อีกหนึ่งในความภูมิใจของกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระดับโลก การแข่งขันเก็บขยะชิงแชมป์โลก SPOGOMI WORLD CUP 2023 จัดขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น สร้างสรรค์โดย Nippon Foundation มีการสนับสนุนตัวแทนทีมชาติไทย ซึ่งเป็นทีมชนะเลิศจากการแข่งขัน SPOGOMI WORLD CUP 2023 THAILAND STAGE ที่จัดขึ้นจากการผนึกกำลังของบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และจี ยู ครีเอทีฟ ไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ที่สยามพารากอน และ ผลการแข่งขันเก็บขยะชิงแชมป์โลก SPOGOMI WORLD CUP 2023 จากทีมผู้เข้าแข่งขัน จาก 21 ประเทศทั่วโลก ผลปรากฎว่า ทีมผู้เข้าแข่งขันจากสหราชอาณาจักร คว้ารางวัลชนะเลิศไปครอง ขณะที่ทีมชาติไทยได้ลำดับที่ 12

นอกเหนือจากการส่งเสริมตัวแทนทีมชาติเข้าแข่งขันเก็บขยะชิงแชมป์โลก SPOGOMI WORLD CUP 2023 แล้ว นราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ ประธานบริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ได้ร่วมนำเสนอวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการบริหารจัดการทางด้าน Sustainability พร้อมด้วยนโยบายการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ที่ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะเป็น Net Zero Shopping Mall แห่งแรกของประเทศไทย ให้กับผู้แทนจากสถานเอกอัครราช ณ กรุงโตเกียว และผู้แทนจากเขตชินากาวา ประเทศญี่ปุ่น ในโอกาสการร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาเพื่อสิ่งแวดล้อม เนื่องในวันคล้ายวันพระบรม ราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2566 ณ หอประชุม สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว

นราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ กล่าวว่า “จากความมุ่งมั่นในการใช้ศักยภาพและเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ร่วมกันขับเคลื่อนเมืองต้นแบบมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางที่ใส่ใจฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมใจกลางเมือง ผลักดันเรื่องพลังงานหมุนเวียน บริหารจัดการขยะแบบ 360 องศา ภายใต้โครงการ Siam Piwat 360° Waste Journey to Zero Waste เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ภายในปี 2050เรายังนำจุดแข็งในด้านการจัดอีเวนต์ ที่มีอีเวนต์ระดับโลกเกิดขึ้นมากมาย ด้วยการสร้างสรรค์กิจกรรมทางด้านสิ่งแวดล้อม โดยผนึกกำลังพันธมิตรจากภาครัฐและเอกชนจัดการแข่งขันกีฬาเก็บขยะครั้งแรกของประเทศไทย งาน SPOGOMI WORLD CUP 2023 THAILAND STAGE เพื่อหาตัวแทนประเทศไทยร่วมแข่งขันกีฬาเก็บขยะโลก ”

นราทิพย์ ยังกล่าวย้ำด้วยว่า “ เรามองธุรกิจในบริบทใหม่แบบไม่มีกรอบ ดำเนินธุรกิจโดยปราศจากคู่แข่งแต่เปี่ยมไปด้วยพันธมิตร สร้าง Ecosystem เพื่อความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่า และเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนกับทุกภาคส่วน และยังพัฒนาศักยภาพของบุคลากรภายในองค์กรเพื่อร่วมขับเคลื่อนมิติแห่งความยั่งยืนจากรุ่นสู่รุ่นAbove the Ocean คือกลยุทธ์ที่ทำให้เราพัฒนาจากหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์สู่องค์กรที่พร้อมสำหรับอนาคตที่จะสามารถเชื่อมธุรกิจ ผู้คน และโลก (Prosperity People Planet) เป็นหนึ่งเดียว ด้วยการสร้าง Ecosystem ที่ทุกฝ่ายในห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ได้รับประโยชน์ และเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน สำหรับในด้านสิ่งแวดล้อม หรือการฟื้นฟูโลก (Planet) ซึ่งเป็นเรื่องหลักในครั้งนี้ เป้าหมายคือ เป็นแพลตฟอร์มของการฟื้นฟู (Regeneration Hub) เพื่อบริหารจัดการพลังงานและจัดการทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพที่ช่วยทำให้ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น โครงการ Solar Rooftop การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งเป็นพลังงานหมุนเวียน และเป็นพลังงานสะอาด ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง โดยเราตั้งเป้าและประกาศไปแล้วว่าเราจะใช้พลังงานทดแทนให้ได้ 100% ในปี 2030

“ การจัดทำโครงการ Siam Piwat 360° Waste Journey to Zero Waste ใช้พื้นที่ภายในศูนย์การค้าเป็นจุดบริการรับขยะ Recycle Collection Center ; RCC ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร นำขยะที่ทำความสะอาดและคัดแยกแล้วส่งต่อเข้ากระบวนการรีไซเคิล และนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ หรือนำมาเข้าสู่กระบวนการอัพไซเคิล เพิ่มมูลค่าเป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ อาทิ กระเป๋า เสื้อผ้า หมวก พวงกุญแจ ฯลฯ ซึ่งสินค้าส่วนหนึ่งวางจำหน่ายบนพื้นที่สำหรับสินค้ารักษ์โลกอย่าง Ecotopia และยังขยายผลเปิดโอกาสให้ลูกค้าและประชาชนที่นำขยะมาฝากไว้ ณ จุด RCC แลกเปลี่ยนเป็น Viz Coins ผ่าน ONESIAM SuperApp ช่วยส่งเสริมให้ผู้คนร่วมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการคัดแยกขยะ ด้วยประสบการณ์ในการเปลี่ยนขยะจากสิ่งที่ไม่มีมูลค่าให้มีคุณค่า ให้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีเป้าหมายลดปริมาณการฝังกลบของขยะจากการดำเนินงาน 50% ภายในปี 2030 จากกิจกรรมทางด้านสิ่งแวดล้อมที่ได้ดำเนินการ สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่ากับ 18,825 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 1,981,535 ต้น สยามพิวรรธน์มีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนความยั่งยืน โดยมีพันธกิจสำคัญคือ การพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศไทย เพื่อส่งต่อโลกที่น่าอยู่ให้กับทุกคนและผู้คนในรุ่นต่อไป” ผู้บริหารบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวทิ้งท้าย