หลังจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ประกาศรับรองคณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย ชุดใหม่ นำโดย นายสมชาย พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมฯ ซึ่งทีมงานมีนักกีฬาชื่อดังอย่าง ร้อยเอกหญิง ชนาธิป ซ้อนขำ เป็นผู้ช่วยเลขาธิการ รวมถึง “โค้ชเช” นายชัชชัย เช หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทยชาวเกาหลีใต้ เป็นกรรมการฝ่ายเทคนิคนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งฯ นำโดย นางสาวทิรา บุญญานี กิตติกรณ์ อุปนายก และ”โค้ชเอก” นายเอกรินทร์ ทองมา ผู้ฝึกสอนคิกบ็อกซิ่งทีมชาติไทย ประเภททาทามิ, “จิมมี่” พิฆเนศ สุขหยิก นักกีฬาคิกบ็อกซิ่งสตาร์ดังของไทย พร้อมทีมงานไปจัดสาธิตการแข่งขันกีฬาคิกบ็อกซิ่งระหว่างการแข่งขันกีฬานักเรียน นักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 43 ประจำปี 2567 “กระบี่เกมส์” ระหว่างวันที่ 22-30 ม.ค. 67 ที่ จ.กระบี่ เพื่อเป็นก้าวแรกสู่การผลักดันกีฬาคิกบ็อกซิ่งของประเทศไทย ได้รับการบรรจุแข่งขันในกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 44 ในปี 2568 ซึ่งมี จ.ขอนแก่น เป็นเจ้าภาพ
สำหรับการสาธิตการแข่งขันกีฬาคิกบ็อกซิ่งระหว่างการแข่งขัน “กระบี่เกมส์” นั้น จัดขึ้นทั้งประเภทริงและทาทามิ โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใน โดยประเภทริง จัดที่โรงยิมมวย ม.การกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตกระบี่ ส่วนประเภททาทามิ จัดขึ้นที่อาคารอเนกประสงค์ในร่ม รร.อำมาตย์พานิชนุกูล ท่ามกลางความสนใจของนักกีฬา นักศึกษา และเจ้าหน้าที่อย่างคึกคักทั้ง 2 แห่ง
“บิ๊กสมชาย” นายสมชาย พูลสวัสดิ์ เปิดเผยว่า หลังจาก กกท. ให้การรับรองสถานภาพของตัวเองในการดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ ก็ได้คิดวางแผนเดินหน้าพัฒนาวงการคิกบ็อกซิ่งไทยทันที ซึ่งหลักการสำคัญในการไปสู่เป้าหมายได้คือ ต้องเริ่มจากการให้ความรู้เรื่องกีฬาคิกบ็อกซิ่ง ให้แพร่หลายในเมืองไทย ทั้งเยาวชนและประชาชน เมื่อทุกคนรู้กฎ กติกา การแข่งขันคิกบ็อกซิ่งแล้วก็จะเกิดความอยากที่จะมาเรียน มาอบรม มาสนใจฝึกฝนกีฬาคิกบ็อกซิ่งกันเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งนั่นเป็นที่มาที่เราต้องไปเปิดการสาธิตการแข่งขันกีฬาคิกบ็อกซิ่ง ระหว่างการแข่งขันกีฬานักเรียน นักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 43 ประจำปี 2567 “กระบี่เกมส์” ระหว่างวันที่ 22-30 มกราคม เพื่อเป้าหมายเบื้องต้นในการขยายฐานการเล่นคิกบ็อกซิ่งให้แพร่หลายในหมู่นักเรียน หรือนักศึกษา และเป้าหมายของเราคือ การได้รับการบรรจุเข้าร่วมชิงชัยในกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 44 ที่ จ.ขอนแก่น ในปีหน้า ซึ่งมี กรมพลศึกษา เป็นเจ้าของเกมการแข่งขัน นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังมองไปถึงการผลักดันให้กีฬาคิกบ็อกซิ่ง เป็นหนึ่งในชนิดกีฬาที่บรรจุแข่งขันในกีฬากีฬาเยาวชนแห่งชาติและกีฬาแห่งชาติ ที่มีการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นเจ้าของเกมด้วย
นายสมชาย กล่าวต่อว่า เราต้องวางรากฐานของสมาคมฯ ของนักกีฬาทั่วประเทศให้แข็งแกร่งก่อน จากนั้นจะมองไปทีละสเต็ปในการผลักดันกีฬาคิกบ็อกซิ่ง ให้แพร่หลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยต้องเริ่มจากการสร้างการรับรู้ของนักกีฬา สร้างสมาชิกของสมาคมเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบุคคล หรือนิติบุคคล เราต้องมีสมาชิกในวงกว้าง คิกบ็อกซิ่งก็เป็นชนิดกีฬาต่อสู้ชนิดหนึ่งเหมือนเช่น เทควันโด, ยูโด, มวยไทย ที่เขาเริ่มกันมานาน
ส่วนในระดับการพัฒนานักกีฬาคิกบ็อกซิ่งไทยไปสู่ระดับนานาชาตินั้น เราต้องมีคนไปร่วมเป็นกรรมการบริหารในสหพันธ์อาเซียน, เอเชีย หรือระดับโลก ส่วนการแข่งขันระดับนานาชาตินั้น ปัจจุบันเรามีบรรจุในซีเกมส์อยู่แล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะผลักดันให้คิกบ็อกซิ่ง ได้รับการบรรจุในเอเชียนเกมส์ ก่อนที่จะมองไปถึงระดับโลกอย่างโอลิมปิกเกมส์ ในอนาคต
“สมาคมฯ มีกำหนดประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ชุดใหม่ เป็นครั้งแรก ในวันศุกร์ที่ 2 ก.พ.นี้ ที่โรงแรมเอบีน่า เฮ้าส์ ซอยวิภาวดี 64 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งจะหารือกับคณะกรรมการบริหารฯ ทุกคนถึงแนวทางการพัฒนาและยกระดับคิกบ็อกซิ่งในเมืองไทย เพื่อให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น” บิ๊กสมชาย กล่าว