ลดแล่นในวงการมา 12 ปีแล้ว สำหรับ เปรี้ยวทัศนียา การสมนุช พร้อมโชว์ผลงานให้แฟน ๆ ได้เห็นทั้งบทนางเอกและนางร้าย ซึ่งตลอดเส้นทางในวงการ สาวเปรี้ยวนั้นสู้มาตลอด ทั้งคำปรามาสตั้งแต่เด็กว่าเธอนั้นเป็นนางเอกไม่ได้ หรือแม้แต่การโดนบูลลี่เรื่องรูปร่าง ไปจนถึงโดนตัดสินจากภายนอกว่า “หยิ่ง” แต่เปรี้ยวก็ไม่เคยยอมแพ้ พร้อมทำการบ้านอย่างหนัก แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพื่อเอาชนะใคร แต่เป็นการสู้เพื่อตัวเอง งานนี้ “ดาวต่างมุม” จึงไม่พลาดเปิดใจสาวเปรี้ยวแบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ทั้งเส้นทางในวงการ รวมทั้งผลงานล่าสุด อย่าง แม่โขง” ทางช่อง 7HD ดูทีวีกด 35 พร้อมอัปเดตหัวใจ มุมมองความรัก โดยเฉพาะโอกาสลุ้นรักนอกจอกับพระเอกหนุ่ม  มิกค์ ทองระย้า ด้วย

ความน่าสนใจของละคร “แม่โขง” ที่ทำให้ “เปรี้ยว” อยากร่วมโปรเจกต์นี้ คืออะไร?

“เป็นความรู้สึกที่ได้กลับมาร่วมงานกับค่าย9 บีเวอร์ ฟิล์มส์ อีกครั้ง และพี่เวอร์ (โอรีเวอร์ บีเวอร์) เป็นคนกำกับเองด้วย และได้เล่นกับพี่มิกค์และพี่หลุยส์ เฮส ด้วย ซึ่งหนูก็เคยร่วมงานกับพี่มิกค์มาแล้วใน ‘บ่วงวิมาลา’ และมาต่อ ‘แม่โขง’ ก็เลยรู้สึกว่าในเรื่องบ่วงวิมาลา เราไม่ได้สมหวังกัน พอมาเล่นเรื่องนี้ได้คู่กันอีกทีแล้วกัน ด้วยเนื้อเรื่องของแม่โขงก็น่าสนใจ เลยอยากเล่นค่ะ”

เวอร์ชันก่อนประสบความสำเร็จ พอประกาศว่าจะทำรีเมคเรื่องนี้ คนก็รอคอยอยากดู ตรงนี้ทำให้เรากดดันในการทำงาน กลัวคนเปรียบเทียบกับของเดิมมั้ย?

“หนูว่าเป็นละครที่ผู้ชมเฝ้ารอว่าจะเหมือนเวอร์ชันที่แล้วมั้ยสำหรับคนที่เคยดู แต่สำหรับหนูเป็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยดูเวอร์ชันก่อน แค่รู้สึกว่ามันน่าตื่นเต้นและไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร ด้วยมันอิงจากปัจจุบันด้วย มีการรับเปลี่ยนบทให้สมเหตุสมผลมากขึ้นกับปัจจุบันค่ะ ส่วนซีนที่ยากสำหรับหนูก็จะเป็นซีนใต้น้ำ  เพราะว่าหนูว่ายน้ำไม่เป็นและต้องลงไปถ่ายใต้น้ำ มีตอนที่เราต้องกระโดดน้ำจริงด้วยและมีตอนที่เราถ่ายทำใต้น้ำในสระน้ำ ถ่ายทำกับซีจี รวมถึงฉากแอ็กชันในน้ำก็มี ตอนนั้นหนูตื่นเต้นมากค่ะ”

ได้กลับมาร่วมงานกับ “มิกค์” อีกครั้ง ยังต้องปรับจูนอะไรอีกบ้าง?

