เข้าสู่ช่วงเทศกาลแห่งความสุข ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 แต่ก่อนที่เราจะเริ่มต้นใหม่ในปีมังกรทองแบบนี้ “พรุ่งนี้กินไรดี” ก็ไม่พลาดที่จะรวบรวมเมนูที่สุดของความมงคล ทั้ง 9 อาหารมงคล เพื่อเสริมความก้าวหน้าแบบสุดปังของแต่ละประเทศมาฝากกันค่ะ

เริ่มที่ “ขนมชื่อทอง” จากประเทศไทย
เป็นที่รู้กันดีว่า เมื่อถึงงานมงคลต่างๆ สิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยในประเทศไทยก็คือ “ขนมสีทอง” ไม่ว่าจะเป็น ขนมทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เพราะเชื่อว่ากินแล้วจะมั่งมีและเต็มไปด้วยโชคลาภ ปัจจุบันแม้เราจะไม่นิยมกินขนมชื่อทองทั้งหลายแล้วในเทศกาลปีใหม่ แต่ยังใช้เป็นขนมมงคลในงานพิธีต่างๆ

“โทชิโคชิ โซบะ” จากประเทศญี่ปุ่น
โทชิโคชิ โซบะ หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า โซบะปีใหม่ เป็นประเพณีที่มีมานานตั้งแต่สมัยเอโดะ ในคืนส่งท้ายปีเก่าวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี มักจะเป็นวันที่ครอบครัวชาวญี่ปุ่นทุกบ้านร่วมกันกิน เพราะเชื่อว่าหากกินเส้นโซบะในช่วงวันขึ้นปีใหม่ ชีวิตจะยืนยาวเหมือนความยาวของเส้นโซบะ และชีวิตจะง่าย เมื่อเจอปัญหาจะคลี่คลายได้ เหมือนความเหนียวนุ่มของโซบะที่กินง่าย และนุ่มกว่าเส้นทั่วไปนั่นเอง

“ซุปเค้กข้าว” จากประเทศเกาหลี
ซุปเค้กข้าว หรือ ต๊อกกุก Tteokguk เป็นซุปร้อนที่มีลักษณะคล้ายกับกวยจั๊บบ้านเรา ตัวซุปทำจากเนื้อหรือปลาแห้ง เคี่ยวจนเปื่อยยุ่ยได้รสกลมกล่อม แล้วนำแป้งต๊อกไปต้มจนสุก จากนั้นใส่ต้นหอม ไข่ หรือเนื้อสัตว์ตามใจชอบ ตักใส่ถ้วยโรยพริกไทย กินคู่กับกิมจิ เป็นซุปที่คนเกาหลีนิยมรับประทานช่วงปีใหม่ เชื่อกันว่าหากได้ทานเมนูนี้ในคืนปีใหม่ จะทำให้มีอายุยืนยาวเพิ่มขึ้นอีก 1 ปี

“ปลาทั้งตัว” ประเทศจีน
คนจีนมักนิยมกินปลาทั้งตัวในวันปีใหม่ เพราะคำว่าปลาในภาษาจีน ออกเสียงคล้ายกับคำที่มีความหมายว่าอุดมสมบูรณ์ คนจีนจึงเชื่อว่าถ้าได้กินปลาทั้งตัว โดยจะนำมานึ่ง ผัด แกง ทอด อะไรก็ได้ แต่ต้องทั้งตัวเท่านั้นและห้ามหั่น เมื่อกินแล้ว ชีวิตจะอุดมสมบูรณ์ มั่งคั่งด้วยเงินทอง และสุดท้ายต้องกินให้เหลือ เพราะหมายความว่าจะมีเงินให้เหลือใช้ตลอดทั้งปี

