โดย “จุดโฟกัสน่าสนใจ” ที่เรียกเสียงฮือฮามากเป็นพิเศษคือปีนี้กองทัพ 2 ประเทศจะเน้นหนักการ ฝึกเพื่อรับมือ “สงครามไซเบอร์-สงครามอวกาศ” ซึ่งเรื่องนี้ยิ่งตอกย้ำให้เห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่า… “สมรภูมิในอวกาศ” นั้น…
“ไม่ใช่แค่นิยายวิทยาศาสตร์” อีกแล้ว
แต่ “มีแวว-มีท่าทีใกล้เป็นความจริง?”
กับแนวโน้มที่โลกในอนาคตอาจจะมีสถานการณ์ “สเปซวอร์” หรือ “สงครามอวกาศ” นั้น เรื่องนี้ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ก็เคยได้มีการนำการวิเคราะห์ บทวิเคราะห์โดยผู้สันทัดกรณี ทั้งด้านอวกาศ และด้านยุทธศาสตร์การทหาร มาสะท้อนเอาไว้หลาย ๆ ครั้ง ซึ่งการสะท้อนเรื่องนี้ก็มิใช่ว่าจะทำให้ตระหนกตกใจ เป็นแต่เพียงนำเสนอให้คนไทยตื่นตัวติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อจะได้ตั้งรับปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ เพราะโลกยุคใหม่เรื่อง “ปรากฏการณ์อวกาศ” ไม่ได้ผูกโยงแค่เรื่องความเชื่อ-โหราศาสตร์แต่เกี่ยวพันชีวิตประจำวันของผู้คน จากการที่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
“ปรากฏการณ์อวกาศ” จึงน่าติดตาม
ก็เฉกเช่น “สถานการณ์ดาราศาสตร์”
ทั้งนี้ กับมุม “สงครามอวกาศ” ที่ไทยก็จะฝึกรับมือ…ก็ว่ากันไป ส่วนมุม “สถานการณ์ดาราศาสตร์” ที่ล่าสุดทีมนักดาราศาสตร์นานาชาติพบ “วัตถุอวกาศปริศนา” ที่อาจเป็น “หลุมดำที่เล็กที่สุด” หรือ “ดาวนิวตรอนที่ใหญ่ที่สุด” เท่าที่เคยค้นพบ…นี่ก็น่าตามดูว่ายังไงแน่?? และมุมดาราศาสตร์นี่ก่อนหน้านี้ NARIT หรือ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ก็รวบรวม “ประเด็นน่าติดตาม ปี 2567” เผยแพร่ไว้ผ่านเฟซบุ๊กเพจของสถาบันฯ ซึ่งประเด็นต่าง ๆ นั้น โดยสังเขปก็มีดังต่อไปนี้…
“ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์” ที่เด่น ๆ ปีนี้ ได้แก่… ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้และไกลโลก โดย 24 ก.พ. ตรงกับวันมาฆบูชา จะเป็นวันที่ดวงจันทร์เต็มดวงอยู่ไกลโลกที่สุด (Micro Full Moon) ขณะที่วันที่ 17 ต.ค. ดวงจันทร์เต็มดวงจะใกล้โลกที่สุด (Super Full Moon), ดาวเคราะห์ใกล้โลก โดยวันที่ 8 ก.ย. ดาวเสาร์จะใกล้โลกที่สุด และวันที่ 8 ธ.ค. ดาวพฤหัสบดีจะใกล้โลกที่สุด, ดวงจันทร์บังดาวเสาร์ ครั้งที่ 1 วันที่ 25 ก.ค. ครั้งที่ 2 วันที่ 15 ต.ค., ดาวเคียงเดือน วันที่ 8 ก.พ. ดาวอังคาร ดาวศุกร์ จะเรียงตัวเคียงดวงจันทร์ ส่วนวันที่ 6-7 เม.ย. ดาวอังคาร ดาวเสาร์ ดาวศุกร์ จะเรียงเคียงดวงจันทร์ และนอกจากนั้นยังมี ดาวเคราะห์ชุมนุม วันที่ 27 ม.ค. 23 ก.พ. 22 มี.ค. 11 เม.ย. 14 ส.ค. นี่เป็นปรากฏการณ์สำคัญทางดาราศาสตร์ปีนี้
