นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในขณะนี้ ส่งผลให้ทางหลวงบางเส้นทางมีน้ำท่วมสูง เป็นเหตุให้ไม่สามารถใช้สัญจรได้ตามปกติ จึงสั่งการให้ สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด และจัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน สำหรับเส้นทางที่น้ำลดแล้ว ได้มีการสำรวจความเสียหายของถนนและระบบระบายน้ำ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้รับความสะดวกปลอดภัยในการสัญจรโดยเร็วที่สุดอย่างต่อเนื่อง ตามข้อสั่งการนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ที่มีความห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัยในครั้งนี้ พร้อมทั้งเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (27 ธ.ค. 66) ได้สรุปสถานการณ์อุทกภัยบนทางหลวง พบทางหลวงถูกน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 3 จังหวัด ได้แก่ จ.นราธิวาส ยะลา และปัตตานี จำนวน 7 สายทาง 9 แห่ง การจราจรผ่านไม่ได้ 5 แห่ง ดังนี้

1.จ.นราธิวาส จำนวน 1 แห่ง คือ บน ทล.4168 ตอนต้นไทร-ปะลุกาสาเมาะ ในพื้นที่ อ.บาเจาะ ช่วง กม.0+000-0+900 ระดับน้ำ 50 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยงบ้านมะยูง ถนนของ อบต. ทางเข้าตรงกับ กม.163+000 บนทางหลวงหมายเลข 00420301 พร้อมเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและปลอดภัย

2.จ.ปัตตานี 4 แห่ง ได้แก่ 1.ทล.4092 ตอนสายบุรี-กะรุบี พื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง ช่วง กม.17+000-17+300 ระดับน้ำ 100 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่น พร้อมเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและปลอดภัย 2.ทล.4092 ตอนจะร้งตาดง-มายอ พื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง ช่วง กม.19+085-กม.19+700 ระดับน้ำ 40 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่น พร้อมเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและปลอดภัย 3.ทล.4060 ตอนสายบุรี-กะรุบี พื้นที่ อ.สายบุรี ช่วง กม.2+750-11+000 ระดับน้ำ 40 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่น พร้อมเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและปลอดภัย และ 4.ทล.42 ตอนปาลัส-กอตอ พื้นที่ อ.สายบุรี ช่วง กม.149+000-152+000 ระดับน้ำ 40 ซม. แนะนำใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่น พร้อมเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและปลอดภัย

ทั้งนี้ มอบหมายให้ สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีพื้นที่ใดประสบปัญหา เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที นอกจากนี้ กรมทางหลวงได้ติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์นำทาง ในบริเวณทางหลวงที่ถูกน้ำท่วม พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์จนกว่าจะคลี่คลาย

ขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฯ ฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางและเส้นทางเลี่ยงได้ที่เว็บไซต์กรมทางหลวง www.doh.go.th