หลัง พบปัญหา วัวไม่ตรงปก @สำหรับ “รัฐบาลนิดหนึ่ง” วันนี้สิ่งที่คนในประเทศให้ความสนใจ คือเรื่องของการแก้ปัญหา”วิกฤติเศรษฐกิจ”และ”วิกฤติพลังงาน” ซึ่งทั้ง”สองวิกฤติ” เป็นเรื่องที่”ควบคู่กัน” แม้ว่าในการบริหารประเทศ” เพื่อไทย” โดย”เศรษฐา ทวีสิน” ผู้เป็น”นายกรัฐมนตรี” และเป็น”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง” ในขณะที่”พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค” หัวหน้าพรรครวมไทยชาติชาติ ทำหน้าที่เป็น”รองนายกรัฐมนตรี” และ”รัฐมนตรีกระทรงพลังงาน” แต่ทั้ง สองฝ่าย สองตำแหน่ง ต้องร่วมมือกันในการ”ฟันฝ่า” เพื่อ”หาทางออก” ทั้งในเรื่อง”วิกฤติเศรษฐกิจ” และ”วิกฤติพลังงาน” เพื่อนำประเทศให้พ้นจาก”หลุมดำ” ทาง”เศรษฐกิจ”…..วันนี้เรื่อง”โครงการเงินดิจิตัล” หรือการ”กู้เงิน” แล้วเอามา”แจกประชาชน” ที่อายุตั้งแต่ 16 ปี ขึ้นไป  ไม่ใช่แค่”ทำท่า”ว่าทำไม่ได้  แต่”เห็นชัด”ว่า”ไม่เวิร์ค” แน่นอน เพราะมีการ”ปรับเปลี่ยน” วิธีการไปแล้วมากมาย จาก”แจกทุกคน” กลายเป็น”แจกเฉพาะกลุ่ม” จาก”ไม่กู้” กลายเป็นต้องออก”พรบ.เงินกู้” ที่ “ประชาชน”ต้อง”เป็นหนี้ทั้งแผ่นดิน” และในเรื่องของ”ข้อกฎหมาย” แม้ว่า”เพื่อไทย” จะทำการ”ตีความ” เนื้อหาของการสอบถาม” หน่วยงานต่างๆ” แล้วสรุปว่า”ทำได้” แต่ถ้า “ทะเร่อทะร่า” เดินหน้าต่อไปอาจจะมี”คุกรออยู่ข้างหน้า” และวันนี้”ข่าววงใน”มีการ”กระเซ็นกระสาย” ว่า “พรรคร่วมรัฐบาล” กำลัง”คิดหนัก” ว่าจะ” เอาด้วย”หรือจะ”เข้าเกียร์ถอย” ดีกว่า สรุปว่า “ดิจิตัลวอลเล็ต” มีโอกาสที่”แท้ง”ก่อน”คลอด” สูงมาก…..

@ดังนั้น”เพื่อไทย”ต้องไม่”วิตกกังวล” เรื่อง”เสียหน้า” และ”เสียฐานคะแนนเสียง” ของประชาชนที่รอ”เงินแจก” เพราะพวกเขารอ”จนเงิบ” และ”ทำใจ” ได้แล้วบางส่วน “เพื่อไทย” และ” นายกนิด” รวมทั้ง”เจ้าของพรรค” ต้องคิดถึง”แผนสอง” ที่จะใช้ในการ”กู้วิกฤติเศรษฐกิจ” ว่าจะ ดำเนินการอย่างไร ในการที่จะ”กระตุ้นเศรษฐกิจ” ของประเทศให้พ้นจาก”หลุมดำ” อย่าไปห่วงเรื่อง”ฐานคะแนนเสียง” ที่ไม่พอในใจในการไม่ได้รับ”แจกเงิน 10,000 บาท เพราะเวลาที่เหลืออยู่อีก 3 ปีครึ่ง ของ”รัฐบาล” ถ้ามี”ฝีมือ” และ”มี”นโยบาย” ในการ”กอบกู้เศรษฐกิจ” ได้จริง “คะแนนเสียง” ก็จะกลับมาเอง เพราะการอยู่ดีกินดี” ของ”คนในชาติ” ไม่ได้เกิดจากการ”แจกเงินคนละ 10,000 บาท เพียงอย่างเดียว แน่นอน…..

@เช่นเดียวกับ”วิกฤติพลังงาน” ซึ่งมองเห็นนะ ว่า”เสนาบดีกระทรวงพลังงาน” อย่าง” พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค” มีความ”ตั้งใจสูง” แต่”ขอโทษเถอะ” ที่ผ่านมา 4  เดือน ยังไม่เห็นการ”ผ่าตัด” โครงสร้างของ”พลังงาน” ที่เรียกว่าเป็นการแก้ที่”ถูกวิธี” แต่ที่ทำมาทั้งหมด เป็นเพียงการ”บรรเทาความเดือดร้อน” ให้กับประชาชน โดยการ”ลดภาษี” ที่”จัดเก็บ” ซึ่งเป็น”รายได้ของประเทศ” เพื่อ”ตรึงราคาพลังงาน” อย่าให้”แพงเกินไป” เท่านั้น นี่เรียกว่าเป็นการ”แก้ปัญหาเฉพาะหน้า” หรือการ”แก้ผ้าเอาหน้ารอด” จาก”วิกฤติพลังงาน” เวลานับแต่นี้ไป” เสนาบดีกระทรวงพลังงาน” และ”คณะที่ปรึกษา” ต้อง”กล้า” ในการ”รื้อโครงสร้าง”ของ”พลังงาน” เพื่อการแก้ปัญหา”พลังงานแพง” ให้”ถูกทิศถูกทาง” ประเทศไทยเราติดอยู่ใน”กับดัก” นี้มานาน โดยปล่อยให้”กลุ่มทุนพลังงาน” ร่ำรวยมีผลกำไร”มหาศาล” ในแต่ละปีจน”พุงปลิ้น” ทุกค่ายทุกแบร์นด”ในขณะที่”ประชาชน” ต่าง”ผอมโซพุงแห้งจนติดกระดูกสันหลัง”…..

@อีกเรื่องที่”ประชาชน”ทุก”ภูมิภาค” ถามไถ่ทุกวันคือเรื่อง”ซอฟพาวเวอร์” ว่ามันคืออะไร”เป็นจั่งได๋” เพราะสิ่งที่ได้ยิน ได้ฟัง ทุกอย่างที่มีอยู่ ใน ประเทศถูกหยิบยกให้เป็น”ซอฟพาวเวอร์” ไปหมดแล้ว เชื่อไหม วันนี้คำว่า”ซอฟพาวเวอร์” จึงกลายเป็นสิ่ง”ธรรมดา” ที่ไม่สามารถ”กระตุ้น” ความสนใจ หรือ”กระตุ้น” ความยากของคนทั้งประเทศ “ซอฟพาวเวอร์” จึง”ไม่ปัง” อย่างที่”เพื่อไทย” ต้องการและกลายเป็น”กระสุนด้าน” อย่างน่าเสียดาย และแทนที่”โครงการซอฟพาวเวอร์” จะเป็นเหมือน”พลุ” เพื่อส่ง” อุ๋งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าพรรคเพื่อไปให้”ละลิ่ว” เพื่อการเตรียมเป็น”นายกรัฐมนตรี” ก็ไม่เป็นอย่างที่”เพื่อไทย” คิด  จึงเป็น”โอกาสทอง” ที่จะได้เห็น” เศรษฐา ทวีสิน” เป็น “นายกรัฐมนตรี” ไปอีก”นาน” ซึ่งวันนี้”เจ้าตัว” ยัง”สนุกสนาน” กับตำแหน่ง”นายกรัฐมนตรี”อยู่ แม้ว่าจะมีปัญหา” มะรุมมะตุ้ม” รอบตัวก็ตาม…..

