เมื่อวันที่ 17 ม.ค. นายธีรยุทธ แก้วสิงห์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ และในฐานะโฆษกกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้พบศพ น.ส.บัวผัน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี ถูกคนร้ายฆ่าทุบศีรษะและใบหน้า และนำไปโยนทิ้งในสระน้ำบริเวณหลังปั๊มน้ำมัน ปตท.เก่า (ร้าง) ข้างโรงเรียนอนุบาลศรีอรัญโญทัย ถนนสุวรรณศร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยหลังเกิดเหตุตำรวจนำตัว นายปัญญา (ขอสงวนนามสกุล) หรือเปี๊ยก สามีผู้ตายมาสอบสวน ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย น.ส.บัวผัน จนเสียชีวิต โดยเอาเก้าอี้ฟาดศีรษะถึงแก่ความตาย แล้วเอาศพไปทิ้งบ่อน้ำ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่เทศบาลเมืองอรัญประเทศ และพบกลุ่มวัยรุ่น 5 คน กำลังรุมทำร้ายร่างกาย “ป้าบัวผัน” จนสลบ จากนั้นจึงลากตัวไปยังสนามฟุตบอลโรงเรียนเพื่อทำร้ายร่างกายซ้ำจนเสียชีวิต ก่อนนำศพไปโยนทิ้งในบ่อน้ำ เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวทั้งหมดนั้น กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงานยุติธรรมจังหวัดสระแก้ว โดย น.ส.เบญญาภา ทองสัมฤทธิ์ รักษาราชการแทนยุติธรรมจังหวัดสระแก้ว ได้ลงพื้นที่รับแจ้งสิทธิคำขอค่าตอบแทนผู้เสียหายฯ และแจ้งสิทธิในการขอรับการช่วยเหลือผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนเรียบร้อยแล้ว

นายธีรยุทธ กล่าวอีกว่า เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญและสาธารณชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งผู้เสียชีวิตเป็นผู้ถูกกระทำและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ซึ่งเข้าเกณฑ์ที่มีสิทธิได้รับการเยียวยาตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559) โดยทายาทมีสิทธิได้รับการเยียวยา (1) ค่าตอบแทนกรณีถึงแก่ความตาย จำนวน 100,000 บาท (กรณีอุจฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และสาธารณชนให้ความสนใจ) (2) ค่าจัดการศพ 20,000 บาท (3) ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู 40,000 บาท และ (4) ค่าเสียหายอื่น 40,000 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 200,000 บาท การอนุมัติเยียวยาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของอนุกรรมการจังหวัดสระแก้วเป็นสำคัญ ซึ่งกำหนดประชุมพิจารณาในวันที่ 31 ม.ค.นี้

นายธีรยุทธ กล่าวต่อว่า ส่วนการช่วยเหลือนายปัญญา หรือ ลุงเปี๊ยก (สามีของผู้ตาย) ที่ได้ถูกคุมขังก่อนที่เจ้าหน้าที่จับกุมผู้กระทำผิดตัวจริงได้นั้น มีสิทธิได้รับการเยียวยา ตามพระราชบัญญัติกองทุนยุติธรรม พ.ศ.2558 (กรณีเยียวยาผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน) อาจได้รับเงินช่วยเหลือจากที่ถูกขังในชั้นสอบสวน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ ประจำจังหวัดสระแก้ว เช่นกัน

นายธีรยุทธ กล่าวปิดท้ายว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้ช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา จำนวน 8,341 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 445,000,000 บาท และปีงบประมาณ พ.ศ.2567 (ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.66 – 12 ม.ค.67) ได้ช่วยเหลือเยียวยาแล้ว 3,405 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 170,316,046 บาท.