เด็กบางคนไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ได้เท่ากับเด็กในเมือง ดังนั้นเราต้องขจัดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้ได้“…นี่เป็นการระบุไว้โดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี… โดยเป็นส่วนหนึ่งจากประเด็นสำคัญประเด็นหนึ่งที่นายกรัฐมนตรีระบุไว้ในการเสวนา ใน งาน Dailynews Talk 2023 “คนไทยถาม นายกฯ เศรษฐาตอบ” ที่ทาง “เดลินิวส์” จัดขึ้นที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ราชประสงค์ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยเป็นการระบุถึง “ปัญหาการศึกษา” ที่รวมถึง…

กรณี “ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา”

ที่มีผล “ก่อปัญหาเกี่ยวเนื่องมากมาย!!”

เมื่อ “นายกฯ ชูธงแก้…นี่เป็นเรื่องดีแน่”

นายกรัฐมนตรีได้ระบุถึง “ปัญหาการศึกษาของประเทศไทย” ไว้ในการเสวนา ในงาน “Dailynews Talk 2023” หลายส่วน พร้อมชี้ไว้ว่า… “ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา” ก็เป็นปัจจัยก่อเกิดปัญหาการศึกษาไทย อีกทั้ง นายกฯ เศรษฐา ยังมีการระบุด้วยว่า… “ขณะนี้มีเด็กล้านกว่าคนที่หลุดออกจากระบบการศึกษา ซึ่งจะนำเด็กที่หลุดจากระบบให้เข้าสู่ระบบการศึกษาให้ได้มากที่สุด” …นี่ก็ย่อมเป็นอีก “เรื่องดี” ที่เป็น “คนละเรื่องเดียวกันกับเรื่องเหลื่อมล้ำทางการศึกษา”

ทั้งนี้ ปัญหาของไทยที่เกี่ยวกับ “เด็ก-การศึกษาของเด็ก” นั้น…เป็นหนึ่งในประเด็นที่ “เดลินิวส์” โดยส่วนงานต่าง ๆ รวมถึง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ได้ให้ความสำคัญในการนำเสนอ ในการสะท้อนแง่มุมต่าง ๆ สู่ฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการสะท้อนสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม หน่วยงาน รัฐบาล ซึ่งในโอกาสที่ทาง “เดลินิวส์” จัดงาน Dailynews Talk 2023 “คนไทยถาม นายกฯ เศรษฐาตอบ” โดยที่นายกฯ ได้มีการระบุถึงปัญหาการศึกษาในลักษณะ “ชูธงนำแก้ปัญหา” …นี่ก็ย่อมเป็น “เรื่องดีที่น่าตามดู” โดยเฉพาะกรณี “แก้ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา-แก้เด็กหลุดจากระบบการศึกษา”

เพราะกรณีนี้ “มิใช่แค่ปัญหาของเด็ก”…

นี่มิใช่เรื่องเล็ก…นี่ “ก่อผลลบวงกว้าง!!”

ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” เองที่ผ่านมาก็ได้มีการสะท้อนเรื่องนี้กรณีนี้ไว้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะ ๆ… อย่างเช่นการสะท้อนต่อข้อมูลวิจัย “โครงการวิจัยเพื่อศึกษากระบวนการกำหนดนโยบายทางการศึกษาเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของประเทศไทยผ่านมุมมองเศรษฐศาสตร์สถาบัน” โครงการที่เป็นความร่วมมือระหว่างทีมวิจัย ศูนย์วิจัยความเหลื่อมล้ำและนโยบายสังคม คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กับ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ที่ถึงวันนี้ก็ยิ่งน่าพิจารณา ซึ่ง กสศ. นั้นนายกรัฐมนตรีก็ระบุไว้ว่า…ได้เข้ามาช่วยบริหารจัดการปัญหานี้กรณีนี้อีกทางหนึ่ง

