สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ว่า กองทัพอิสราเอลยืนยันการรุกคืบจากทุกทิศทาง เข้าสู่เมืองข่าน ยูนิส ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในภาคใต้ของฉนวนกาซา และกำลังสู้รบอย่างดุเดือดกับนักรบกลุ่มฮามาส


ด้านกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 ราย จากการโจมตีทางอากาศของกองทัพอิสราเอล ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนัก ให้กับโรงเรียนมาอัน ในเมืองข่าน ยูนิส ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์จากสงครามครั้งนี้ ซึ่งปะทุเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา เพิ่มเป็นมากกว่า 16,000 รายแล้ว


เกี่ยวกับชะตากรรมของตัวประกันที่ยังเหลืออยู่ในฉนวนกาซา กองทัพอิสราเอลปรับตัวเลขเพิ่มเป็นอย่างน้อย 138 คน โดยไม่มีการระบุชัดเจน ว่ายืนยันสถานะของตัวประกันแต่ละคนอย่างไร ขณะที่ตลอดช่วงเวลาหยุดยิง ระหว่างวันที่ 24 พ.ย.-1 ธ.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล 80 คน ชาวไทย 23 คน และชาวฟิลิปปินส์ 1 คน และอิสราเอลปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ 240 คน

กลุ่มควันและแสงไฟจากการโจมตีทางอากาศของกองทัพอิสราเอล ในเขตภาคใต้ของฉนวนกาซา


อีกด้านหนึ่ง พญ.ฮาการ์ มิซราฮี จากกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอล กล่าวต่อคณะกรรมาธิการธิการของสภาแห่งชาติอิสราเอล หรือ คเนสเซ็ท ว่ากลุ่มฮามาสใช้ยากล่อมประสาท “โคลนาซีแพม” กับตัวประกันบางคน เพื่อให้มีท่าทีสงบและผ่อนคลาย ระหว่างการนำตัวมาส่งให้กับคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ไอซีอาร์ซี)


ส่วนนายโอซามา ฮัมดัน หนึ่งในแกนนำฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส ซึ่งลี้ภัยอยู่ที่เลบานอน เป็นสมาชิกระดับสูงคนล่าสุดของกลุ่มฮามาส ที่ออกมายืนกรานว่า จะไม่มีการปล่อยตัวประกันคนใดออกมาอีก จนกว่าจะมีข้อตกลงหยุดยิงในระยะยาว.

เครดิตภาพ : AFP