@และอีก”เผือกร้อน” ของ”รัฐบาลนิดหนึ่ง” คือเรื่อง”เรือดำน้ำจีน” ที่แม้จะพยายาม”ถ่วงรั้ง” อย่างไร สุดท้าย ก็ต้อง”ตัดสินใจ” ว่าจะ”เอา”หรือ”ไม่เอา” เรือดำน้ำที่ครั้งแรก” เรือจีน” แต่เครื่องยนต์”เยอรมันนี” ตาม”สัญญา” หรือตาม”ทีโออาร์” แต่วันนี้”ปิดประตูเรื่อง”เครื่องยนต์เยอรมันนี”ไปได้แล้ว ถ้าเอาก็ต้องเป็น”เรือจีนเครื่องยนต์จีน” ผิดสัญญาแน่นอน “เรือดำน้ำได้แน่” แต่ผลจากการ”ผิดสัญญา” สิ่งที่ตามาหลังมา”มากมาย” แต่ถ้า”ไม่เอา” นอกจาก”ไม่ได้เรือดำน้ำให้กองทัพเรือ” ยังมี”แนวโน้ม” ถูก”ริบมัดจำ” หายไป”ทั้งโซ่ทั้งลิง” และสิ่งที่”ได้มา” อาจจะ”ผิดใจ” กับประเทศมหาอำนาจอย่าง”สาธารณรัฐประชาชนจีน” ซึ่งอาจจะ”ได้ไม่คุ้มเสีย” เพราะหลายเรื่องราวที่ไม่ต้อง”จารนัย” ก็รู้กันอยู่ว่า “ไทย”ยังจำเป็นในการ”พึ่งพา”ประเทศจีน…..เรื่องนี้”สุทิน คลังแสง” คนเป็น” เสนาบดี” กระทรวงกลาโหม หนักใจนะหนักใจแน่ แต่คนที่”หนักกว่า” และ”แบกปัญหา”เอาไว้”บนบ่าไหล่” คือ”เศรษฐา ทวีสิน” เรื่องนี้เข้าตำราที่เรียกว่า”ยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก”…..

@โครงการ”แลนดน์บริดจ์” จะเกิดได้หรือเปล่ายังเป็นเรื่องที่”ไม่แน่ไม่นอน” แต่วันนี้มีการพบว่ามี”กลุ่มทุน” จาก”ตระกูลใหญ่” ในประเทศ เข้ามา”ซื้อที่ดิน” ที่เป็นพื้นที่”ทำเลทอง” ถ้า”แลนด์บริดจ์” เกิดขึ้นได้จริง อาจจะเป็นเพราะ”กลุ่มทุน” ที่เกือบจะเป็น”เจ้าของประเทศ” ได้มีการ”ลงทุน”ไปแล้ว หรือไม่ ที่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้”เพื่อไทย” และ”นายกนิด” ต้องเร่งออกไปทำ”โรดโชว์” กับ”กลุ่มทุน” ในประเทศต่างๆ เรื่องนี้  วันนี้ เป็นที่”โจษจัน” ของคนในพื้นที่”ชุมพร-ระนอง”  นี่กระมัง ที่”เกษตรกร” และ”กลุ่มต่อต้าน” โครงการ”แลนด์บริดจ์” ในพื้นที่จึงมี”คำถาม”ว่า โครงการ”แลนด์บริดจ์” ใคร”รวย”และใคร”เจ๊ง”และใครที่จะ”จน”ต่อไป…..

@นี่ก็เป็นเรื่อง”ทอคล์ออฟเดอะทาวน์” เป็นที่”สนใจ” ของประชาชนทั้งประเทศ เมื่อ”พี่ศรี”  ศรีสุวรรณ จรรยา” นักร้องระดับประเทศ” ที่ไป”สดุดขาที่สาม”ของตนเอง “หกคะเมนเค้เก้” กลายเป็น”ผู้ต้องหา”ในการ”เรียกรับเงิน” จาก”อธิบดีกรมการข้าว” กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องนี้”ไม่ยาว” ทั้งหมดทั้งปวงอยู่ที่”หลักฐาน” และถ้ายึดถือ”หลักธรรม” คือ”กรรมเป็นผู้ชี้เจตนา” เป็นเรื่องของ”กรรรมมุนา วัตตีโลกา” โดยแท้…..แต่ สิ่งหนึ่งที่ต้อง”จับตามอง”คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นกระทรวงที่มีเรื่อง”อื้อฉาว” มาเกือบทุกยุคทุกสมัย ทุกรัฐบาล เรื่อง”หมูเถื่อน”และ”ตีนไก่” ก็เป็นเรื่องของ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ยัง”สืบสาว” จับกุม”คนผิด”ยังไม่จบ เรื่อง”วัวเถื่อน”เรื่อง”แพะลม” กำลังจะตามมาในไม่ช้า และเรื่องที่เพิ่ง”อุบัติ” คือเรื่อง”โคบาลแดนใต้” ที่ “เกษตรกร” มีการ”ร้องเรียก” ว่า ได้รับ”วัว” ที่ไม่เป็นไปตาม”ทีโออาร์”  น้ำหนักไม่ได้ เป็นโรค มีการไปสร้าง”คอกรวม” ในป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่ง วันนี้” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เสนาบดีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งให้มีการ”ตรวจสอบ” ว่าโครงการมีการ”ล็อคสเปค” และมี”เงินทอน”เกิดขึ้นหรือไม่…..

