เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ที่ลานจอดแล้วจร สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิต นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดตัว “รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto” ของบริษัท สมาร์ท อีวี ไบค์ จำกัด ซึ่งเกิดจากแนวคิดความร่วมมือของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท วินโนหนี้ จำกัด บริษัทในกลุ่มบริษัทบางจาก เพื่อสร้างบริการขนส่งสาธารณะระบบรอง (Feeder) ที่มีความสะดวก ปลอดภัย และยกระดับรายได้ให้กับผู้เช่า หรือกลุ่มวินรถจักรยานยนต์ รวมทั้งช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางให้ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีเขียว และรถจักรยานยนต์ดังกล่าว ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนได้ 80% และลดสร้างฝุ่น PM 2.5 ด้วย ภายใต้สโลแกน “ปิ่นโต เติบโต ไปด้วยกัน” (Pinto growing together)
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริหาร และผู้อำนวยการใหญ่ สายธุรกิจ MOVE บริษัท บีทีเอส กรุ๊ปฯ กล่าวว่า หนึ่งในนโยบายสำคัญของบีทีเอส กรุ๊ปฯ คือการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะให้มีความสะดวก ปลอดภัย ไร้รอยต่อ และต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม จึงเกิดเป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto ที่จะเป็นรากฐานสำคัญ และเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มวินรถจักรยานยนต์กว่า 200 แห่งตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอส ให้มีรายได้ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จากต้นทุนพลังงานไฟฟ้าที่ถูกกว่าน้ำมัน และบริการของแบรนด์ Pinto ที่จะมอบให้กับกลุ่มวินจักรยานยนต์
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า บริษัทฯ ได้จัดแคมเปญพิเศษ ลดค่าบริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto จาก 4,500 บาทต่อเดือน เหลือเพียง 4,000 บาทต่อเดือน ซึ่งราคาดังกล่าว จะรวมถึงบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ฟรีค่าบำรุงรักษา และซ่อมแซม 1 ปี โดยวินจักรยานยนต์ที่สนใจสามารถสมัครแคมเปญพิเศษนี้ได้จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.67 ซึ่งเมื่อครบสัญญาเช่าซื้อ 5 ปี รถจะเป็นของผู้เช่า ตั้งเป้าว่าจะสามารถให้เช่าซื้อได้ 1 หมื่นคันภายใน 5 ปี อย่างไรก็ตามในระยะแรกจะนำร่องกลุ่มวินรถจักรยานยนต์ก่อน จากนั้นจะเริ่มในกลุ่มบุคคลทั่วไป อย่างไรก็ตามเข้าใจดีว่าปัจจุบันผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างอาจจะผ่อนค่างวดรถอยู่เดิม ซึ่งทางบริษัทฯ กังวลถึงปัญหานี้ จึงอยู่ระหว่างการหาวิธีการว่าจะสามารถทำอย่างไรกับรถจักรยานยนต์ที่ผู้ขับขี่ผ่อนอยู่เดิม
ด้านนายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto จะช่วยให้ชีวิตผู้ขับขี่วินมอเตอร์ไซค์ดีขึ้น ซึ่งจากการศึกษาวิจัยพบว่า ต้นทุนของผู้ขับขี่วินมอเตอร์ไซค์ อาทิ ค่างวดรถ และค่าน้ำมัน อยู่ที่ประมาณ 300-400 บาทต่อวัน ขณะที่ค่าเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto อยู่ที่ 4,000 บาทต่อเดือน เฉลี่ยวันละ 100 กว่าบาท ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ประมาณเดือนละ 4,000 บาท หรือ 48,000 บาทต่อคนต่อปี
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า การร่วมเริ่มต้นธุรกิจให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto กับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างตามแนวรถไฟฟ้าบีทีเอส จะช่วยให้ผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสมีประสบการณ์การเดินทางแบบ First Mile to Last Mile ด้วยพลังงานสะอาด คือสามารถเดินทางออกจากบ้าน จนถึงกลับเข้าบ้านด้วยการบริการขนส่งสาธารณะที่ใช้ไฟฟ้าตลอดเส้นทาง โดยวินโนหนี้ มุ่งมั่นเป็นผู้นำการให้บริการแพลตฟอร์มการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ปัจจุบันมีสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้ว 120 แห่ง และจะเพิ่มเป็น 3,000 แห่งในปี 73
ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า กทม. มีนโยบายที่จะผลักดันให้รถจักรยานยนต์รับจ้างในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 85,000 คัน ใน 5,556 วิน เปลี่ยนมาใช้เป็นรถจักรยานยนต์อีวี ซึ่งคาดว่าธุรกิจให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto จะช่วยทำให้นโยบายดังกล่าวประสบความสำเร็จได้รวดเร็วขึ้น
รายงานข่าวแจ้งว่า รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto ใช้แบตเตอรี่ 2 ก้อน สามารถวิ่งได้ประมาณ 80-120 กิโลเมตร (กม.) ขึ้นอยู่กับการใช้ความเร็ว และน้ำหนักที่บรรทุก ซึ่งผู้เช่าซื้อสามารถมาเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่สถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ 120 แห่งทั่วกรุงเทพฯ ได้ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง อย่างไรก็ตาม สำหรับคอนเซปต์ของปิ่นโต คือ แบรนด์ที่เป็นรากฐานสำคัญให้กับกลุ่มวินรถจักรยานยนต์ที่มีทั้งความมั่นคง แข็งแรง ทั้งในเรื่องรายได้ การทำธุรกิจ และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึงเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมแห่งความรัก ส่งความห่วงใย และความใส่ใจที่คนในครอบครัว หรือคนรักมอบให้แก่กัน เพราะอาหารในปิ่นโตมักเป็นอาหารที่คัดสรรมาอย่างดี ผ่านการปรุงด้วยความรัก เปรียบเสมือนความห่วงใยที่แบรนด์ “ปิ่นโต” มอบให้กับกลุ่มวินรถจักรยานยนต์ที่จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี และมีความปลอดภัยในการใช้งาน
ที่สำคัญ “ปิ่นโต” ยังเป็นภาชนะที่ใส่อาหาร และนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ไม่เป็นขยะที่สร้างมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อม เปรียบเสมือนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของ “ปิ่นโต” ที่ใช้พลังงานขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ขยายขอบเขตสังคมไร้มลพิษ ครอบคลุมทุกพื้นที่.