“เค้กสอดไส้เหรียญ” ประเทศกรีซ
สำหรับชาวกรีซ อาหารที่นิยมกิน คือ เค้กสอดไส้เหรียญ หรือที่เรียกว่า เค้กรสโปรดสอดไส้ด้วยเหรียญเงินที่เรียกว่า St. Basil’s Cake เพื่อรำลึกถึงนักบุญบาซิล ผู้เปี่ยมเมตตาต่อคนยากไร้ และเสียชีวิตลงในวันที่ 1 มกราคม การนำเหรียญสอดไส้ไปในเค้ก และกินในวันขึ้นปีใหม่ ชาวกรีซเชื่อว่าผู้ใดกินเค้กก้อนนั้นแล้วเจอเหรียญเงิน จะโชคดีตลอดทั้งปี

“ขนมโดนัท” ประเทศเนเธอร์แลนด์
ชาวดัตช์ จะนิยมเสิร์ฟขนมโดนัท ที่มีลักษณะกลมแบบวงแหวนในช่วงปีใหม่ เพราะเชื่อว่าวงแหวนของโดนัท คือสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ และความมั่งคั่ง มีแต่ความโชคดีเข้ามาในชีวิตตลอดทั้งปี

“ผลทับทิม” จากประเทศตุรกี
สำหรับชาวเตอร์กิช เชื่อว่าทับทิมเป็นผลไม้มงคล สัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์และช่วยปกป้องสิ่งชั่วร้าย ทำให้ชีวิตเจอแต่สิ่งดีๆ จึงนิยมกินในช่วงปีใหม่ โดยจะกินเป็นผลสดๆ ซึ่งนอกจากการกินผลทับทิมแล้ว ในช่วงเปลี่ยนศักราช ชาวตุรกีจะหยิบเกลือจากในครัวแล้วเปิดประตูบ้านเพื่อโรยลงพื้น พวกเขาเชื่อว่าการกระทำเช่นนี้ จะนำมาซึ่งความสงบสุขและความมั่งมีแก่บ้านและธุรกิจในครัวเรือน

“ถั่วเลนทิล” (Lentils) ประเทศอิตาลี
เป็นเมล็ดถั่วมีลักษณะกลมแบน และมีหลายสี เช่น น้ำตาล เขียว แดง และเหลือง มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์มาก คนอิตาเลียนนิยมกินถั่วเลนทิลเป็นอาหารมงคลปีใหม่ อันเนื่องมาจากรูปร่างคล้ายเหรียญเงิน หมายความว่ากินแล้วจะมีโชคและเงินทองไหลมาตลอดทั้งปี จะทำเป็นเมนูทานเล่น หรือจะทำเป็นซุปก็ได้เช่นกัน

ปิดท้ายที่ “กะหล่ำปลี” จากประเทศเยอรมนี
กะหล่ำปลี อาจดูเป็นผักธรรมดาของใครหลายคน แต่สำหรับชาวเยอรมัน ถือเป็นเครื่องหมายของความอุดมสมบูรณ์ คนเยอรมันมักนำเอาใบกะหล่ำปลีมาทำเป็นอาหารมื้อแรกของปี เชื่อกันว่าทานแล้วชีวิตจะเจอแต่ความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ เพราะใบกะหล่ำปลีมีลักษณะคล้ายสีเขียวของธนบัตรนั่นเอง

สำหรับสัปดาห์นี้ “น้องเผือกรสแซ่บ” ต้องขอสวัสดีปีใหม่คุณผู้อ่านทุกท่าน ขอให้ทุกท่านก้าวหน้าแบบสุดปังสมกับ “9 อาหารมงคล” ที่เราลิสต์มาให้แล้ว ส่วนสัปดาห์หน้า เราจะเริ่มศักราชใหม่ด้วยการออกเดินทางไปลิ้มลองความอร่อยที่ไหนนั้น ต้องอย่าลืม ห้ามพลาดทุกวันศุกร์กัน “พรุ่งนี้กินไรดี” เช่นเคย.. แล้วพบกันใหม่ในปีมังกรทองนะคะ..

…………………………….
คอลัมน์ : “พรุ่งนี้กินไรดี”
โดย “น้องเผือกรสแซ่บ”