@โดยข้อเท็จจริง โครงการ”โคบาลแดนใต้” เป็นเรื่อง”ที่ดี”ถ้าทำไปโดยไม่มีปัญหา ไม่มีเรื่อง”เงินทอน” ไม่มีการ”ล็อคสเปก” และไม่มีอะไรที่เป็น”เบื้องหน้าเบื้องหลัง” เพราะโครงการนี้เป็นโครงการที่”ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้” (ศอ.บต.) เมื่อครั้งที่ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร” ทำหน้าที่เป็น” เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้” ผ ศอ.บต.) นำเสนอ”คณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( กพต.) เพราะเล็งเห็นว่า การให้”เกษตรกร” ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีอาชีพในการ”เลี้ยงวัวพันธุ์พื้นเมือง” เพื่อเป็นการ”พัฒนาคุณภาพชีวิต” เพราะ”ผลผลิต” ที่ได้มี”ตลาดรองรับ” การเขียน”โครงการ” เขียนอย่างดี เช่นต้องมีการ”ตั้งกลุ่ม”ให้เป็น”วิสาหกิจชุมชน” ต้องมี 50 คนต่อหนึ่งกลุ่ม ต้องมี “ทุ่งหญ้า” ในการเป็นแหล่งอาหาร ต้องมี”คอกรวม” ไม่ใช่โครงการ”แจกฟรี” แต่ทุกคนที่เข้า”ร่วมกลุ่ม” ต้องทำการ”กู้เงิน” จาก”แหล่งทุน” ที่ “ศอ.บต.”หาให้ และมี”กรมปศุสัตว์” มี”นักวิชาการ” จาก”มหาวิทยาลัย” ในพื้นที่ เป็นผู้ติดตามดูแล มี”คณะกรรมการ” เป็นผู้”ติดตามตรวจสอบ” …..แต่ สุดท้าย ก็กลาย”เป็นข่าว” เรื่อง”วัวผอม” และ”เป็นโรค” และอาจจะ”ไม่ออกลูก” ตามมา รวมทั้ง ปัญหาอื่นๆอีก”จิปาถะ” ที่ถูกตั้งข้อ”สงสัย” ตรงนี้ เป็นเรื่องที่”ศอ.บต.” และ”กรมปศุสัตว์” รวมทั้ง”หน่วยงาน” และ”บุคคล” ที่เกี่ยวข้อง ต้อง”แถลงข้อเท็จจริง” ให้”ประชาชน” ได้รับรู้…..

@แต่ก็มีข้อ”พิรุธ” จาก “กลุ่มวิสาหกิจชุมชน” ที่ออกมา”ร้องเรียน” ให้ต้อง”พิจารณา” ข้อที่ 1 ” กลุ่มวิสาหกิจชุมชน” ที่ออกมาร้องเรียนในเรื่องนี้ เป็น”พวกพ้องเดียวกัน”  ทั้งใน จ.สตูล และ”ปัตตานี ใช่หรือไม่ ข้อที่ 2 ทำไมนำ วัวมาเลี้ยงถึง 1 ปีครึ่ง จึงเพิ่งจะมีการ”ร้องเรียน” ข้อที่สาม การสร้าง”คอกรวม” ที่ไปสร้างในพื้นที่”ป่าสงวนแห่งชาติ” กลุ่มวิสาหกิจชุมชน เป็นผู้”เลือกสถานที่เอง” ใช่หรือไม่ และหลายแห่ง” กลุ่มวิสาหกิจชุมชน” ขอที่จะเป็น”ผู้สร้างเอง” โดยการ”รับจ้าง” จาก”บริษัท” โดยอ้างว่า ไม่มีงานทำ และข้อที่สี่ การเลี้ยงๆ แบบ”ปล่อยปละละเลย” หรือมีการ”เลี้ยงดู” ให้เป็นไปตามหลัก”วิชาการ” สิ่งเหล่านี้ ต้องมีกา”ตรวจสอบ” ใน”รูปแบบ” ของ”คณะกรรมการ” เพื่อหาข้อเท็จจริง เพื่อที่โครงการ”โคบาลแดนใต้”จะได้”เดินหน้า”ไปได้ เพราะการ”ตั้งเป้า”ที่ 400 กลุ่ม นี้เพิ่งจะมีการ”ส่งมอบ” วัวให้กับ”กลุ่มวิสาหกิจชุมชน”เพียง 40 กลุ่ม ก็เกิดเรื่อง”อีโมอีโป” มากมายที่ล้วนแต่”เสียหาย” ทั้งสิ้น…..และที่สำคัญ ทำไม  “ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน” ในพื้นที่ จ.นราธิวาส และ ยะลา จึงไม่มีปัญหา เหมือนกับ” ที่ จ.สตูล และ ปัตตานี  ทั้งที่ “ซื้อวัว” มาจาก” บริษัทเดียวกัน…..ทั้งหมดคือประเด็นปัญหาที่”สมศักดิ์ เทพสุทิน” รองนายกรัฐมนตรี ผู้ทำหน้าที่”กำกับดูแล”ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต. ) ต้องมีการ ตรวจสอบ…..

@เรื่องดีๆ กันบ้าง เชื่อเถอะ หลังการ”ลงนาม” ระหว่างตัวแทนของ”รัฐบาลจีน” กับ”รัฐบาลไทย” ในการ”ยกเลิกวีช่า” ของทั้ง 2 ประเทศ นักท่องเที่ยว จากประเทศจีน ต้องเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น สิ่งที่  รัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาต้อง”รับมือ” มีหลากหลายปัญหา ทั้งการ”เอาเปรียบ”นักท่องเที่ยว จากผู้”ประกอบการ” และ”ผู้ประกอบการ” เรือทัวร์-เรือโดยสาร” ในพื้นที่จังหวัดชายทะเล ที่มักจะ”กอบโกยผลประโยชน์” จนเกิด”อุบัติเหตุ” ด้วยความ”ประมาท” รวมทั้งต้องมีการ”ป้องกัน” เรื่องของ”ทัวร์ศูนย์เหรียญ” ที่เคยเกิดขึ้นในยุคที่”การท่องเที่ยวจีนเฟื่องฟู” ที่ ผลประโยชน์ หรือ”รายได้-เม็ดเงิน” จากการท่องเที่ยว ไม่ได้”เข้ากระเป๋าคนไทย” แต่กลายเป็น”นักธุรกิจจีน” ได้”กอบโกย” ไปหมด เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้อง”ป้องกัน” ไม่ใช่การท่องเที่ยวโต คนมาเที่ยวมากมาย ทรัพยากรธรรมชาติ”เสียหาย” แต่ “รายได้” ไม่ได้เข้าประเทศ “บทเรียนท่านผ่านมามีมาแล้ว” ต้องอย่าให้เกิดขึ้นอีก และขอตั้งเป็นข้อสังเกต เพราะรู้สึกว่า ณ วันนี้”บทบาท” ของ” สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” ( ททท) ที่ตั้งอยู่ใน”ภูมิภาค” ใน จังหวัดต่างๆ ไม่มี”บทบาท” เรื่องของการท่องเที่ยวเท่าที่ควร หลายพื้นที่กลายเป็น”หน่วยงานที่โลกลืม”ไปแล้ว…..

