เมื่อเวลา 17.20 น. วันที่ 22 ม.ค. ที่ ห้องพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 2 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้ควบคุมตัวนายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า มาส่งให้กับ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าพนักงานสอบสวน ทำการสอบปากคำ ซึ่งประเด็นในการสอบปากคำเบื้องต้นนั้น พนักงานสอบสวนจะสอบถามข้อมูลส่วนตัว พฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับหมายจับ เช่น ความเป็นมาของการประกอบธุรกิจส่งขายตีนไก่ไปจำหน่ายต่างประเทศ ขั้นตอนการดำเนินธุรกิจ หุ้นส่วนทางการค้า บริษัทชิปปิ้งเอกชนที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับไปใช้ในการขยายผล
ดีเอสไอคุม ‘เฮียเก้า’ สวมสิทธิตีนไก่เถื่อนสอบเข้ม ยังปฏิเสธ-อุบตอบสัมพันธ์ ‘เฉลิมชัย’
พ.ต.ต.ณฐพล ออกมาเปิดเผยว่า วันนี้นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า ได้เดินทางกลับจากประเทศจีนมายังท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อเข้ามอบตัวต่อสู้คดี ซึ่งในการสอบปากคำเบื้องต้น เฮียเก้าให้การปฏิเสธ พร้อมระบุว่าจะนำข้อมูลและหลักฐานมามอบให้พนักงานสอบสวนในภายหลัง ส่วนประเด็นที่จะต้องสอบถามเฮียเก้าในวันนี้ จะเกี่ยวข้องกับการที่เฮียเก้าและพวกร่วมกันกระทำความผิดตามข้อหาที่ได้แจ้งไป เช่น การขายส่งตีนไก่ไปยังประเทศจีน การโอนเงินระหว่างเฮียเก้าและบุคคลอื่น รวมถึงเรื่องผังสมาชิกของสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชีย (Thai-Asia Economic Exchange Trade Association) โดยเราได้ตั้งประเด็นไว้ 30 คำถาม ซึ่งก็เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้อหาในหมายจับ รวมถึงประเด็นของบริษัทห้องเย็น บริษัทชิปปิ้งเอกชนอีกด้วย โดยดีเอสไอจะสอบทั้งหมด นอกจากนี้ เฮียเก้ายังระบุด้วยว่าเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา เจ้าตัวได้เดินทางไปประเทศจีนเพื่อดำเนินธุรกิจแพมเพิร์สที่เจ้าตัวบริหารอยู่ แต่พอทราบข่าวว่าดีเอสไอมีการออกหมายจับ จึงประสานให้ทนายความแจ้งมายังดีเอสไอว่าจะขอเข้ามอบตัว ส่วนนายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ บุตรชายของเฮียเก้า เบื้องต้นเฮียเก้าระบุว่าได้ติดต่อไปยังลูกชายแล้ว แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่เฮียเก้าอ้างว่าตัวเองไม่เกี่ยวข้องกับการขายส่งตีนไก่ไปยังประเทศจีนนั้น ตอนนี้ยังคงอยู่ระหว่างการสอบปากคำต่อเนื่อง ซึ่งผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ แต่แน่นอนแล้วว่าเขารับสารภาพเรื่องการทำธุรกิจขายส่งตีนไก่ไปยังประเทศจีนจริง มีการรับส่วนต่างจากการประกอบธุรกิจดังกล่าว และตีนไก่ที่ส่งขายจีน ก็อ้างว่านำสินค้าภายในประเทศไทยรวบรวมให้ได้ตามโควตาและนำไปขาย ไม่ได้มีการสั่งนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งในเรื่องของโควตาที่เฮียเก้ามี พนักงานสอบสวนก็จะใช้ในการสอบปากคำเช่นกัน
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่า สำหรับคู่ค้าเรื่องการทำตีนไก่ส่งขายประเทศจีนของเฮียเก้า พบว่ามีหลายราย ส่วนกรณีของนายหยาง ยา ซุง และ น.ส.นวพร เชาว์วัย สองสามีภรรยา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในหมายจับเดียวกับเฮียเก้านั้น เจ้าตัวยังไม่ให้การในประเด็นนี้ แต่เราพบว่ามีความเชื่อมโยงในส่วนของพยานบางส่วน และเรายังไม่ได้มีการสอบถามในเรื่องความรู้จักกันกับนายสมเกียรติ กอไพศาล หรือเฮียเกียรติ (1 ในผู้ต้องหาที่จับกุมแล้ว) ทั้งนี้ ธุรกิจค้าขายตีนไก่ของเฮียเก้าและสองสามีภรรยา ถือว่าต่างคนต่างทำ อย่างไรก็ตาม ในวันนี้หากเสร็จสิ้นการสอบปากคำ จะให้ประกันตัวในชั้นสอบสวนหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการให้ความร่วมมือให้ปากคำว่าเป็นประโยชน์ต่อสำนวนเพียงใด และตนจึงจะเสนอเรื่องไปยัง พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รรท.อธิบดีดีเอสไอ เพื่อพิจารณา