เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่นับถือ

ผมอายุ 68 ปี ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง มาเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว ไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและรับยามากินตามกำหนดนัดไม่เคยขาด เมื่อไม่นาน มานี้ผมมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก หายใจได้ไม่เต็มที่ แพทย์ตรวจอย่างละเอียดแล้วบอกว่า หลอดเส้นเลือดแดงแข็งและตีบ หลังจากที่เข้ารับการรักษาอาการได้ไม่นาน เกิดปัญหาทางด้านสมรรถภาพทางเพศขึ้นมา คือไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้เลย อวัยวะเพศไม่ยอมแข็งตัวเต็มที่เหมือนเดิม แต่ใจยังมีความต้องการทางเพศอย่างเหลือล้น จึงอยากถามคุณหมอโอว่า โรคเส้นเลือดแดงแข็งส่งผลทำให้อวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวได้หรือไม่ เพราะหลังจากที่เป็นโรคนี้แล้วอวัยวะเพศของก็แข็งตัวได้ไม่เต็มที่มาตลอดเลย และจะแก้ไขได้อย่างไรบ้างครับ

ด้วยความนับถือ
จิรเดช 68

ตอบ จิรเดช 68

ชายวัย 68 ปี ป่วยเป็นความดันโลหิตสูงมาเป็นเวลานานหลายปี จนเกิดโรคหลอดเลือดแดงแข็ง ซึ่งโรคหลอดเลือดแดงแข็ง เป็นโรคที่มีการหนาตัวของผนังหลอดเลือดจากการสะสมของไขมันและการอักเสบของผนังก่อให้เกิดหินปูน ซึ่งการแข็งตัวนี้ทำให้เกิดการตีบของหลอดเลือด และส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนปลายน้อยลง อีกทั้งยังเป็นสาเหตุของการเกิดของภาวะเส้นเลือดแดงโป่งพอง โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลาย และภาวะการอุดตันของเส้นโลหิตอีกด้วย และภาวะนี้จะแสดงออกกับเส้นเลือดขนาดเล็ก เช่น เส้นเลือดบริเวณองคชาตก่อนที่อาการจะลุกลามไปยังเส้นเลือดขนาดใหญ่ เช่น เส้นเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงหัวใจ และสมอง เป็นต้น

ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ที่มีความเครียด โรคซึมเศร้า ผู้ที่มีปัจจัยทางพันธุกรรมในครอบครัวที่มีประวัติเกี่ยวกับโรคหัวใจ ผู้ที่มีโรคไขมันในเลือดสูง ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ผู้ที่มีปัญหาน้ำหนักตัว หรือโรคอ้วน และผู้ที่สูบบุหรี่จัด ดังนั้นผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับหลอดเลือดนั้นมักจะมีอาการอีดีตามมาภายหลัง เนื่องจากเลือดไม่สามารถไหลเข้าไปในเส้นเลือดแดงที่องคชาตได้เต็มที่ การแข็งตัวขององคชาตจึงลดลง

ปัจจุบันมีวิธีการรักษาอาการอีดีในผู้ที่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยไม่ต้องใช้ยากลุ่มพีดีอี 5 ไอ มีผลทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตในผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าวที่ได้รับยากลุ่มไนเตรต มีวิธีรักษาด้วยการใช้ยาฉีด หรือการใช้คลื่นเสียงความถี่ต่ำเพื่อไปกระตุ้นให้เกิดกระบวนการสร้างเส้นเลือดขึ้นมาใหม่ที่องคชาตวิธีนี้จะต้องทำต่อเนื่องกันเป็นเวลา 6 สัปดาห์ คนไข้จะต้องมีความอดทนและมีวินัย วิธีนี้ไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ และปลอดภัยสูง วัย 68 ปี ยังเป็นวัยที่แข็งแรงแข็งขันได้ดี ปัจจุบันแม้แต่วัย 80 ปี ก็ยังเป็นวัยที่ฟื้นฟูทางเพศได้อย่างดี ดังนั้นหากท่านพบกับปัญหานี้ควรเข้ารับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญโดยด่วน.