@ที่ภาคเหนือ”ชายแดนเมียนมา” และ”สปป.ลาว” มีปัญหาเรื่อง”แกงค์คอลเซ็นเตอร์” ที่มาจาก”ทุนจีนสีเทา” แต่ที่ชายแดน”ไทย-มาเลเซีย” ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส วันนี้”แก็งค์คอลเซ็นเตอร์” ที่เป็น”จีนมาเลเซีย” ซึ่งเป็นทุนจีนสีเทา” อีกกลุ่มหนึ่ง เข้ามาใช้”พื้นที่ชายแดนไทย”ในการติดตั้ง”ซิมบอกซ์” ซึ่งเป็นเครื่อง”ส่งสัญญาณ” ใช้กับการ”สื่อสาร” ของแก็งค์คอลเซ็นเตอร์  ที่”ตำรวจสอบสวนกลาง” นำโดย “พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช” ผบช.สอบสวนกลาง ทำการ “กวาดล้าง” ได้แต่ผู้ต้องหาคนไทยที่เป็น”นอมินี” ส่วน”ทุนจีนสีเทา” ที่เป็นชาวมาเลเซีย”หลบหนีได้โดย”ละม่อม” เรื่องของทุนจีนสีเทามาเลเซีย” เป็นปัญหา”หมักหมม”ของจังหวัดชายแดนภาคใต้มานานมาก”ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ”ผู้เป็น”นายทุนหวยเถื่อนหวยมาเลเซีย” ผู้ที่เป็น”นายทุนเปิดบ่อนการพนัน” และ”หวยออนไลน์” เป็น”นายทุนการพนันออนไลน์” รวมทั้ง”โต๊ะฟุตบอลออนไลน์” และ “ธุรกิจเถื่อน” อีกมากมาย ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งใน”เมืองท่องเที่ยว” ชายทะเลภาคใต้”แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์” ล้วนแต่มาจาก”จีนเทามาเลเซีย” เรื่องนี้ “พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 . มี นโยบายในการ”กวาดล้าง” หรือการ”ป้องกัน” อย่างไร หรือ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล” ผบ.ตร. จะมี นโยบาย อย่างไรกับ ปัญหาของทุนจีนสีเทา” ที่เป็น”ชาวมาเลเซีย” และ”สิงคโปร์” ที่ทั้งเดินทาง”เข้า-ออก” และที่”ลงหลักปักฐาน” อยู่ใน จังหวัดชายแดนภาคใต้…..

@หน่วยงานที่รับผิดชอบในการ”ประมูลรังนกอีแอ่น” ที่  อ.เกาะยาว จ.พังงา อยู่กันอย่างไร จึงปล่อยให้ไม่มีการ”ประมูล” หรือ”สัมปทาน” การจัดเก็บรังนกอีแอ่นถึง 3 ปี ปล่อยให้รัฐขาดรายได้ที่ควรจะได้ และปล่อยให้กลุ่มผู้มีอิทธิพล เข้าไป” “ขโมยรังนก” ที่เป็น”สมบัติของแผ่นดิน”ไปขายสร้างรายได้อย่างมหาศาล ที่สำคัญ หน่วยงานท้องถิ่น ต้อง”สิ้นเปลือง”งบประมาณ ในการรับผิดชอบเฝ้าเกาะรังนกเดือนละ 70.000 บาท เรื่องนี้ “สุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย” ผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องเร่งดำเนินการ โดยหาสาเหตุที่แท้จริงของการที่ ไม่มีผู้สนใจในการยื่น”ประมูล”เป็นเพราะเหตุใด…..

@หนึ่งเดือน “พะยูน” ใน “เกาะลิบง” จ.ตรัง ตายไปแล้ว 3 ตัว นี่เป็นเรื่องที่”ผิดปกติ” และเป็นเรื่อง”น่าเศร้า” ที่ หน่วยงานที่รับผิดชอบ  “ปกป้อง”ชีวิตของ”พะยูน”ไม่ได้ และอาจจะ”สูญพันธุ์” ในอนาคต สาเหตุของการตาย พบว่าในท้องของ”พะยูน” เต็มไปด้วย เศษซากของ”พลาสติก” และอื่นๆ ที่ไม่ใช่”หญ้าทะเล” ที่เป็นอาหารของพะยูน สาเหตุหลักเกิดจาก” ห่วงโซ่อาหาร” ที่เป็น”หญ้าทะเล” ใน”เกาะลิบง” ที่เป็นอาหารของ”พะยูน” ที่กำลังลดลงเรื่อยๆจาก”สิ่งแวดล้อม” และอาชีพประมงของคนในพื้นที่ เรื่องนี้ “ทรงกลด สว่างวงศ์” ผวจ.ตรัง อย่านิ่งเฉย ต้องทำหน้าที่เป็น”เจ้าภาพ” ในการ”ช่วยชีวิต”ของ”ประชากรพะยูน” เพื่ออย่าให้”สูญพันธุ์”……

@กระแสการ”ตื่น”การสำรวจพบ”แร่ลิเทียม” ที่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งมีข่าว”ใหญ่โต” ว่า ถ้านำขึ้นมาได้ จะเป็น”อุตสาหกรรม” ด้าน”แบตเตอรี” รถยนต์ ที่จะทำให้ ประเทศไทย”ลืมตาอ้าปาก “ได้ เรื่องนี้”เท็จจริง” ยังเป็นเพียง”ข่าว” ที่มาจาก”ภาครัฐ” ส่วน “เอกชน” ที่ได้รับ”อาชญบัตร” ในการ”สำรวจ” ยังไม่ได้”แถลงข่าว” ถึงความเป็นไปได้ใน”เชิงพาณิชย์” หรือ”อุตสาหกรรม” แต่ก็ทำให้”เจ้าของที่ดิน” ที่รู้ว่าที่ดินตนเองมี”แร่ลิเทียม” อยู่ ก็”ฝันหวาน” และคนในพื้นที่ก็ต้องการให้มีการสำรวจใน”วงกว้าง” เผื่อจะได้เป็น”เศรษฐี”กันทั้งจังหวัด…..ก็อย่างเพิ่ง”ดีใจ” และ”ฝันไกล” เพราะอาจจะ”ไปไม่ถึง” เพราะทุกอย่างเป็นเพียง”ข่าว” ที่ยังไม่มีอะไรที่”แน่ชัด” และที่สำคัญ การทำ”เหมืองแร่ลิเทียม” ไม่ง่าย “สินแร่” ที่ลึกอยู่ใต้ดิน 100-200 เมตร กับเรื่องของ”สิ่งแวดล้อม”ของ”มลภาวะ” เป็นของที่”คู่กัน” วันนี้ดู”ตัวอย่าง” การทำเหมือง”โปรแตชฯ” ที่ จ.นครราชสีมา ที่เกิด”มลพิษ” มากมาย มีประชาชนเดินขบวน”ต่อต้าน” ให้”ปิดเหมือง” คือ”ตัวอย่าง” ที่ต้องเรียนรู้……

@เรื่องที่ “พล.ท.ศานติ ศกุลตนาค” แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ,กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” แจ้งความให้ดำเนินการทางกฎหมาย” กับกลุ่มของ”นักเคลื่อนไหว” ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการจัดการ”ชุมนุมวันมาลายูเดย์” และมีปัญหาเกี่ยวกับ”กฎหมายความมั่นคง” เริ่มจะ”คลี่คลาย” ไปในทิศทางที่ดี หลังจากที่” คณะกรรมาธิการสันติภาพ” ที่มี”จาตุรนต์ ฉายแสง” เป็นประธานกรรมาธิการ นำคณะมาประชุมที่ จ.ปัตตานี โดยมีการ”หารือ” และ”รับทราบ”ข้อเท็จจริง” จาก” แม่ทัพภาคที่ 4 ,ตัวแทน ศอ.บต.” และ” ผบช.ภ.9 “ และหน่วยงานที่รับผิดชอบ ทำให้การ”บิดเบือน” ว่าผู้ถูก”แจ้งจับ” เพราะ”แต่งกายแบบมาลายู” เป็นอันตกไป เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่อง”ละเอียดอ่อน” เป็นเรื่องการทำ”ผิดกฎหมาย” ซึ่ง “ตำรวจ” ต้อง เร่งดำเนินการ นำผู้ถูก”กล่าวหา” ส่งฟ้องโดยเร็ว เพราะสุดท้ายแล้ว “ศาลสถิตย์ยุติธรรม” คือผู้”ชี้ขาด”และทุกคนต้องอยู่ภายใต้”กฎหมาย”…..

