บรรดานักวิเคราะห์และผู้ค้า ต่างกล่าวว่า ราคาของข้าวสาลี, ข้าวโพด และถั่วเหลืองทั่วโลก ซึ่งดีขึ้นมานานหลายปี กลับตกต่ำในปีนี้ เนื่องจากปัญหาคอขวดในทะเลดำที่คลี่คลาย และความกลัวที่ว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก แม้ราคาเหล่านี้ยังคงเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงอุปทานอย่างกะทันหัน และภาวะราคาอาหารเฟ้อในปีหน้า

อนึ่ง ปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของทวีปเอเชียแห้งแล้งในปีนี้ คาดว่าจะดำเนินต่อไปในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ส่งผลให้อุปทานของข้าว, ข้าวสาลี, น้ำมันปาล์ม และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่น ๆ ในประเทศผู้ส่งออก และผู้นำเข้าสินค้าเกษตรชั้นนำของโลกบางแห่ง ตกอยู่ในความเสี่ยง

ผู้ค้าและเจ้าหน้าที่หลายคนคาดการณ์ว่า การผลิตข้าวของเอเชียในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 จะลดลง เนื่องจากสภาพการเพาะปลูกที่แห้ง และปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำที่น้อยลง มีแนวโน้มที่จะทำให้ผลผลิตลดลงตามไปด้วย อีกทั้งอุปทานข้าวทั่วโลกยังตึงตัวในปี 2566 หลังปรากฏการณ์เอลนีโญลดการผลิต ส่งผลให้อินเดีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก จำกัดขนส่งเช่นกัน

ในเดือน เม.ย. 2567 เกษตรกรในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีอันดับสองของโลก อาจต้องปลูกพืชผลของพวกเขาในดินแห้ง หลังความร้อนรุนแรงที่ยาวนานหลายเดือน ลดผลผลิตในปีนี้ และหยุดยั้งการเก็บเกี่ยวติดต่อกัน 3 ครั้ง ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะทำให้ผู้ซื้อหลายราย รวมถึงจีน กับอินโดนีเซีย ต้องการข้าวสาลีมากขึ้น จากผู้ส่งออกรายอื่นในทวีปอเมริกาเหนือ, ทวีปยุโรป และภูมิภาคทะเลดำ

แต่ในแง่ดีสำหรับอุปทานธัญพืช การผลิตข้าวโพด, ข้าวสาลี และถั่วเหลืองของทวีปอเมริกาใต้ คาดว่าจะดีขึ้นในปี 2567 แม้สภาพอากาศที่ไม่แน่นอนในบราซิล ทำให้เกิดความสงสัยอยู่บ้าง

ในอาร์เจนตินา น้ำฝนปริมาณมากในพื้นที่ใจกลางทางการเกษตร น่าจะเพิ่มการผลิตถั่วเหลือง, ข้าวโพด และข้าวสาลีของประเทศได้ ซึ่งตามข้อมูลของตลาดกลางสินค้าเกษตรอาร์เจนตินา หรือ บีซีอาร์ ข้าวโพดที่ปลูกไว้ก่อนหน้านี้ 95% และถั่วเหลือง 75% อยู่ในสภาพ “ดีเยี่ยมถึงดีมาก”

ทั้งนี้ การผลิตน้ำมันปาล์มทั่วโลก มีแนวโน้มที่จะลดลงในปี 2567 เช่นกัน เนื่องจากปรากฏการณ์เอลนีโญ อีกทั้งผลผลิตที่ลดลง ยังเกิดขึ้นท่ามกลางความคาดหวังว่า ความต้องการสำหรับการผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์ม และน้ำมันปรุงอาหารจะเพิ่มขึ้นด้วย

ธนาคารโคแบงก์ ซึ่งเป็นผู้ให้กู้ชั้นนำในภาคส่วนเกษตรกรรมของสหรัฐ ระบุว่า “สินค้าคงคลังของสต๊อกธัญพืชและเมล็ดพืชน้ำมันทั่วโลก ประสบภาวะตึงตัวจากมาตรการต่าง ๆ ในอดีต ส่วนซีกโลกเหนือน่าจะมีปรากฏการณ์เอลนีโญที่รุนแรง ในช่วงฤดูสำหรับเพาะปลูกเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2558 ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ น่าจะยังลดลงต่อไป และอุปสงค์ทั่วโลก น่าจะกลับมาเติบโตในระยะยาว”.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES