วันที่ 23 ม.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร จ.ระนอง ได้เห็นชอบข้อเสนอของกลุ่มจังหวัดภาคใต้อันดามันประกอบด้วยจังหวัดกระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล จำนวน 18 โครงการ วงเงินรวม 552 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการภาครัฐ 13 โครงการ วงเงิน 350 ล้านบาท และโครงการภาคเอกชน จำนวน 5 โครงการ วงเงิน 202 ล้านบาท โดยให้ใช้งบประมาณไปพลางก่อนของปี 66
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า สองโครงการตามข้อเสนอของเอกชนอันดามันที่ ครม. ตัดนั้นไม่ได้หายไปไหน แต่จากการตรวจสอบข้อมูลจากสำนักงบประมาณ พบว่า โครงการเป็น โครงการท่าเรือมาเนาะห์+ช่องหลาด เกาะยาวใหญ่น้อย เพื่อการท่องเที่ยวจังหวัดพังงาวงเงิน 175 ล้านบาท ได้เสนอของบประมาณ 67 มาแล้ว ส่วนโครงการยกระดับและพัฒนาศักยภาพระบบการแพทย์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน จังหวัดกระบี่ วงเงิน 70 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการผูกพัน 3 ปี วงเงินรวมราว 300 ล้านบาท ให้เสนอขอเข้ามาในปีงบประมาณ 68 เพราะยังมีเวลาเพียงพอในการยื่นขอจัดสรรงบประมาณ จึงไม่ได้ใช้งบประมาณ 66 ในการจัดทำสองโครงการนี้
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการสำคัญที่มีความพร้อมและดำเนินการแล้วเสร็จใน 1 ปี รวม 13 โครงการ ที่ ครม. เห็นชอบ ได้แก่ โครงการกลุ่มจังหวัดอันดามัน 2 โครงการ วงเงิน 50 ล้านบาท แยกเป็น โครงการผนึกกำลังผู้ประกอบการทางการค้ากับเศรษฐกิจท่องเที่ยวอันดามันเชิงสร้างสรรค์ 33.2 ล้านบาท โครงการมารีน่าชุมชน ยกระดับคุณภาพ โครงสร้างพื้นฐานเพื่อเรือท่องเที่ยวชุมชนทะเลอันดามัน 16.8 ล้านบาท
โครงการรายจังหวัดที่จัดสรรให้จังหวัดละ 50 ล้านบาท ได้แก่ จ.สตูล 3 โครงการ ได้แก่ โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยแบบครบวงจร เทศบาลตำบลกำแพง 19.9 ล้านบาท โครงการติดตั้งท่าเทียบเรือลอยน้ำบริเวณ อ่าวประมง เกาะหลีเป๊ะ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา 12.9 ล้านบาท โครงการถนนบนคันคลองส่งน้ำแอลเอ็มซีฝ่ายดุสน ต.ควนโดน อ.ควนโดน 17.19 ล้านบาท, จ.กระบี่ 1 โครงการ ได้แก่ โครงการเพิ่มศักยภาพการบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินของเมืองท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ จัดซื้อครุภัณฑ์การแพทย์ประกอบ ห้องปฏิบัติการตรวจหัวใจและการฉีดสีสวนหลอดเลือดหัวใจ ปรับปรุงห้องผ่าตัด และพื้นที่บริเวณห้องผ่าตัดโรงพยาบาลคลองท่อม วงเงิน 50 ล้านบาท
จ.ภูเก็ต 2 โครงการ ได้แก่ โครงการปรับปรุงฟื้นฟูพื้นที่ฝังกลบขยะมูลฝอย ณ ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลนครภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต 35 ล้านบาท โครงการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก คลองบางใหญ่ เฟส 2 ภายในโรงเรียนสตรีภูเก็ต 15 ล้านบาท, จ.ตรัง 2 โครงการ 50 ล้านบาท ได้แก่ โครงการปรับปรุงท่าเทียบเรือควนตุ้งกู 25 ล้านบาท โครงการการขับเคลื่อนจังหวัดตรังสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร “Trang Gastronomy and Creative City” เพื่อเข้าร่วมเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ องค์การยูเนสโก 25 ล้านบาท จ.พังงา 2 ได้แก่ โครงการท่าเทียบเรืออัจฉริยะจังหวัดพังงา 42 ล้านบาท โครงการติดตั้งระบบดับเพลิง พร้อมระบบท่อน้ำดับเพลิง ขององค์การบริหารส่วนตำบลเกาะปันหยี 7.5 ล้านบาท และจ.ระนอง 1 โครงการ 50 ล้านบาท ได้แก่ โครงการปรับปรุงถนนและระบบสาธารณูปโภคพร้อมปรับภูมิทัศน์ถนนจัดสรรพัฒนา ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง
ส่วนโครงการตามข้อเสนอภาคเอกชนกลุ่มจังหวัดอันดามัน 5 โครงการ ได้แก่ โครงการปรับปรุงและยกระดับโครงสร้างพื้นฐานถนนท่องเที่ยวชุมชน เกาะยาว จังหวัดพังงา วงเงิน 55 ล้านบาท, โครงการวางท่อขยายเขตจำหน่ายน้ำถนนนาเกาะ-บางโจ ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต วงเงิน 10.8 ล้านบาท, โครงการปรับปรุงท่าเรือระนอง-เกาะสองเพื่อการท่องเที่ยวและสัญจร ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง วงเงิน 70.5 ล้านบาท, โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและวิถีชุมชน จังหวัดสตูล วงเงิน 20.789 ล้านบาท วงเงินรวม 447.09 ล้านบาท, โครงการพัฒนาศูนย์เรียนรู้อนุรักษ์ฟื้นฟูพะยูนและสัตว์ทะเลหายาก จังหวัดตรัง ระยะสอง วงเงิน 45 ล้านบาท
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า จากข้อเสนอของกลุ่มจังหวัดภาคใต้อันดามันซึ่งผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ (กรอ.) กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 67 ที่มีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การต่างประเทศเป็นประธาน ได้มีข้อสรุปจะเสนอโครงการของพื้นที่ รวมทั้งสิ้น 20 โครงการ วงเงินรวม 797 ล้านบาท ต่อที่ประชุมครม.สัญจร พิจารณาวันที่ 23 ม.ค. 67 แต่ถูกตัดเหลือ 18 โครงการ