@ส่วนเรื่องการ”ป้องกัน” การ”ก่อเหตุ” ในพื้นที่ใน”เทศกาลตรุษจีน” ตามที่”การข่าว” เตือนให้มีการ”ระวังป้องกัน” ก็เป็น”หน้าที่”ของ ทุกฝ่าย ตำรวจ,ทหาร,ปกครอง” ในการ”มีแผน”ของการ”รับมือ” หรือ”มีแผน” ใน”เชิงรุก” ด้วยการ”รุกกลับ” ต่อ” กองกำลังติดอาวุธ” และ” แนวร่วม” ใน หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ เพื่อ”ทำลาย” แผนการ”ก่อการร้าย” และการ”จำกัดเสรีภาพ” ในการ”เคลื่อนไหว”ของ”กองกำลังติดอาวุธ” รวมถึงการ”ซีลแนวชายแดน” ที่เป็นช่องทางการ”เข้า-ออก” การ”ลำเลียง” ยุทโธปกรณ์ จากประเทศ มาเลเซีย เข้ามาในพื้นที่ฝั่งไทย ถ้าทำได้ ความปลอดภัยใน”เทศกาลตรุษจีน” ก็จะเป็นเทศกาลที่ทุกคน”มีความสุข” และ”เศรษฐกิจ” ในพื้นที่ก็จะมี”เงินสะพัด”…..

@เรื่องของการเดินหน้าในการ”ก่อสร้าง” หรือในการใช้งาน” อความเรี่ยมหอยสังข์สงขลา” ที่”ยืนตระหง่าน” โชว์ความเป็น”หอยเน่า” ที่เชิงสะพาน”ติณสูลานนท์” อ.เมือง สงขลา ยังไม่มี”ความหวัง” ของความ”คืบหน้า” เมื่อ”กรมอาชีวศึกษา” เจ้าของ”โครงการ” ที่ปล่อยให้มีการ”ทุจริต”เกิดขึ้น จนมีการ”ทิ้งงาน” ทำให้”งบประมาณ” 1.400 ล้าน เป็นได้เพียง”ประติมากรรมบูดเบี้ยว” เพราะ”เจ้าของโครงการ” อ้างว่าการ”เดินหน้า” เพื่อของบประมาณก่อสร้างต่อ ซึ่งต้องใช้งบประมาณอีก 500 ล้านบาท หรือถ้า”ไม่ไปต่อ” แต่”พอแค่นี้” ด้วยการใช้”อควาเรี่ยมหอยสังข์” ทำประโยชน์อย่างอื่นๆ ยังต้องรอให้” ปปช.” ดำเนินการกับผู้ที่ตกเป็น”ผู้ถูกกล่าวหา” ทั้ง 27 คน ให้แล้วเสร็จ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเป็น”ชาตินี้” หรือ”ชาติหน้า” เพราะ 15 ปีผ่านไป วันนี้ ขบวนการของ ปปช. ยังอยู่ใน”ขั้นตอน” ให้ผู้ถูก”กล่าวหา” ส่ง”เอกสาร” ไป”ชี้แจง”และแก้ข้อ”กล่าวหา” เหนื่อยมั้ย ประชาชนคนสงขลา…..

@น่าเห็นใจกับ”พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์” รอง ผบ.ตร. ที่ รัฐบาล เสนอให้ไปนั่งในตำแหน่ง “เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ” ( สมช. ) ที่จนย่างเข้าเดือน กุมภาพันธ์ แล้ว ยังไม่”สะเด็ดน้ำ” ถ้าขั้นตอนตาม”กฎหมาย” จบในเดือน กุมภาพันธ์ นี้ ก็แสดงว่า”บิ๊ก รอย” ได้นั่งในตำแหน่ง “เลขาธิการ สมช.”เพียง 7 เดือน แล้ว เกษียณอายุราชการ   7 เดือน ในตำแหน่งสำคัญ อย่าง”เลขาธิการ สมช.” จะแก้อะไร ทำอะไร ได้มากน้อยแค่ไหน และที่สำคัญ เมื่อ”ผู้ใต้บังคับบัญชา” รู้ว่าอีก 7 เดือน”หัวหน้าหน่วย” ต้อง”เกษียณ” จะเข้าตำรา”สั่งได้” แต่”ไม่เชื่อ” หรือไม่ น่าสงสารนะกับหน่วยงานที่ได้ชื่อว่า”สภาความมั่นคงแห่งชาติ” ที่กลายเป็น”หน่วยงาน” ที่”ขาดๆ เกินๆ” ทั้งในยุคที่”ทหารนั่งเมือง” แลในยุคที่”พลเรือนนั่งแท่น” แต่ยังไม่มีความเป็น”อิสระ” จาก”ทหาร” หรือเพราะ”ที่นี่ ประเทศไทย” ทุกอย่างจึงเป็นแบบไทยๆ……

@วันนี้ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง พูดชัดว่ามาก  “กฎหมาย” ไม่”อนุญาต” ให้”ต้มน้ำกระท่อม” ขาย แต่สามารถ”ต้มกินเอง”ได้ ส่วน”ใบกระท่อม” ขายได้แต่ต้องมีการ”ติดป้าย” และต้องมีการ”ควบคุม”ให้เป็นไปตาม”กฎหมาย” หลาย จังหวัด ทั้งประเทศ ตำรวจ ปกครอง สาธารณสุข เริ่มทำการ” ตักเตือนแจ้งข่าว” ให้”หยุดกิจการ” และหลายจังหวัด”จับกุม” ทันที  ในพื้นที่ของ จ.สงขลา เช่นที่ อ.สะเดา พ.ต.อ.สุรจิต  เพชรจอม ผกก.สภ.สะเดา จับกุมและส่งฟ้องต่อศาล จ.นาทวี แล้ว เช่นเดียวกับที่ สภ.บางกล่ำ ที่ พ.ต.อ.สมปราช กรรณกานนท์ ผกก.สภ.บางกล่ำ ก็นำ เจ้าหน้าที่ออก”ปฏิบัติการ” จับกุม”ผู้ค้าน้ำกระท่อม” ไปแล้วหลายราย แต่ยังมีอีกหลายพื้นที่ เช่น อ.เมือง, อ.หาดใหญ่ ที่ยังปล่อยให้ในพื้นที่เต็มไปด้วย”ซุ้ม” และ”รถยนต์” ที่นำมาจอดริมถนนเพื่อ”เปิดท้ายขายน้ำกระท่อม” ซึ่งผิดทั้ง”กฎหมาย”ของ”ยาเสพติด” และผิดทั้ง”กฎหมาย”ของการ”รุกล้ำเขตทางหลวง”  และที่”ตำรวจ” น่าจะรู้ดีคือใน จ.สงขลา มี”นายทุนผู้มีโรงงานผลิตน้ำกระท่อมรายใหญ่ที่มี”เครือข่าย” ในการ”จำหน่าย” ในพื้นที่ของ จ.สงขลา ไม่ผิดกับ”เครือข่ายโรตีสายไหม” เรื่องนี้ พล.ต.ต.เชาวลิตร เลี้ยงสุพงศ์ ผบก. ภ.จว.สงขลา ต้อง”ออกแรง” เพื่อ”กระทุ้ง” ให้”ตำรวจ” ในท้องที่ซึ่งมีปัญหา” เช่น  “ สภ.หาดใหญ่,คอหงส์” และ”สภ.เมือง” ให้สนใจในเรื่องของ”น้ำกระท่อม” เพราะนี่เป็น”บ่อเกิด” ขั้นต้นของ”ยาเสพติด”และ “อาชญากรรม”…..

