ปี 2023 นี้ถือได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของทิศทางรถยนต์ของประเทศไทย เพราะนี่เป็นปีที่คลื่นใหญ่ระลอกแรกของ ยานยนต์ไฟฟ้าได้พุ่งเข้ามาปะทะฝั่งอย่างจัง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ยังคงเป็นคลื่นลูกเล็กๆเท่านั้น ดังนั้นค่ายรถยนต์ ที่ยังคงขายเครื่องยนต์สันดาปภายในและเครื่องยนต์ไฮบริด จึงต้องเร่งสปีดอย่างต่อเนื่องเพราะยิ่งวันการเติบโตของคู่แข่งรายใหม่ ยิ่งเร็ววันขึ้นทุกที

นิสสัน จากประเทศญี่ปุ่น เอง ถึงแม้จะเป็นผู้บุกเบิกด้านยานยนต์ไฟฟ้ามาแต่ดั้งเดิมดังจะเห็นได้จากรถยนต์ไฟฟ้า 100% นิสสัน ลีฟ (Nissan Leaf) ที่เข้ามาทำตลาดแบบเบาๆในบ้านเรามาตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนแต่ก็เงียบๆไป เพราะราคายังสูงมากอยู่แต่นิสสันก็ยังเห็นศักยภาพของระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดสูงจึงได้เปิดตัว ระบบ อี-พาวเวอร์ (e-Power) ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปทำหน้าที่ปั่นไฟเข้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ และค่อยดึงเอาไฟจากแบตเตอรี่ส่งไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อขับเคลื่อนรถยนต์ให้วิ่งออกไป ซึ่งโดยหลักการแล้วถือว่าน่าสนใจให้ความสะดวกกว่ารถไฟฟ้า 100% และสบายในการขับขี่ที่เหนือกว่ารถสันดาปทั่วไป เรียกได้ว่า “นิสสัน” มีองค์ความรู้สำหรับการต่อกรในสมรภูมิรถไฟฟ้าอย่างแน่นอน

รถแนวคิดของเราในฉบับนี้เป็นรถที่เป็นผลงานของทีมออกแบบของนิสสันภาคพื้นยุโรป หรือ NDE (NissanDesign Europe) ที่ตั้งอยู่ที่มหานครลอนดอน เป็นรถที่มีชื่อว่า คอนเซปต์ 20-23 (Concept20-23) โดยเป็นรถที่สร้างขึ้นเพื่อฉลองการเปิดสตูดิโอที่ลอนดอนครบรอบ 20 ปีนั่นเอง

โดยแนวคิดนั้นพวกเขาต้องการสร้างรถยนต์ขนาดกะทัดรัดสำหรับใช้งานในเมือง โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเกมส์แข่งรถ โดยสิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นมาก็คือรถขนาดเล็กแบบ 3 ประตู ที่มาพร้อมชุดแอโร่คิท แบบรถแข่ง เต็มรูปแบบแต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม มันก็ได้เผยให้เห็นถึงรายละเอียดบางอย่างที่เชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่จะถูกนำมาใช้กับรถมหาชนอย่าง “นิสสัน มาร์ช” (Nissan March) ได้

สิ่งที่ทำให้นึกถึงนิสสัน มาร์ช เห็นจะเป็นการใช้แถบไฟแอลอีดีที่ดัดเป็นรูบครึ่งวงกลม ประกับกันที่มุมรถทั้งสี่ด้าน ทั้งด้านหน้า และหลังอันทำให้นึกถึงไฟหน้าของนิสสัน มาร์ช ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วก็เชื่อว่าสามารถเป็นไปได้จริง โดยในด้านพื้นผิวของรถแล้ว เรียกได้ว่าทำมาได้สวยเพราะเป็นการผสมผสานพื้นผิวที่โค้งมน เข้ากับการจับจีบ จับสันของตัวถังที่คมกริบ

ส่วนในด้านของการที่มันจะทำงานเป็นรถไฟฟ้าได้ดีเพียงใดนั้น ต้องบอกเลยว่าขนาดของแบตเตอรี่จะขึ้นอยู่กับระยะทางวิ่งที่เราต้องการ และจะเป็นตัวกำหนดขนาดของตัวรถถ้าเรายังคาดหวังว่าจะต้องวิ่งได้ไกล 3-400 กิโลเมตร รถก็จะไม่มีทางมีขนาดเล็กได้ดังนั้นเป็นไปได้ว่า นิสสัน มาร์ช ในเจนเนอเรชั่นต่อไป อาจจะต้องมีขนาดสูสีกับออร่อ กู้ดแคท (ORA Goodcat)

อย่างไรก็ตามก็มีนักวิเคราะห์ในต่างประเทศ ลองจินตนาการ “ลบ” สิ่งที่เขาเห็นว่าไม่จำเป็นแล้วเหลือไว้แต่สิ่งที่เขาคาดว่าจะเป็นรถที่จะผลิตออกขายจริงได้มันก็ออกมาดูดีไม่น้อย แต่ถึงอย่างไรก็ตามเราก็ต้องลุ้นดูว่า กว่าจะถึงวันนั้นนิสสัน เขาจะเอามาขายเราไหม เพราะเขาได้ชื่ออยู่แล้วว่า “ชอบเหรอ? ไม่ขาย” อยู่แล้ว เห็นด้วยไหมล่ะครับ?.

โดย ภัทรกิตติ์ โกมลกิติ