เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ณ บริเวณด่านกาญจนบุรี นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เป็นประธานเปิดทดลองใช้บริการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือมอเตอร์เวย์ หมายเลข 81 (M81) สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ช่วงด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก-ด่านกาญจนบุรี

นายสุรพงษ์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้เปิดบริการ M81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ช่วงด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก ต.วังตะกู อ.เมือง จ.นครปฐม ตัดกับทางหลวงหมายเลข 321 ที่ กม.6+200 จนถึง ด่านกาญจนบุรี ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ตัดกับทางหลวง หมายเลข 324 ที่ กม.8+400 ตั้งแต่ 27 ธ.ค. 66-3 ม.ค. 67 ระยะเวลา 7 วัน ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนชาวกาญจนบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ที่เดินทางในช่วงปีใหม่ได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น นับเป็นของขวัญปีใหม่ที่กระทรวงคมนาคมมอบให้พี่น้องประชาชน และส่งเสริมการท่องเที่ยว จ.กาญจนบุรีและภาคตะวันตกได้เป็นอย่างดี

หากเดินทางด้วยเส้นทางดังกล่าว จะใช้เวลาเพียง 30 นาที เมื่อเปรียบเทียบกับทางหลวงแผ่นดินปกติ (ทล.4 และ ทล.323) ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที ทั้งนี้ บริเวณด่านเก็บเงินค่าผ่านทาง จะมีการกั้นแนว Barrier ชั่วคราว ทั้ง 2 ทิศทาง เพื่อกั้นขอบเขตระหว่างพื้นที่ก่อสร้างภายในด่านฯ และพื้นที่ที่เปิดให้รถยนต์สัญจร รวมทั้งมีการจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยด้วย

ด้านนายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล รองอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า การเปิดให้บริการ M81 ช่วงปีใหม่ 67 จะช่วยแบ่งเบาปริมาณการจราจร ตั้งแต่ช่วง จ.นครปฐม จนถึง จ.กาญจนบุรี ได้ประมาณ 20% หรือ 9,000 คันต่อวัน จากปริมาณจราจรบนถนนแสงชูโตช่วงปกติมีปริมาณการจราจรอยู่ที่ 35,000 คันต่อวัน และช่วงเทศกาลอยู่ที่ 45,000 คันต่อวัน ซึ่งเป็นการเพิ่มความสะดวกและช่วยลดระยะเวลาเดินทางให้แก่ประชาชนที่ต้องเดินทางจากกรุงเทพฯ ไป จ.กาญจนบุรี ได้

สำหรับโครงการ M81 มีจำนวน 25 สัญญา ก่อสร้างเสร็จแล้ว 17 สัญญา อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างงานโยธา 8 สัญญา ความก้าวหน้า ณ เดือน พ.ย. 66 คืบหน้า 95.96% คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ก.ค. 67 ส่วนงานการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) คืบหน้า 32.06% โดยมีเป้าหมายให้งานก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการตลอดเส้นทาง ช่วงปลายปี 67 และเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ โดยเริ่มเก็บเงินค่าธรรมเนียมผ่านทางภายในปี 68

โดยงาน O&M ทล. ร่วมลงนามสัญญาให้เอกชนร่วมลงทุน แบ่งการดำเนินงานเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 งานออกแบบและก่อสร้างด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง พร้อมติดตั้งงานระบบ และองค์ประกอบอื่นที่เกี่ยวข้อง ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี กลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR จะเป็นผู้ออกแบบและลงทุนก่อสร้างติดตั้งงานระบบและองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย งานก่อสร้างด่านและติดตั้งระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางแบบไม่มีไม้กั้น หรือ M-Flow งานระบบควบคุมและบริหารจัดการจราจรอัจฉริยะ งานระบบโครงข่ายสื่อสารใยแก้วนำแสง และระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าบนสายทาง งานอาคารศูนย์ควบคุม และอาคารสำนักงานต่างๆ

ระยะที่ 2 งานดำเนินงานบริหารจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางและบำรุงรักษาถนนและงานระบบทั้งหมด เป็นระยะเวลา 30 ปี นับตั้งแต่เปิดให้ประชาชน โดยกลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR จะทำหน้าที่จัดเก็บค่าผ่านทางและนำส่งรายได้ค่าผ่านทางทั้งหมดให้แก่กรมทางหลวง บริหารจัดการและควบคุมการจราจร ซึ่งรวมถึงงานกู้ภัยและช่วยเหลือผู้ใช้ทางตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดจนซ่อมบำรุงรักษาถนนและงานระบบทั้งหมดของโครงการเป็นเวลา 30 ปี โดยกลุ่มกิจการร่วมค้า BGSR จะได้รับค่าตอบแทนสำหรับค่าก่อสร้างงานระบบ และค่าตอบแทนสำหรับการดำเนินงานและบำรุงรักษา ส่วนการให้เอกชนร่วมลงทุนและบริหารจัดการที่พักริมทาง (Rest Area) อยู่ระหว่างสรุปรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนฯ และเริ่มการคัดเลือกการดำเนินงานก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนงาน

สำหรับรูปแบบโครงการเป็นทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองขนาด 4 ถึง 6 ช่องจราจร ระยะทาง 96 กม. จุดเริ่มต้นเชื่อมต่อกับถนนวงแหวนรอนนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ด้านตะวันตก อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จุดสิ้นสุดอยู่บริเวณทางหลวงหมายเลข 324 (ถนนกาญจนบุรี-อ.พนมทวน) ผ่าน 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี นครปฐม ราชบุรี และกาญจนบุรี มีด่านเก็บค่าผ่านทาง  8 แห่ง ได้แก่ ด่านบางใหญ่ ด่านนครชัยศรี ด่านศรีษะทอง ด่านนครปฐมฝั่งตะวันออก ด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก ด่านท่ามะกา ด่านท่าม่วง และด่านกาญจนบุรี มีที่พักริมทางและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สำหรับผู้ใช้ทาง จำนวน 3 ตำแหน่ง 6 แห่ง แบ่งออกเป็น สถานบริการทางหลวง จำนวน 2 ตำแหน่ง ที่ อ.นครชัยศรี และ อ.เมืองนครปฐม และสถานที่พักริมทาง จำนวน 1 ตำแหน่ง ที่ อ.ท่ามะกา