่ ร่วมกับเทศบาลนครเชียงใหม่จัดงาน “เทศกาลไชน่าทาวน์เมืองเชียงใหม่ ประจำปี 2567” (Chiang Mai China Town Festival 2024) พบกับขบวนแห่เทศกาลไชน่าทาวน์เชียงใหม่ การแสดงสิงโตและมังกรทอง รวมถึงการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย-จีนอีกมากมาย และจุดเช็กอินสะพานดอกเหมย ซุ้มโคมมงคล ซุ้มมังกรลอดเมฆา พลาดไม่ได้กับบูธกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของ ททท.สำนักงานเชียงใหม่ รับส้มมงคลและของที่ระลึก ณ บริเวณย่านตรอกเล่าโจ้ว ถนนวิชยานนท์ และถนนช้างม่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ททท.สำนักงานเชียงใหม่ โทร. 0-5324-8604 หรือติดตามที่แฟนเพจ : ททท.สำนักงานเชียงใหม่-TAT Chiang Mai