ข้อมูลงานวิจัยนี้ ก็มีส่วน สอดคล้องกับที่นายกรัฐมนตรีระบุ โดยมีข้อเสนอเพื่อ “ปลดล็อกเดิม ๆ เพื่อให้การปฏิรูปการศึกษาของประเทศไทยมีสัมฤทธิ์ผลที่ดี” ตามที่ทุกฝ่ายคาดหวัง…ที่ก็ย่อมจะส่งผลดีต่อเนื่องถึงกรณี “แก้ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา-แก้เด็กหลุดจากระบบการศึกษา” ด้วย ซึ่งโดยสังเขปของข้อเสนอเพื่อปลดล็อกนั้นมีว่า…เมื่อนำหลักเศรษฐศาสตร์สถาบันมาใช้ประเมินปัญหา ทำให้พอจะแยกข้อเสนอเรื่องนี้ออกได้เป็น 2 ส่วน คือ… 1.ภาพย่อย (micro) สามารถนำหน่วยงานที่ทำงานเชิงลึกด้านการศึกษา เช่น กสศ. เข้ามาช่วยได้ เพราะมีจุดเด่นด้านการเก็บข้อมูลนักเรียนยากจนระดับครัวเรือนในพื้นที่ ซึ่งอาจเสริมโดยออกแบบวิธีเก็บข้อมูลใหม่ เพื่อขยายมุมมองไปสู่มิติอื่นด้วย ในการเก็บข้อมูล

และ… 2.ภาพใหญ่ (macro) ผลักดันให้ ผู้ปฏิรูป มองเห็นว่าปฏิรูปการศึกษาจะสำเร็จได้ ต้องเปลี่ยนแปลงเรื่องที่ใหญ่กว่าการศึกษาไปพร้อมกันด้วย…นอกจากนี้ นักวิจัยโครงการวิจัยเพื่อศึกษากระบวนการกำหนดนโยบายทางการศึกษาเพื่อลดความเหลื่อมล้ำฯ ได้ระบุไว้ว่า…ไทยสามารถใช้วิธีคิดแบบเศรษฐศาสตร์สถาบันเพื่อช่วยแก้ปัญหาการศึกษา ซึ่งเครื่องมือนี้จะช่วยให้ไทยสามารถ จัดวางตำแหน่งระบบการศึกษาให้ตอบโจทย์กับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมถึงช่วยให้ รู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหนในสังคมไทย ซึ่งการศึกษาไม่ใช่ต้นตอของทุกสิ่งเสมอไป เพราะบางเรื่องก็ถูกตัวแปรอื่น ๆ กำหนด …นี่เป็นข้อเสนอการใช้เครื่องมือเชิงเศรษฐศาสตร์ ซึ่งนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน สันทัดกรณีทางเศรษฐศาสตร์ อาจจะสนใจเครื่องมือนี้

ทั้งนี้ “ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา-เด็กหลุดจากระบบการศึกษา” นั้น “ก่อผลลบวงกว้าง”… อย่างกรณี “ยุวอาชญากร” หนึ่งในกรณีปัญหาที่ในไทยยุคหลัง ๆ มานี้ดูจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ นั้น กรณีนี้ก็มีส่วนที่อาจจะ “ยึดโยงเกี่ยวเนื่อง” จากปัญหาด้านการศึกษากรณีเหลื่อมล้ำ-หลุดจากระบบ เพราะ… สภาพกดดันจากสังคม สภาพแวดล้อมที่ไม่ดีรอบ ๆ ตัวเด็ก-เยาวชน การคบเพื่อนที่เดินทางผิด การแพร่หลายขอสิ่งเสพติด ฯลฯ อะไร ๆ ที่ไม่ดีเหล่านี้เป็น “แรงผลักให้เกิดกรณียุวอาชญากร” …ซึ่งเมื่อเด็กในครอบครัวใดเผชิญกรณีความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาจนเกิดการหลุดจากระบบการศึกษา “โอกาสเจอแรงผลักกรณีนี้ก็ยิ่งสูง!!” …นี่แค่ตัวอย่างเดียวจาก “ผลลบวงกว้าง” ที่อาจเกิดได้ง่าย ๆ จากกรณีดังกล่าว

ดังนั้น… “ต้องขจัดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้ได้” “จะนำเด็กที่หลุดจากระบบให้เข้าสู่ระบบการศึกษาให้ได้มากที่สุด” ที่ทาง “นายกรัฐมนตรีชูธงนำ” ดังที่ระบุไว้ในเวที “Dailynews Talk 2023” ที่จัดโดย “เดลินิวส์” นั้น…

เป็น “นิมิตหมายที่ดีต่อการแก้ปัญหา”…

แก้ปัญหากรณีนี้ “น่าจะยิ่งเต็มที่ขึ้น”…

เช่นนี้ “ย่อมดีแน่…และน่าตามดู??”.