“ถ้าเกิดเป็นเรื่องการเข้าขากัน ก็ไม่ต้องปรับจูนอะไรมากมาย แต่ตัวพี่มิกค์เองเพิ่งมาเล่นค่าย 9 บีเวอร์ ฟิล์มส์ครั้งแรก เขาก็ต้องปรับตัวนิดนึงกับทั้งการบู๊ที่ค่อนข้างเยอะ และสไตล์การทำงานของค่าย แต่พอมันถ่ายด้วยกันเยอะ ๆ และเป็นเวลานาน เราก็สนิทกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ”

เวอร์ชันที่แล้วเลิฟซีนเยอะมาก มาเวอร์ชันนี้ เลิฟซีนมีให้เห็นมากน้อยแค่ไหน?

“หนูรู้สึกว่า ‘แม่โขง’  กับ ‘บ่วงวิมาลา’ มันเป็นคนละสไตล์กันเลย เรื่องแม่โขงจะเป็นการเลิฟซีนที่สมเหตุสมผล ไม่ใช่การกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันขนาดนั้น แต่จะมีจุดโฟกัสอื่นที่ทำให้คนดูรู้สึกว่าเรารักกันจริง ๆ จากหัวใจ โดยที่เราไม่ต้องพูดอะไรเลย เวลาเข้าฉากเลิฟซีนกับพี่มิกค์หนูไม่เขินแล้ว ส่วนมากจะขำมากกว่า ด้วยความที่สนิทกันมาก และนักแสดงทุกคนเหมือนหลอมละลายความเป็นตัวเองไปกับในกองนี้ เราสื่อสารอารมณ์ด้านความรักกับพี่หลุยส์และพี่มิกค์ ซึ่งกับพี่มิกค์เคยแล้ว มันเลยเหมือนเป็นความตลก ที่ต้องมาทำอะไรโรแมนติกมาก ๆ แบบนี้”

แฟน ๆ ยังคงลุ้นรักนอกจอกับ “มิกค์” พอมีโอกาสมั้ย?

“ก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาตินะคะ เพราะตอนนี้เราก็เป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน พี่มิกค์ก็น่ารักกับหนูมาก ดูแลหนูดี
มาก ๆ  ส่วนสิ่งที่ประทับใจพี่มิกค์คือหนูรู้สึกว่าเขาเป็นสายซัพพอร์ตที่ดี ไม่ว่าเราจะทำงานเหนื่อยหรืออะไรก็ตาม เขาจะเป็นคนที่คอยซัพพอร์ตเราด้านอารมณ์ ความรู้สึก เขารู้ว่าเราเหนื่อย พี่มิกค์และพี่ปู คนที่คอยดูแลพี่มิกค์ก็จะคอยหาของหวานมาให้เรากิน หรือไม่ก็ทำอะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่า หนูเหนื่อยแต่เขาก็ยังอยู่ตรงนี้นะ เขาก็เหนื่อยเหมือนกัน เราก็ซัพพอร์ตกัน”

หลายคนบอกว่าคู่เราเหมาะกันมาก จริง ๆ เสียงเชียร์มีผล ต่อการพัฒนาความสัมพันธ์รึเปล่า?

“สำหรับหนูคิดว่าเสียงเชียร์มันไม่ได้อะไรกับหนูขนาดนั้น เพราะด้านความรู้สึกมันต้องเป็นของแต่ละคน แต่ ณ วันนี้ยังเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันอยู่”

กลัวมั้ยว่ามีข่าวกับ “มิกค์” แล้ว หนุ่ม ๆ จะไม่กล้าเข้ามาจีบ?

“หนูไม่กลัว เพราะปกติไม่ได้มีข่าวกับใคร ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามาจีบ (หัวเราะ) อาจเป็นเพราะหน้าหนูดุมาก หากไม่ยิ้มหรือหัวเราะเลย เขาก็อาจไม่กล้าเข้ามา”

ยืนยันสถานะหัวใจหน่อย?

