ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์กรณี ติดสิ่งเสพติด ลักวิ่งชิงปล้น ข่มขืน ทำร้ายผู้อื่น ไปจนถึงขั้น ’ไล่ฆ่ากลางเมือง!!“ หรือ ’รวมแก๊งฆ่าผู้อื่น!!“ ก็มีทั้งนั้น!!…
เหตุการณ์ชวนให้ช็อกที่เกิดขึ้นโดย ’พฤติกรรมเหี้ยมโหด!!“ ของ “วัยรุ่น-เยาวชน-เด็ก” นั้น กับเหตุการณ์แบบที่เป็นกรณีครึกโครมในเมืองไทย 2-3 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ จริง ๆ ก็มิใช่เพิ่งจะเกิดครั้งแรก ๆ…ในอดีตที่ผ่านมาก็เคยเกิด เพียงแต่ “นับวันดูจะยิ่งร้ายแรงน่ากลัวสำหรับสังคมไทยมากขึ้น” ซึ่งรวมถึงกรณีที่มีการรวมตัวกัน ’เป็นกลุ่ม-เป็นแก๊ง“ ซึ่งพฤติกรรมนี้ไม่เพียงทำให้สังคมไทย “ช็อก!!” แต่ยัง “เกิดคำถาม??” เพราะหลายคนมองว่า… ’พฤติกรรมโหด“ เช่นนี้…
คงจะ ’ไม่ได้เกิดขึ้นปุบปับชั่วข้ามคืน“
แต่ ’น่าจะมีสภาวะแวดล้อมบ่มเพาะ“
จนที่สุด ’ถึงขั้นก่อเกิดยุวอาชญากร!!“
ทั้งนี้ เรื่องแบบนี้-กรณีเช่นนี้ กับการวิเคราะห์ถึง “ปมปัญหา” นั้นก็มี “เสียงสะท้อน” ผ่าน “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” มาจากทาง รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม และกุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและวัยรุ่น ที่ชวนให้สังคมไทยร่วมหาคำตอบ โดย รศ.นพ.สุริยเดวระบุว่า… ปัญหาการใช้ความรุนแรง ที่ทำให้สังคมช็อก ที่เกิดต่อเนื่องในไทยยุคนี้ น่าจะมีต้นเหตุส่วนหนึ่งมาจาก ’ระบบนิเวศเยาวชนกำลังอยู่ในขั้นโคม่า“ สาเหตุจาก ’สภาพแวดล้อมรอบตัวเด็กมีปัญหา“
และกับการที่ระบบนิเวศเยาวชนกำลังอยู่ในขั้นโคม่าที่ว่านี้ ก็ได้มีการแจกแจงขยายความมาว่า… ส่วนหนึ่ง ’สถาบันครอบครัว“ คงจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เนื่องเพราะเป็น ตัวกระตุ้นแรกที่ทำให้เกิดปัญหา และลำดับต่อมาคือ ’สถาบันการศึกษา“ ที่ปัจจุบันพบว่า… ไม่เพียงมีปัญหาด้านคุณภาพการเรียนการสอน แต่ภายใต้ระบบก็ยังมีจุดอ่อนมากมายจนทำให้สถาบันการศึกษา หรือโรงเรียน ไม่สามารถเป็นแหล่งบ่มเพาะเยาวชนที่ดี-มีคุณภาพ ได้ และสุดท้ายคือ ’สถาบันชุมชน“ ซึ่งการที่ เด็ก ๆ ใช้ชีวิตเติบโตมาในชุมชนที่ไม่มีการพึ่งพากัน-ไม่สามารถดูแลช่วยเหลือกันได้ นั้น ส่งผลให้…
’ป่วย…จากระบบนิเวศชีวิตที่โคม่า!!“
ผอ.ศูนย์คุณธรรม ยังสะท้อนถึงผลพวงของ “ระบบนิเวศชีวิตที่โคม่า” ผ่าน “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” มาอีกว่า… เมื่อนิเวศรอบตัวเด็ก ๆ ตกอยู่ในสภาวะโคม่า…นี่ก็จึงทำให้เด็กที่โตมาในนิเวศแบบนี้กลายเป็นคนป่วยตามไปด้วย จนทำให้มีคำถามตามมาว่า… ถ้าสังคมไทยช่วยกัน “ฟื้นระบบนิเวศชีวิตให้กลับมาดีขึ้น” จะช่วยให้ “ปัญหาความรุนแรงลดลง” หรือไม่??…