ขณะที่ “ภารกิจสำรวจอวกาศ” ที่สำคัญ ที่น่าสนใจในปีนี้นั้น ประกอบด้วยภารกิจต่าง ๆ ได้แก่… ภารกิจ Artemis II โดย NASA ได้ เตรียมส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์อีกครั้ง ในรอบกว่า 50 ปี, ยาน Europa Clipper โดย NASA จะ สำรวจดวงจันทร์ยูโรปา ของดาวพฤหัสบดี,ยาน MMX จะไป สำรวจดวงจันทร์ของดาวอังคาร โดย JAXA, ยาน Hera โดย ESA จะไป สำรวจดาวเคราะห์น้อย Didymos-Dimorphos …นี่เป็นภารกิจสำคัญในปี 2567 ด้านการสำรวจอวกาศโดยมนุษย์โลก
ทั้งนี้ ขยับใกล้ตัวคนไทยขึ้นอีก… “ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวกับประเทศไทย” ที่น่าสนใจในปีนี้ ก็มีปรากฏการณ์-ภารกิจทางดาราศาสตร์น่าติดตามหลายเรื่อง อาทิ… การ เตรียมติดตั้งเครือข่ายกล้อง โทรทรรศน์วิทยุแบบวีกอส (VGOS) ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 13 เมตร ที่เชียงใหม่ และสงขลา, การ เตรียมปล่อย NARIT Cube-1 ดาวเทียม CubeSat ฝีมือคนไทย ที่มีแผนจะปล่อยสู่อวกาศภายในปี 2567 นี้, การ เตรียมเผยโฉม TSC-1 พร้อม Payload ดาวเทียมวิจัยวิทยาศาสตร์ ภายใต้ภาคีความร่วมมืออวกาศไทย ที่มีแผนจะประกอบขึ้นในห้องปฏิบัติการ Clean Room ณ อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร เชียงใหม่
ทางด้าน “ความร่วมมือด้านการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ” ในปีนี้ ไทยก็มี โครงการความร่วมมือไทย-จีน เพื่อพัฒนาขีดความสามารถคนไทยด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสำรวจอวกาศเชิงลึก รวมถึง ผลิตอุปกรณ์สำรวจสภาพอวกาศระหว่างโลกและดวงจันทร์ ที่จะถูกนำเอาไปติดตั้งให้ไปกับยานฉางเอ๋อ 7 ของจีน โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาเชิงวิศวกรรมร่วมกันระหว่าง 2 ประเทศ ในขณะที่จีนเองก็มีแผนจะส่งยานอวกาศไปสำรวจดวงจันทร์ภายในปี 2569
นี่เป็น “ความก้าวหน้าด้านอวกาศ”
ที่ “ไทยก็มีความก้าวหน้าน่าตามดู”
และกับ “ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ” เช่นกันกับไทยในปีนี้ก็ยังมีเรื่องการ ขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด ที่เป็นความร่วมมือระหว่าง NARIT ททท. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่ร่วมกันผลักดันให้พื้นที่ต่าง ๆ ร่วมเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดเพื่อเป็น “แหล่งท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์” แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันไทยมีพื้นที่อนุรักษ์ท้องฟ้ามืดแล้ว 30 แห่ง และอีกเรื่องที่ก็น่าสนใจคือการ ก่อสร้างหอดูดาวภูมิภาคสำหรับประชาชน แห่งที่ 5 ของไทย ที่พิษณุโลก ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จก็จะเป็นศูนย์เรียนรู้ดาราศาสตร์ที่สำคัญของภาคกลางตอนบนสำหรับประเทศไทย…
เหล่านี้คือเรื่อง “ดาราศาสตร์-อวกาศ”
คือ “ประเด็นที่น่าสนใจในปี 2567” นี้
ที่ “ไทย-คนไทย…มิใช่แค่รอดูอีกแล้ว”.