@มีการประชุมนัดแรกไปแล้ว สำหรับ”คณะทำงานการขับเคลื่อนการแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้” ภายใต้การดำเนินการของ”กระทรงยุติธรรม” ที่มี พ.ต.อ.ทวี สองส่อง รัฐมนตรีกระทรวงเป็น”เจ้าภาพ” มี”พล.อ.วิชาญ สุขสง” และ”พล.ต.ท.พัฒนวุธ อังคนาวิน” เป็นสอง”ผู้ขับเคลื่อน”หลัก มี”คณะทำงาน”ในการ”ขับเคลื่อน” จำนวน 41 คน เพื่อไปทำหน้าที่กำหนด”ยุทธวิธี” เพื่อ”ปฏิบัติการ” ในการ”เอาชนะ” การ”แพร่ระบาด”ของยาเสพติดในพื้นที่ และนี้เป็น”หนึ่งความตั้งใจ”ของ” รัฐมนตรียุติธรรม” ที่ต้องการเห็น”บ้านเมืองนี้” ปลอดจาก”ยาเสพติด” ซึ่งก็ต้องติดตามกันแบบ”ยาวๆ” ว่า “คณะทำงานชุดนี้ จะดำเนินการอย่างไรกับผู้ที่”อยู่เบื้องหลัง” ของ”กลุ่มค้ายาเสพติดในพื้นที่” เพราะ”ส่วนหนึ่ง” เป็น”คนในเครื่องแบบ” ถ้ายังไม่สามารถเอา”คนในเครื่องแบบ” และผู้นำ” ท้องที่ ท้องถิ่น.นักการเมือง” ออกจาก” วงจรชั่ว” การ”เอาชนะ” ยาเสพติดก็ยากที่จะสำเร็จ…..

@แม้ว่ายังไม่มี”ลงดาบ” จาก”ศาลฎีกา”ให้ สส.เขต 8 จ.นครศรีธรรมราช “มุกดาวรรณ เลื่องสีนิล  “ หยุดปฏิบัติหน้าที่จากการที่ “กกต.ให้ใบแดง” แต่ พรรคการเมืองหลายพรรคก็มีการ”ประแป้งแต่งตัว” เพื่อส่งผู้สมัครลง”แข่งขัน”กับ”ผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย เจ้าของ”ที่นั่งเดิม” โดยเฉพาะพรรค”แม่ธรณีบีบมวยผม” หรือ”ประชาธิปัตย์” มีมติที่จะส่ง”ชินวรณ์ บุญยเกียรติ” สส ,หลายสมัย และอดีต”รัฐมนตรี” ลง”ชิงชัย” ในเขตเลือกตั้งที่ 8 เพื่อเป็นการ”กู้ชีพกู้ศรัทธา” จาก”ประชาชน”แดนสะตอ” แต่  เชื่อเถอะ เป็น”งานหนัก”ทั้งของ”เดชอิศม์ ขาวทอง” ( นายกชาย ) เลขาธิการพรรคฯ และ”ชัยชนะ เดชเดโช” รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ หาก”ภูมิใจไทย” เจ้าของ ที่นั่งเดิม “ไม่ถอย” และส่ง”ผู้สมัคร” ที่มี”ชื่อชั้น” เพื่อ”รักษาพื้นที่”ในส่วนของ”ประชาธิปัตย์” ถ้า”ชินวรณ์” ชนะก็แค่ “เสมอตัว” แต้ถ้าแพ้แบบ”ยับเยิน” นั้นยิ่งเป็นการ”ตอกย้ำ”ถึงความ”ตกต่ำ” ของ”พรรค”และ”ผู้บริหารพรรค”ด้วยนะ…..

@ปีนี้เป็นปี”มังกรทอง” ที่ ชาวไทยเชื่อสานจีนถือเป็นปีแห่ง”มงคล” ที่ จ.สงขลา งาน”ตรุษจีน” ปีนี้จึงเป็น”งานช้าง” มีการจัดแบบ”อลังการ” ทั้งที่ อ.เมือง และ หาดใหญ่  “สมนึก พรหมเขียว” ผวจ.สงขลา และ”เศวต เพชรนุ้ย” รอง ผวจ.สงขลา สองแรงแข็งขัน ประสานสัมพันธ์กับ”ท้องถิ่น” และ”เอกชน” เรื่อง”เศรษฐกิจ”และ”การท่องเที่ยว” ต้อง”จับมือกัน” และ”เดินไปด้วยกัน” เพราะผลประโยชน์เป็นของคนสงขลาไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่งหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง……ก็เป็น “แนวคิด” ที่ดี สำหรับ “หอการค้าจังหวัดสงขลา ที่มี”ทรงพล จังศิริวัฒนาธำรง” เป็น”ประธาน” ที่เสนอให้ “รัฐบาล” สร้าง”ท่าเทียบเรือ” เพื่อรับ”เรือสำราญ” ที่เข้ามา”จอดเทียบท่า”ที่ “ เกาะหนูเกาะแมว” ให้สามารถนำ”นักท่องเที่ยวขึ้นฝัง” มาเที่ยวใน”ตัวเมืองสงขลา และ หาดใหญ่ เพื่อที่จะมี”เม็ดเงิน” จาก”นักท่องเที่ยวต่างชาติ” หมุนเวียนใน จ.สงขลา  ก็ต้องติดตามดูว่า จะมี “นักการเมือง”จากพรรคไหนบ้าง ที่เห็นถึงความ”สำคัญ” ของโครงการนี้ และช่วยกัน”ผลักดัน” …..