’คงจะตอบชัดเจนไม่ได้ว่าจะช่วยให้ปัญหาลดลงรวดเร็วหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ นิเวศรอบตัวเด็กดี ก็ย่อมเป็นกำแพงที่ป้องกันไม่ให้เด็กใช้ความรุนแรงได้ง่ายขึ้น เพราะการที่เด็กเติบโตท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ห้อมล้อมไปด้วยความรัก ความอบอุ่น ความไว้วางใจ นี่ก็จะช่วยดึงสติ และทำให้เด็กเลือกตัดสินใจทำอะไรผิด ๆ ได้ยากขึ้น“
นี่จะเป็น “ผลดี” จาก “นิเวศชีวิตที่ดี”
ในทางกลับกัน ถ้าเด็ก ๆ ต้องเติบโตขึ้นและใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ “นิเวศที่ป่วยโคม่า” กรณีนี้ก็จะ “ส่งผลให้เด็กไร้ซึ่งสัมพันธภาพที่ดี” ทั้งต่อครอบครัว-พ่อแม่ ทั้งต่อโรงเรียน-สถาบันการศึกษา รวมไปถึงต่อชุมชนและสังคม ซึ่งการที่เด็กหรือเยาวชน ’ขาดฮีโร่ที่ดี-
ที่เป็นต้นแบบ“ ในทุก ๆ ระดับทางสังคม…ก็จึงทำให้ เด็ก เยาวชน ’เปิดรับพฤติกรรมเชิงร้าย“ และ ’พลังคิดเชิงลบ“ ได้ง่ายขึ้น จนนำไปสู่ปัญหาอื่น ๆ ตามมามากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือการ “เสพติดความรุนแรง!!”
ส่วน “ข้อเสนอแนะ” เพื่อ “ลดปัญหา” เรื่องนี้ทาง ผอ.ศูนย์คุณธรรม ระบุว่า… อยากเสนอให้นำเรื่อง ’ครอบครัวพลังบวก“ และ ’ระบบพี่เลี้ยงชุมชน“ มาใช้ เนื่องจากมองว่าแนวคิดลักษณะนี้สามารถนำไปขยายผลได้ โดยมีการยกตัวอย่าง “ระบบพี่เลี้ยงชุมชน” ว่า… เป็นระบบที่สามารถทำได้ด้วยฝีมือคนในชุมชนกันเอง ด้วยการอัปสกิลให้คนในชุมชนรู้จักการเฝ้าระวัง กับเป็นพี่เลี้ยงที่ให้คำปรึกษากับเด็กและเยาวชนในชุมชน ซึ่งจะ ช่วยทำให้ระบบนิเวศรอบตัวเด็กดีขึ้น นอกจากนั้น แนวทางนี้ยัง ช่วยให้พ่อแม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม อย่างไรก็ดี ระบบนี้ ’ทุกคนต้องมีส่วนร่วมเท่ากัน“…
ระบบจึงจะ ’ทำงานได้มีประสิทธิภาพ“
จนถึงขั้น ’สร้างความเปลี่ยนแปลงได้“
ทั้งนี้ รศ.นพ.สุริยเดว ย้ำว่า… การที่เด็กใช้ความรุนแรง เพราะไม่มี ตัวอย่างดี ๆ ฮีโร่ดี ๆ ให้เห็น แม้บางคนจะบอกว่าตัวอย่างดี ๆ มีเยอะแยะ แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า… ตัวอย่างเหล่านั้น ไม่ค่อยถูกให้ความสำคัญ ไม่ค่อยถูกให้น้ำหนัก ยิ่งลงลึกก็จะพบว่า… เวลานี้แทบทุกโครงสร้างในสังคมมีปัญหาเหมือนกันหมด นี่จึงทำให้ ระบบนิเวศรอบตัวเด็กไร้พลังที่จะสร้างแรงกระเพื่อมที่จะช่วยส่งพลังดี ๆ ถึงกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งเมื่อโครงสร้างทางสังคมอยู่ในสภาวะอ่อนแอ ก็ทำให้การใช้ความรุนแรงเพื่อให้ตัวเองมีอำนาจเหนือกว่าคนอื่น ๆ จึงเป็นวิธีที่ง่ายในมุมมองของเด็กหลายคน …นี่ก็จึงไม่แปลกอะไรที่…
ไทยยุคนี้ ’แก๊งวัยรุ่นผุดราวดอกเห็ด“
ซ้ำยัง ’ร้ายกว่าที่เคยมีในยุคอดีต“…
พฤติกรรมร้าย ’ถึงขั้นรุมฆ่าโหด!!“.