“โสดค่ะ จริง ๆ แล้วหนูไม่ได้ปิดตัวเองนะคะ หนูโสดแต่บางทีเราก็มีคนคุยบ้าง แต่ด้วยความที่หนูทำงานหนักมาก ๆ บางทีมันอาจเวลาไม่ตรงกัน หรือว่าการใช้ชีวิตมันค่อนข้างแตกต่างกัน ถ้ามีคนคุยกันก็ทำให้เราใจชื้นขึ้นมา แต่หนูทำงานเยอะ ส่วนคนที่จะเอาชนะใจได้ จริง ๆ หนูชอบคนตลก น่ารัก และใจเขาใจเรา ถ้าเราต่างคนต่างใส่ใจซึ่งกันและกัน มันจะผ่านไปได้ด้วยดี เพราะเรามีหน้าที่การงาน มีความรับผิดชอบที่ต้องทำค่อนข้างเยอะ ก็ต้องทำความเข้าใจกันค่ะ”

ที่เคยบอกว่าไม่ชอบคนจีบก่อน ณ วันนี้ยังชอบแบบนั้นอยู่มั้ย?

“อาจจะมีแบบห้าสิบ ๆ จะเข้ามาก็ได้ หรือว่าเราชอบเขาก็ได้ค่ะ แล้วแต่คน แล้วแต่สถานการณ์ สำหรับมุมมองความรักในตอนเด็ก ๆ เราคิดว่า เราชอบคนนี้ ชอบแบบนั้นแบบนี้ แต่พอโตมาเราก็เข้าใจแล้วจริง ๆ ความดีอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีความเข้าใจกันด้วย ตัวเราเองด้วย และเขาด้วย ต้องเข้าใจมาก ๆ ในเรื่องของการใช้ชีวิตหรือการทำงาน บางทีแตกต่างกันมากเกินไป มันก็อาจไปกันไม่รอด”

เคยมองเรื่องแต่งงานหรือยัง?

“เอาจริง ๆ นะหนูยังไม่เคยคิดภาพตัวเองแต่งงาน ไม่มีภาพตัวเองสวมชุดเจ้าสาวเลย อาจมีแบบดูซีรีส์แล้วเพ้อฝันบ้าง แต่ถ้าในเรื่องชีวิตจริง ยังไม่ได้คิดถึงตรงนั้นค่ะ”

นิยาม “ความรัก”  ของ “เปรี้ยว” ณ วันนี้เป็นยังไง?

“ความรักเป็นกำลังใจ เป็นแรงซัพพอร์ตให้เรา บางทีวันที่เหนื่อย เราก็รู้ว่าเรายังมีความรักจากแฟนคลับ ความรักจากครอบครัว เพื่อน และคนร่วมงาน หนูรู้สึกว่ากำลังใจดี ๆ มันทำให้เราก้าวต่อไปได้ แม้เราจะเหนื่อยกาย เหนื่อยใจ แต่พอเรานอนหลับไป เช้ามาเราก็เป็นคนใหม่แล้ว เราก็พร้อมที่จะออกไปทำอะไรที่ทำให้ตัวเองมีความสุขขึ้นค่ะ”

อยู่ในวงการกว่า 12 ปีแล้ว เคยมีช่วงท้อจนไม่อยากไปต่อ
บ้างมั้ย?