@ปัญหา”โคบาลชายแดนใต้” ที่มีการ”ร้องเรียน”ที่ จ.สตูล เกิดจากเรื่องของการ”ผิดเงื่อนไข” ในการเข้าสู่โครงการของ”วิสาหกิจชุมชน” ตั้งแต่การทำ”คอกรวม” ซึ่งไปทำในที่”ป่าสงวน” ซึ่งก็ไม่ใช่ความผิดของบริษัทผู้ขายวัวให้กับ”วิสาหกิจชุมชน” แต่เป็นเพราะ”เกษตรกร”ในหลายอำเภอที่เข้าร่วมโครงการ เช่น อ.ละงู อ.ควนโดน ซึ่ง ที่ดินส่วนใหญ่อยู่ใน”ป่าสงวนแห่งชาติ” ที่มีสิทธิ์ในการ”ทำกิน” แต่”ออกโฉนด” เป็น เจ้าของที่ดินไม่ได้ เรื่องการทำ”คอกรวม” ของโครงการ”โคบาลชายแดนใต้” นายอำเภอ และ ปศุสัตว์อำเภอ “เข้าใจ” และ” อนุญาต” ให้สร้างได้ แต่ “ปศุสัตว์จังหวัด” ไม่”โอเค”  เกษตรกร รับมอบวัวมาแล้ว กลุ่มละ 50 ตัว แต่”เข้าโครงการไม่ได้”  เบิกเงินค่า”อาหาร,และค่า”บริหารจัดการ”ไม่ได้  แถมมี”น้ำท่วม” ในพื้นที่ 2 ครั้ง จึง”ถูกต้องแล้ว” ที่”วัวในกลุ่มที่ผิดเงื่อนไข” อยู่ในสภาพที่”ผอมแห้ง” และ”เป็นโรค” เพราะ”เกษตรกร” กลุ่มนี้เอาวัวมาเลี้ยงถึง 1 ปี กว่า แล้ว แต่เข้า”โครงการ”ไม่ได้ “เบิกเงิน”ไม่ได้ และต้องการที่จะ”ขายวัว”คืน ให้เจ้าของ”บริษัท” เพื่อที่จะได้นำเงินที่ได้”จ่ายคืน” ให้กับ ธนาคารเกษตรและสหกรณ์” เพราะโครงการโคบาลชายแดนใต้” ไม่ใช่โครงการ”ให้เปล่า” แต่เป็นการให้”เกษตรกร “ ที่ต้องการ”เลี้ยงวัว” ตั้งเป็นกลุ่ม”วิสาหกิจ” และมีสิทธิ์ในการ”กู้เงิน” มาเพื่อ”ซื้อวัว” โดย”เงื่อนไข” ต้องเป็นไปตามที่”กรมปศุสัตว์” เป็นผู้กำหนด  ปัญหาของ”กลุ่มวิสาหกิจสตูล” ผู้ที่ทำหน้าที่”ปศุสัตว์จังหวัด”ต้องเข้าใจ และ”ศักระ ปิลกาญจน์” ผวจ. สตูล ต้อง”ใส่ใจ” และร่วมในการ”แก้ปัญหา” ที่เกิดขึ้น…..

@ส่วนที่ โครงการนี้ ทำไมมีเพียง บริษัทเดียวก็ไม่น่าจะเป็นการ”ล็อคสเปค” เพราะมีการเปิดให้ทุกบริษัทที่สนใจ ดำเนินการ”ชี้แจง” กับ”กลุ่มวิสาหกิจชุมชน” ในพื้นที่ ของ “ปัตตานี,นราธิวาส,สตูล, ยกเว้น สงขลา และ ยะลา ที่ยังไม่ได้ดำเนินการ แต่ บริษัทอื่น ไม่สนใจที่จะมาร่วมโครงการใน”เฟสแรก” ส่วนโครงการนี้จะมี”เงินทอน” ระหว่าง” บริษัท” กับกรมปศุสัตว์” หรือไม่นั้น ยังไม่มี”หลักฐาน” เพียงแต่รู้ว่าโครงการนี้” ชาวบ้าน”ที่เข้าร่วมโครงการ”รับเงิน” จาก”ธนาคารฯ ด้วยตนเอง และ”จ่ายเงิน” เพื่อ”ซื้อวัว” ให้กับ”บริษัท”ที่เป็น”เจ้าของวัว”โดยตรง  และเงินในการ”บริหารจัดการ” ใน 1 ปี 6 เดือนๆ ละ 250,000 บาท ก็ โอนให้ กลุ่มวิสาหกิจโดยตรง ตรงนี้คงจะ”หักหัวคิว” ไม่ได้…..แต่อย่างไรก็ตาม เห็นด้วยที่”ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เสนาบดี”กระทรวงเกษตรฯ จะได้ทำการ”ตรวจสอบ” ข้อเท็จจริง และ “ไชยา พรหมมา” รมช.กระทรวงเกษตรฯ ก็ได้”ลงพื้นที่” จ.ปัตตานี เพื่อพบกับกลุ่มผู้”ร้องเรียน” และกลุ่มผู้ที่ ไม่มีปัญหา ในการดำเนินการ  เพื่อที่จะได้เห็น”เหรียญทั้งสามด้าน”  ในส่วนของ “ศอ.บต.” ซึ่งถือว่าเป็น” เจ้าของเรื่อง”พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์” เลขาธิการ ศอ.บต. ก็ต้องทำหน้าที่ในการ”ตรวจสอบ” เพื่อให้มีความ”โปร่งใส” ในทุกขั้นตอน เพราะโครงการ”โคบาลชายแดนใต้” เป็นโครงการที่ดี มีประโยชน์กับ”เกษตรกร” และเพิ่งดำเนินการไปเพียง 40 กลุ่ม ก็มีปัญหาเกิดขึ้น ซึ่งถือว่าเป็น” บทเรียน” ให้มีการ”แก้ปัญหา” เพราะโครงการ”โคบาลชายแดนใต้” มีการ”ตั้งเป้า” ในการ”ส่งเสริม” เกษตรกรถึง 400 กลุ่ม เพื่อที่จะได้”ป้องกัน” อย่าให้เกิดปัญหาแบบนี้ หากยังจะ”ขับเคลื่อน” โครงการนี้ต่อไป…..แล้วพบกันใหม่ในวันศุกร์หน้า สวัสดีครับ

———————————————————————

ไชยยงค์ มณีพิลึก

เอาชนะยาเสพติด.   พ.ต.อ.ทวี สองส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นประธานประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนเพื่อแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ห้องประชุมกองพลพัฒนาที่ 4 ค่ายรัตนพล อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา

จิตอาสารักษ์ป่าฯ…พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ. 9 ,พล.ต.ทหญิง อภาพรรณ ชลศึกษ์ ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 9 ร่วมโครงกานจิตอาสา รักษ์ป่าชายเลนหาดปากเมง เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ณ บริเวณท่าเรือปากเมง ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง

เยี่ยมเยือน.  พล.ต เฉลิมพร ขำเขียว ผบ.กองพลทหารราบที่ 15 / ผอ.ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เดินทางลงพื้นที่ เยี่ยมเยียนให้กำลังใจ สอบถามอาการเจ็บป่วย สภาพความเป็นอยู่ของผู้ป่วยติดเตียง จำนวน 2 ราย ได้แก่ นางศิริพร แก้วน้อย อายุ 57 ปี  สมาชิกราษฏรอาสารักษาหมู่บ้าน (อรบ.) กองพันหนองจิก จ.ปัตตานี จำนวน 2 ราย พร้อมนำชุดแพทย์จาก รพ.ค่ายอิงคยุทธบริหาร มาตรวจรักษา และมอบถุงยังชีพ

