เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่นับถือ

ปัจจุบันผมอายุ 75 ปี ยังชอบเล่นกีฬาหลายอย่างโดยเฉพาะตีกอล์ฟ ทุกวันนี้กล้ามเนื้อก็ยังแข็งแรงดีอยู่ แม้ว่าจะป่วยเป็นเบาหวานมาเกือบ 20 ปีก็ตาม พยายามคุมอาหารพวกแป้ง และของที่มีรสหวานมาโดยตลอด เจาะเลือดล่าสุดระดับน้ำตาลน้อยกว่า 100 แพทย์บอกว่าคุมน้ำตาลได้ดีมาก สำหรับความดัน ตรวจวัดเป็นประจำ ค่าออกมาเป็นปกติ รวมทั้งการตรวจวัดความแข็งแรงของหัวใจก็ปกติ เรื่องทางสุขภาพร่างกายไม่มีอะไรที่ต้องเป็นกังวลหนักใจ แต่ในเรื่องสุขภาพทางเพศมีปัญหา คือเริ่มมีอาการอวัยวะเพศไม่แข็งตัวเต็มที่ อาการไม่หนักมากคือบางครั้งก็แข็งตัวได้เอง บางครั้งแข็งตัวแล้วก็อ่อนตัวลงเร็ว แต่พอได้รับการกระตุ้นเล้าโลมก็กลับมาแข็งตัวได้อีก เป็นอย่างนี้เรื่อยมาต้องใช้ยาเฉพาะกิจมากินเสริมร่วมด้วยเป็นบางครั้ง เริ่มใช้ยาเฉพาะกิจมาได้ปีกว่าแล้ว ช่วงแรก 1 เม็ดแบ่งเป็น 4 ส่วน กินทีละส่วนต่อการมีความสุขแต่ละครั้งได้ผลดี มาถึงวันนี้กินทั้งเม็ดก็ยังไม่แข็งตัว แม้ว่าจะเล้าโลมกระตุ้นช่วยก็ตาม ลองกินยาตัวใหม่ที่ใคร ๆ แนะนำก็ไม่ได้ผลเหมือนเดิม จึงอยากเรียนปรึกษาคุณหมอว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และจะแก้ไขได้บ้างไหม

ด้วยความนับถือ
นิรัช 75

ตอบ นิรัช 75

ชายวัย 75 ปี ป่วยเป็นเบาหวาน แล้วเกิดอาการอีดี อวัยวะเพศแข็งตัวไม่เต็มที่แก้ปัญหาด้วยการกินยาเฉพาะกิจช่วงแรกได้ผลดี อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่หลังจากนั้นแม้จะกินยาทั้งเม็ดหรือเปลี่ยนชนิดของยาอวัยวะเพศก็ไม่ยอมแข็งตัว อาการแบบนี้เรียกว่าดื้อต่อยาเฉพาะกิจ ซึ่งประสิทธิภาพของเฉพาะกิจ มักจะแตกต่างกันไปตามสาเหตุของอาการอีดี จากสหรัฐรายงานการศึกษาประสิทธิภาพของเฉพาะกิจในคนไข้อีดี แบ่งเป็นกลุ่มฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรนต่ำ 77 คน ความดันเลือดสูง 61 คน ภาวะโปรแลคตินสูงผิดปกติ 4 คน เบาหวาน 48 คน โรคซึมเศร้า 21 คน ผ่าตัดต่อมลูกหมาก 12 คน ฉายรังสีรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก 8 คน รักษามะเร็งต่อมลูกหมากด้วยวิธีลดฮอร์โมนแอนโดรเจน 3 คน ผ่าตัดมะเร็งทวารหนัก หรือกระเพาะปัสสาวะ 7 คน บาดเจ็บที่ไขสันหลัง
2 คน และหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท 6 คน

พบว่า ประสิทธิภาพของยา คิดเป็น 86.2% ของคนไข้ที่เป็นความดันเลือดสูง 68.7% ในคนไข้เบาหวาน 85.7% ในคนไข้ซึมเศร้า 16.6% ในคนไข้ที่ได้รับการผ่าตัดต่อมลูกหมาก และ 87.5% ในคนไข้ที่ได้รับการฉายรังสีรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก พบว่าคนไข้ที่มีระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำ 15 คน ไม่ตอบสนองต่อยาเฉพาะกิจ จึงได้ให้ฮอร์โมนเพศชายทดแทนพบว่า 11 คน หรือ 73.3% ในกลุ่มนี้ตอบสนองต่อยา

จากการศึกษานี้ แสดงให้เห็นว่าการรักษาผู้ป่วยอีดีที่เป็นโรคดังกล่าวด้วยยากลุ่มพีดีอี 5 ไอ นั้นการรักษาอาจไม่ได้ผล การรักษาอาการอีดีจึงต้องอาศัยหลายวิธีร่วมกันไม่ว่าจะเป็นการบริหารกล้ามเนื้อเพศ ใช้คลื่นเสียงความถี่เพื่อเพิ่มการสร้างเส้นเลือดใหม่ในองคชาต เพื่อให้มีการเพิ่มออกซิเจนแก่กล้ามเนื้อเพศที่ได้ผลคู่กันไป คือ ฝึกกล้ามเนื้อเพศให้แข็งตัวนาน 30 นาทีทุกครั้ง เพื่อจะได้ร่วมเพศเฉพาะ จะได้ร่วมเพศได้ทุกวันเพราะผู้ชายบางคนมีหลายบ้าน ก็จะดูแลได้ทุกบ้านโดยไม่ต้องกินยาเฉพาะกิจที่ไม่ได้ผลแล้วการฝึกก็ใช้เวลาฝึกไม่เกิน 2 อาทิตย์ จะปลอดภัยที่สุด

———————-
ดร.โอ สุขุมวิท 51