ทั้งนี้ ในโอกาสที่บรรยากาศวันพ่อยังมิจางไป…นอกจากกรณีพ่อยุคใหม่ที่ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” นำเสนอไปแล้ว วันนี้ก็พลิกแฟ้มชวนดูกันอีกครั้งถึงกรณีพ่อเลี้ยงเดี่ยว ซึ่งแม้ว่าจะไม่ค่อยคุ้นกันเท่ากรณี “แม่เลี้ยงเดี่ยว-Single Mom” แต่ในไทยยุคปัจจุบัน “พ่อเลี้ยงเดี่ยว-Single Dad” นี่ก็ “มีอยู่ไม่น้อย”…

“พ่อเลี้ยงเดี่ยว” นั้น “ชีวิตยิ่งไม่ง่าย!!”

นี่ก็อีกปรากฏการณ์ที่ “สังคมควรเข้าใจ”

ซึ่งในไทยก็มี “งานศึกษาวิจัย” พ่อกลุ่มนี้…

ทั้งนี้ กลุ่มคนที่มีสถานะเป็น “พ่อเลี้ยงเดี่ยว-Single Dad” นั้น ว่ากันว่า “ในไทยนับวันก็จะมีเพิ่มมากขึ้น!!” จนเกิดเป็น “ปรากฏการณ์พ่อเลี้ยงเดี่ยว” ซึ่งที่ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” พลิกแฟ้มชวนดูกันอีกในวันนี้จะเป็นการสะท้อนต่อข้อมูลงานวิชาการ-การศึกษาวิจัยเรื่อง “การปรับตัวเมื่อเป็นครอบครัวพ่อเลี้ยงเดี่ยว : ประสบการณ์ชีวิตพ่อเลี้ยงเดี่ยว” โดย สุจิตรา อู่รัตนมณี, จินตนา วัชรสินธุ์, เปรมวดี คฤหเดช วิทยาลัยพยาบาลและสุขภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ที่มีการเผยแพร่อยู่ในวารสารพยาบาลทหารบก ปีที่ 17 ฉบับที่ 3 (ก.ย.-ธ.ค.) 2559 ซึ่งผู้ศึกษาวิจัยเรื่องนี้ได้ระบุถึง “วัตถุประสงค์” ไว้ว่า เพื่อ…

ศึกษา “การปรับตัวของพ่อเลี้ยงเดี่ยว”

ที่ “ต้องสวมบทบาทเป็นทั้งพ่อและแม่”

ในยุคอดีตนั้นแม่เป็นบุคคลหลักในการเลี้ยงดูลูก จึงไม่น่าแปลกใจที่ สังคมไทยมักไม่ได้คาดหวังพ่อให้เป็นบุคคลหลักในการเลี้ยงดูลูก อย่างไรก็ตาม แต่หลังจากบริบทและสภาพสังคมไทยได้เปลี่ยนแปลงไปมาก และจากการที่ โครงสร้างครอบครัวไทยมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปจากเดิมมาก ก็ได้ทำให้ เกิด “ครอบครัวพ่อเลี้ยงเดี่ยว” เพิ่มขึ้น โดยที่ พ่อกลายเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการเลี้ยงลูกแทนแม่ที่ขาดหายไป…นี่ก็เป็นอีก “ภาพสะท้อนสังคมยุคใหม่” และก็เป็น “อีกผลพวงจากสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป” ที่งานศึกษาวิจัยดังกล่าวข้างต้นได้มีการฉายไว้ในส่วนของบทนำงานศึกษาวิจัย

และสำหรับ “นิยาม” ของคำว่า “พ่อเลี้ยงเดี่ยว” นั้น ก็ได้มีการระบุไว้ว่า… หมายถึง “พ่อที่เลี้ยงลูกคนเดียวภายหลังจากภรรยาแยกทางกันหรือเสียชีวิต” ที่เป็นการเปลี่ยนบทบาทจากพ่อในครอบครัวที่มีคู่สมรส เปลี่ยนเป็นการทำหน้าที่ควบ 2 บทบาท หรือเป็น “พ่อแม่แบบ Two in one” โดยที่…สังคมแวดล้อมก็มักมี “คำถาม” ถึงบทบาท “พ่อเลี้ยงเดี่ยว” ว่า… “จะสามารถทำหน้าที่แทนแม่ของลูกได้ดีแค่ไหน??”“ …ซึ่งเพราะ “พ่อเลี้ยงเดี่ยวต้องมีการปรับตัวค่อนข้างมาก” ก็จึงเป็นเรื่องที่ “สังคมควรทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงบทบาท” ของผู้ที่ต้องเป็น “พ่อเลี้ยงเดี่ยว” …นี่เป็นเป้าหมายงานวิจัย