แก้ปัญหายาเสพติด.    สมนึก พรหมเขียว ผวจ.สงขลา ลงพื้นที่ ต.ห้วยลึก อ.ควนเนียง จ.สงขลา ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้นโยบายในการป้องกัน ปราบปรามยาเสพติดแบบครบวงจร โดยมี วินิจ เทพนิมิต นายอำเภอควนเนียง ให้การต้อนรับ

ต้อนรับ.   วิสุทธิ์ สิงห์ขจรวรกุล อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต้อนรับ แสดงความยินดี และมอบวัตถุมงคลให้ เอก ยังอภัย ณ สงขลา ซึ่งเดินทางมารับตำแหน่งนายอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา ณ บ้านพักนายอำเภอ

แสดงความยินดี.  จิรวิทย์ แซ่เจ็ง ประธานผู้พิพากษาสมทบศาลครอบครัวยะลา และ ร.ต.ต.กริยา ตระกูลศึกษา ประธานกลุ่ม ตร.สัมพันธ์ 5 ชายแดนใต้ มอบกระเช้าดอกไม้ให้กับ ผศ.ดร.ศิริชัย นามบุรี อธิการบดี ม.ราชภัฎยะลา เพื่อแสดงความยินดี ณ ห้องรับรอง มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา

ควันหลงปีใหม่.  ธนาคารออมสินนำทีมโดย ท่านเขตพร้อมผู้จัดการสาขายะลา อวยพรปีใหม่ กันต์พงษ์ ลิ่มกาญจนา ประธานหอการค้าจังหวัดยะลา ซึ่งเป็นภาคีเครือข่ายของ ธนาคารออมสินพร้อมพูดคุยให้สินเชื่อกับผู้ประกอบที่ได้รับผลกระทบการเงินกู้นอกระบบ ณ หอการค้าจังหวัดยะลา

ผลประโยชน์ชาติ.  สกุล ดำรงเกียรติกุล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานเปิดกิจกรรมสร้างความรับรู้ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลในพื้นที่จังหวัดตรัง ครั้งที่ 1 โดยศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดตรัง (ศรชล.จว.ตรัง) ณ โรงแรมวัฒนา พาร์ค ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง โดยมีเยาวชนที่ในพื้นที่ติดกับทะเล อ.สิเกา อ.กันตัง อ.หาดสำราญ และ อ. ปะเหลียน เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 50 คน

ความปลอดภัย.   ดร.สัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง เปิดเผยว่า เทศบาลนครตรังได้ดำเนินการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ภายในเขตเทศบาลนครตรัง ระยะที่ 3 เพิ่ม อีก 104 จุด กว่า 340 ตัว บูรณาการร่วมกับศูนย์ RTCC ของตำรวจภูธรจังหวัดตรัง เพื่อความ ปลอดภัยของประชาชน ซึ่งติดตั้งตามจุดล่อแหลมที่อาจจะเกิดอาชญากรรม

กำลังใจ.   เนติวิทย์ ขาวดี นายแพทย์จำรัส สรพิพัฒน์  ด.ต. เจริญ รักษา และ พรชัย นาคพล  ร่วมเยี่ยมผู้ป่วยมะเร็ง    ตรวจรักษาอาการ และให้กำลังใจผู้ป่วย  โครงการ ” ร่วมต่อลมหายใจให้แก่เพื่อนมนุษย์ ”   รายที่  226 พื้นที่ บ้านส้มเฟือง  ต.บางด้วน อ.ปะเหลียน  จ.ตรัง

ศึกษาดูงาน.    เลิศรัตน์ รัตนวานิช ประธานคณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น วุฒิสภา, ศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา, เพ็ญพักต์ ศรีทอง รองประธานกรรมาธิการฯ, คณะกรรมาธิการฯ,  ลงพื้นที่ ศึกษาดูงานเกี่ยวกับการบำรุงศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น โดยมี ต่วนอับดุลเล๊าะ  ดาโอ๊ะมารียอ อดีตวุฒิ จ.ยะลา และโอฬาร บิลสัน ปลัดจังหวัดให้การต้อนรับ ณ บ้านดาโต๊ะบูลียอ ต.โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา

ยินดีด้วย.  อะหมัด รามันห์สิริวงศ์ กรรมการสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย และผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ จ.ยะลา และทีมงาน ให้การต้อนรับ อมร ชุมช่วย นายอำเภอยะหา ที่เดินทางไปรับตำแห่งนายอำเภอเบตง ณ ศาลาประชาคม อ.เบตง จ.ยะลา

ส่งเสริมศาสนา.   มุขตาร์ มะทา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา เป็นประธานพิธีปิดและมอบเกียรติบัตรโครงการส่งเสริมการจัดการกิจกรรมทำนุบำรุงศาสนา กิจกรรมอบรมการจัดการศพตามวิถีอิสลาม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ณ ห้องประชุม สนง.คณะกรรมการอิสลาม (หลังเก่า ) อ.เมือง จ.ยะลา

กีฬาคนพิการ.   อำพล พงศ์สุวรรณ ผวจ.ยะลา เป็นประธานเปิดกีฬาฟื้นฟูศักยภาพคนพิการ เชื่อมความสัมพันธ์สามจังหวัดชายแดนใต้ ครั้งที่ 1 โดยทางชมรมกีฬาคนพิการจังหวัดยะลาจัดขึ้น เพื่อพัฒนาศักยภาพคนพิการทางด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญาและสังคม  ณ อาคารโรงฝึกกีฬาอเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตยะลา อ.เมือง จ.ยะลา

แก้ปัญหา.  อัมรันท์ บากา นายอำเภอกาบัง จ.ยะลา พร้อมด้วยทีมงาน ลงพื้นที่ หมู่ที่ 4 บ้านคชศิลา ต.บาละ อ.กาบัง จ.ยะลา เพื่อแก้ปัญหาเรื่องถนนที่ถูกน้ำกัดเซาะ ชำรุดเสียหาย สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนในการเดินทาง และนำผลผลิตออกสู่ตลาด โดยสั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งดำเนินการซ่อมแซมโดยเร็ว

ศอ.บต.ห่วงใย.   พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. มอบหมายให้ กนกรัตน์ เกื้อกิจ ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. พร้อมส่วนงานที่เกี่ยวข้อง เยี่ยมเจ้าหน้าที่ อส.ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการถูกแนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดนซุ่มยิงได้รับบาดเจ็บ ณ รพ.ปัตตานี

ประชุมใหญ่.    พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ร่วมงานประชุมสมาคมไหหลำแห่งประเทศไทย ที่ จ.ยะลา โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา และ เฉลิมพล เรืองเริงกุลฤทธิ์ รองนายก อบจ.ยะลา ร่วมด้วย