“มีท้อบ้างค่ะ ช่วงประมาณ 2 ปีที่แล้ว ที่อาจเพราะตอนนั้นเรายังปรับมายด์เซตตัวเองไม่ได้ด้วย จากคอมเมนต์ต่าง ๆ ที่ตำหนิเรา ที่เคยเป็นข่าวไปแล้ว ตอนนั้นมันเฟลและดาวน์ รู้สึกว่ามันไม่เหมาะกับเรา แต่พอเรามานั่งคิดและคุยกับตัวเองอีกที ก็รู้สึกว่าจริง ๆ มันคือหน้าที่การงานของเรา คือการทำงานที่เรารัก คำติ คำชมมันก็มีอยู่แล้ว เราก็แค่ต้องปรับมายด์เซตของตัวเองให้ได้ และปรับทัศนคติของตัวเองว่ามีคนรัก ก็ต้องมีคนเกลียด เพราะฉะนั้นเราจะเอาทุกอย่างมาใส่ใจเราไม่ได้ อันดับแรกคือรู้เลยว่าเราต้องรักตัวเองให้มาก ๆ เราถึงจะมีความสุขในการใช้ชีวิต ในการทำงานค่ะ”

เป็นคนดังไม่พ้นเสียงวิจารณ์ ก่อนหน้านี้เราก็เผชิญคำบูลลี่เรื่องรูปร่าง จนเป็นแรงฮึดในการลดน้ำหนัก อยากรู้ว่าเรามีวิธีรับมือกับความคิดลบ ๆ ในเรื่องนี้ยังไง เผื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น?

“วิธีการรับมือของหนูที่อยากแชร์ให้คนที่กำลังโดนบูลลี่อยู่ หรือโดนทักเรื่องรูปร่างหน้าตา ก็ให้เรามั่นใจในตัวเอง หนูเชื่อว่าแต่ละคนมีส่วนที่ดีที่สุดของตัวเองอยู่แล้ว และเชื่อมั่นในตัวเองว่าเราไม่ได้ด้อยกว่าใคร ไม่ได้สวยน้อยไปกว่าใคร ไม่ว่าหุ่นเราจะเป็นยังไง หน้าตาเราจะเป็นยังไง แค่ขอให้มั่นใจในตัวเอง อันนี้สำคัญมาก ๆ คือรักตัวเอง”

ในชีวิตยังมีเรื่องอะไรที่คิดว่าเป็นคำปรามาส และเราอยากพิสูจน์ให้เขาเห็นหรือว่าเป็นสิ่งที่ทำประสบความสำเร็จแล้วบ้างมั้ย?

“อาจไม่ใช่ในระหว่างการทำงานในวงการบันเทิง มันเป็นคำที่หนูติดใจมาตั้งแต่เด็ก ๆ ที่คนรอบตัวบอกว่าเราทำไม่ได้หรอก เธอเข้าวงการไม่ได้หรอก เป็นนางเอกไม่ได้หรอก เดี๋ยวเธอก็เป็นแบบนั้น แบบนี้  บางทีเราฟังแล้วก็รู้สึกว่าทำไมเราจะทำไม่ได้ แล้วเราก็มาอยู่ ณ ตรงนี้แล้ว (หัวเราะ)”

มา ณ วันนี้เราก็เป็นหนึ่งในนางเอกแถวหน้าของช่อง 7 แล้ว มันฟูลฟีลเรายังไงบ้าง?

 “หนูรู้สึกว่าที่หนูมาอยู่ตรงนี้ จนวันนี้ 12 ปีแล้ว ไม่ได้ทำเพื่อให้เขาเห็นว่าฉันทำได้แล้วนะ ฉันอยู่ตรงนี้แล้วนะ แต่เรียกว่าเป็นการชนะใจตัวเอง หนูไม่ได้แข่งขันกับใครในระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครเลย เพราะฉะนั้น ในการทำงานของหนูในแต่ละเรื่อง ในแต่ละบทบาทที่หนูได้รับ หนูทำการบ้านกับมันค่อนข้างเยอะ บางคนอาจเห็นหนูไปกองแล้วหลับ (ยิ้ม) แต่ว่าก่อนหน้านี้หนูทำการบ้านมาเยอะจริง ๆ เพราะฉะนั้นหนูหลับมันก็คือการพักผ่อน แต่พอทำงานจริง ๆ เขานับ 5 4 3 2 หนูไม่เคยติดบท การทำงานของหนูเป็นแบบนั้น  เราตั้งใจกับมันมาก ๆ เราชนะตัวเองได้ เราสู้เพื่อตัวเอง”

ด้วยความเป็นคนที่หน้านิ่งแบบนี้ เคยโดนตัดสินจากภายนอกบ้างมั้ย ว่าดูหยิ่งจัง?