ข้อมูลที่งานศึกษาวิจัยชิ้นนี้ค้นพบและนำเสนอไว้นั้น… เป็นข้อมูลที่พบผ่านประเด็นเกี่ยวกับ “ชีวิตพ่อเลี้ยงเดี่ยว” ในด้านต่าง ๆ ดังนี้คือ… ด้าน การปรับตัว” พบว่า พ่อเลี้ยงเดี่ยว ต้องปรับบทบาทหน้าที่ค่อนข้างมาก ทั้งการทำหน้าที่ทดแทนแม่ที่ขาดหายไปให้ลูก รวมถึงพ่อเลี้ยงเดี่ยว ต้องปรับรูปแบบการทำงานเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะการเลี้ยงดูลูก เช่น ลูกที่ยังเล็กก็ต้องตื่นทุก 2-3 ชั่วโมงเพื่อจัดหานมให้แทนแม่ ต้องทำอาหารให้ลูกทาน ต้องอาบน้ำ ต้องจัดการเสื้อผ้าให้ลูก เป็นต้น

ด้าน “การปรับชีวิต” พบว่า เมื่อกลายเป็น “พ่อเลี้ยงเดี่ยว” ก็ทำให้ ต้องปรับตัวเรื่องเวลาในการดูแลตนเอง ด้วย เช่น การพักผ่อน การทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยเมื่อเทียบกับครอบครัวที่มีทั้งพ่อและแม่ช่วยกันดูแลลูก ช่วงที่ลูกยังเล็กพ่อเลี้ยงเดี่ยวก็จะแทบไม่มีเวลาส่วนตัวทำกิจวัตรประจำวันและเวลาพักผ่อน เพราะต้องทุ่มเทเวลาที่มีทั้งหมดเลี้ยงดูลูกเพื่อทดแทนแม่ที่ขาดหายไป ซึ่งการปรับตัวเหล่านี้ “ก็คล้ายกรณีแม่เลี้ยงเดี่ยว” และกับด้าน “การปรับจิตใจ” ก็คล้ายกันเช่นกัน โดยพบว่า…คุณพ่อกลุ่มนี้ เมื่อต้องเปลี่ยนสถานะกลายเป็น “พ่อเลี้ยงเดี่ยว” เกือบทุกคนจะ “รู้สึกเครียด รู้สึกวิตกกังวล รู้สึกเศร้า”…

โดยเฉพาะ “เมื่อต้องตอบคำถาม?”…

คำถาม “เกี่ยวกับแม่ของลูกที่หายไป?”

ขณะที่ด้าน “การปรับตัวรับการพึ่งพา” นั้นพบว่า เมื่อคนที่เป็น “พ่อเลี้ยงเดี่ยว” ประสบปัญหาต้องการ “ความช่วยเหลือ” ก็จะพยายามปรับตัวโดย หาแหล่งสนับสนุนทางสังคม เช่น พึ่งพาครอบครัวญาติพี่น้อง พึ่งพาเพื่อน-คนรอบตัว นี่รวมถึงในบางเวลา
ที่พ่อเลี้ยงเดี่ยวจำเป็นต้องไปทำธุระด้วย นอกจากนี้ยังพบว่าเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับ “สุขภาพของลูก” ในกรณีเร่งด่วนนั้น พ่อเลี้ยงเดี่ยวส่วนใหญ่เลือกใช้วิธี โทรศัพท์ถามแม่ หรือถามพี่น้อง หรือถามญาติ ที่มีสถานะเป็นคุณแม่ เพื่อขอคำแนะนำการช่วยเหลือแก้ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพของลูก…ทั้งนี้ ในชุดข้อมูลงานวิชาการเรื่องนี้ยังมีส่วนที่ระบุไว้ว่า…

ผลศึกษาวิจัยจะช่วยให้บุคลากรด้านการแพทย์ บุคลากรด้านสังคมวิทยา เห็นถึง “วิถีชีวิตการปรับตัวของพ่อเลี้ยงเดี่ยวในบริบทสังคมไทย” รวมถึง “พฤติกรรมที่ส่งผลด้านสุขภาพและสังคม” อันจะเป็นข้อมูลพื้นฐานในการวางนโยบายสาธารณสุขและสังคมสำหรับ “ครอบครัวลักษณะพิเศษ”… ซึ่ง ณ ที่นี้วันนี้ก็ขอสะท้อนย้ำต่อสังคมไว้อีกส่วนหนึ่งด้วยว่า…

“พ่อเลี้ยงเดี่ยว” ก็ต้องการ “ความเข้าใจ”

และก็รวมถึงต้องการ “ความช่วยเหลือ”

“เข้าใจ-ช่วย…ย่อมดีต่อลูก-ดีต่อเด็ก”.