“ตลอดเวลาค่ะ มันปี 2023 แล้ว หนูรู้สึกว่าใครจะตัดสินเราจากภายนอกก็ไม่เป็นไรเลย แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ได้รู้จักเรา อาจรักเราก็ได้ เพราะฉะนั้นไม่เป็นไรถ้าจะมองจากข้างนอกว่าเธอหยิ่ง  หนูแค่รู้สึกว่าเขาอาจไม่รู้จักเราดีพอ ก็แค่นั้นเอง ไม่ได้ซีเรียสว่าต้องให้ใครมารักเรา เพราะหนูอยู่กับมันมาตลอด (ยิ้ม) กับคำพูดว่าเธอหยิ่ง แต่เราทำอะไรไม่ได้ เพราะเราก็เป็นคนที่หน้าดุจริง ๆ”

ตลอดทั้ง 12 ปีในวงการ ผ่านผลงานและชีวิตส่วนตัว หากคนพูดถึง “เปรี้ยว” อยากให้คนคิดถึงอะไรมากที่สุด?

“ตาสวยแล้วกัน (หัวเราะ) ถ้ามองหน้าหนูปกติก็อาจดูดุ แต่จริง ๆ แล้วหลัก ๆ เลยมันยู่ที่ตา ตาของหนูโตมาก ถ้ามองแค่ตา ปากเราไม่ยิ้มก็คือดุเลย แต่จริง ๆ แล้ว ถ้าคนมามองหน้าเราใกล้ ๆ สังเกตหน้าเราเจริง ๆ เขาก็จะบอกว่าเราตาสวย ไม่ค่อยเห็นใครที่มีตาแบบนี้ หนูตาโต แต่หัวตาเราจิกมาก ๆ เลยทำให้ดุ”

สิ่งที่ได้เรียนรู้มากที่สุดจากวงการบันเทิง คืออะไร?

“ความรับผิดชอบ ความอดทน หนูรู้สึกว่าเราเข้ามาในวงการแรก ๆ เราอาจไม่ได้เก่ง เราอาจทำอะไรไม่ค่อยถูกใจคนอื่น หรือยังไม่ถูกต้อง แต่เราก็ค่อย ๆ บ่มเพาะประสบการณ์และที่สำคัญก็คือมีความรับผิดชอบ”

การยืนระยะเป็นนางเอก ถือเป็นความสำเร็จไปแล้ว อยากรู้ว่าอยากประสบความสำเร็จในวงการยังไงอีกมั้ย?

“หนูไม่ได้มีตำแหน่งหรือว่าอยู่จุดไหนที่อยากได้ แต่ว่าในแต่ละผลงานที่เราแสดงไป อยากให้คนดูเห็นถึงความตั้งใจว่าเราทำการบ้านมาเยอะนะ อยากให้เขารักตัวละครที่เราเล่นค่ะ ไม่ได้ซีเรียสว่าต้องเป็นนางเอกหรือตัวนำ ถ้าหนูกำหนดว่าต้องเป็นนางเอกทุกเรื่อง ทุกคนก็คงไม่ได้เห็นหนูเล่นร้ายหรอก และมันก็จำกัดการพัฒนฝีมือของเราด้วยค่ะ”

เชื่อว่าการพูดคุยครั้งนี้ จะทำให้แฟน ๆ ได้รู้จักตัวตนและความเป็น “เปรี้ยว” มากขึ้นแน่นอน.

เรื่อง : วันวิสาข์ ดอกเงิน / ภาพ : @jordwphoto